ข่าวข่าวภูมิภาคข่าวอาชญากรรม

รวบตัว ‘โกต๊อก’ รวยนับพันล้าน ค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา หลังหนีคดีนานกว่า 4 ปี

วันนี้ (3 พ.ย.) ตำรวจได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายสุพัฒน์ หรือโกต๊อก สันติปิยกุล อายุ 59 ปี ที่ บก.สตม. ชั้น3 ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ในฐานความผิด ‘สมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในทางร่างกายและเรียกค่าไถ่’

 

ตำรวจระบุว่า สามารถจับกุมตัว นายสุพัฒน์ ได้ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. เผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดีเดียวกันได้คือ นายบรรณจง หรือโกจง ปองผล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น พลเรือนทั้งไทยและสัญชาติเมียนมา รวม 103 คน เมื่อช่วงเดือนพ.ย.2555 ถึงวันที่ 1 พ.ค. 2558

 

ภาพจาก ข่าวสด

 

ทั้งหมดมีฐานความผิด ‘สมคบกันค้ามนุษย์ที่กระทำกับบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี และเกินกว่า 18 ปี อันเป็นความผิดตามพรบป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ.2551 มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพ.ศ2556 และความผิดอื่นตามประมวลกฎหมายอาญา’

 

นายสุพัฒน์ เป็นนักธุรกิจดิวตี้ฟรีมูลค่าหลายพันล้าน ในอ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ตองหารายสำคัญในคดี เมื่อเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงทางการเงินนับพันล้านบาท จึงได้ทำการออกหมายจับ แต่นายสุพัฒน์ไหวตัวหลบหนีข้ามชายแดนไปประเทศมาเลเซีย โดยใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจคอยให้การช่วยเหลือให้หลบซ่อนตัวนาน 4 ปี แต่ต่อมาเมื่อสืบทราบว่า หลบหนีมาที่ประเทศกัมพูชาจึงได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชา และสามารถจับกุม นายสุพัฒน์ ได้บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ

 

ภาพจาก ข่าวสด

 

นายสุพัฒน์ รับสารภาพว่ารู้จักกับพล.ท.มนัส เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยตนจะทำหน้าที่ฟอกเงิน ภายหลังถูกหมายจับได้หลบหนีไปที่ประเทศมาเลเซียเพื่อหลบซ่อนตัว แต่ที่มาประเทศกัมพูชาเพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นการพนันจึงทำการข้ามไปมาระหว่าง 2 ประเทศจนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้

 

จากการสอบสวน นายสุพัฒน์ ให้การภาคเสธว่า รู้จักกับกลุ่มพล.ท.มนัส และมีการโอนเงินกันจริง แต่เป็นการทำธุรกิจดิวตี้ฟรี และธุรกิจแลกเงิน แต่ไม่ได้ร่วมค้ามนุษย์ โดยระหว่างหลบหนีก็ได้เดินทางเข้าออกประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทยอยู่ตลอดซึ่งขณะที่หลบหนีมาอยู่กัมพูชาก่อนถูกจับกุมนั้น ได้เข้ามาเล่นการพนัน หลังการจับกุม เมื่อตรวจสอบตัวผู้ต้องหานั้นมีเงินสดไม่มาก รวมถึงเมื่อซักถามผู้ต้องหา ก็พบว่ามีหนี้สินจากการเล่นพนันอีกด้วย

 

ขณะนี้ ยังมีผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวตามหมายจับเหลืออยู่ประมาณ 25 คน โดยแต่ละคนอยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จะนำตัวนายสุพัฒน์ ไปคุมขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในวันพรุ่งนี้

 

 

ที่มา ข่าวสด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button