สุขภาพและการแพทย์

สหรัฐฯเตรียมออกกฏ ติดฟังชั่นวัดแอลกอฮอล์ในรถ, เกินค่า สตาร์ทไม่ติด

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะมีการรณรงค์ จัดแคมป์เปญหรือตั้งด่านถี่แค่ไหน แต่พฤติกรรมเมาแล้วขับ ยังคงเป็นอะไรที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล พฤติกรรมนี้ยังสร้างความเสียหายมากมายต่อทั้งผู้คนและทรัพย์สิน. ปัญหาเมาแล้วขับมีสามปัจจัยหลักๆคือ บุคคล+แอลกอฮอล์+รถ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราตัดเรื่อง ‘รถ’ ออกไป.

NHTSA (the National Highway Traffic Safety Administration)หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงของสหรัฐฯ ได้เริ่มทำการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยลดปัญหาเมาแล้วขับ. โดย สว. Tom Udall จากพรรค Democrat และ Rick Scott จาก Republican มีการเตียมเสนอกฏหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทรถยนต์ต่างๆ ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ภายใน 5 ปีข้างหน้า.

Advertisements

ภาพ : drugabuse.com

โดยเทคโนโลยีนี้จะเป็นในลักษณะของการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยการใช้อินฟรเรทฉายไปที่ปลายนิ้ว ใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ที่บริเวรปุ่มกดสตาร์ทหรือที่บริเวรพวงมาลัย หากมีการตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ ระบบจะทำการตัดไปไม่ให้สามารถสตาร์ทรถได้. อีกความเป็นไปได้คือการตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตาหรือลมหายใจของผู้ขับขี่.

NHTSA ลงทุนไปหลานล้านกับโปรเจ็คนี้, เทคโนโลยีดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ ตั้งเป้าภายในปี 2024 รถทุดคันในอเมริกาจะต้องมีฟีเจอร์ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิ้นฐาน. สำหรับรถในรุ่นปีที่เก่ากว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อาจมีการบังคับให้ติดตั้งในลักษณะของอุปกรณ์เสริมจ้างอู่ที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาต ก็เป็นได้.

ที่มา : CNET

Advertisements

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button