วานนี้ (29 ก.ย.) นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ระบุถึงความคืบหน้า สถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พบว่า สามารถตรวจวัดได้ ระหว่าง 37-67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งถือว่าเกินเกณฑ์มาตรฐานใน 15 พื้นที่
โดยค่ามาตรฐานปกแล้วอยู่ที่ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. และพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานประกอบด้วย
- เขตปทุมวัน
- เขตสาธร
- เขตบางคอแหลม
- เขตยานนาวา
- เขตคลองสาน
- เขตภาษีเจริญ
- เขตบางซื่อ
- เขตหลักสี่
- เขตบางเขน
- เขตบางพลัด
- เขตบางขุนเทียน
- อ.พระประแดง
- อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
- อ.กระทุ่มแบน
- อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ทางกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า มีความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ลมอ่อนกำลังลง อากาศนิ่ง และจมตัว ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง โดยคุณภาพอากาศในพื้นที่ทั้ง 15 แห่ง ที่มีเครื่องวัดคุณภาพอากาศ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว
นายประลอง ระบุว่า เนื่องมาจากสภาวะอากาศฝุ่นละออง หมอกควัน PM2.5 ที่สูงในทั้ง 15 พื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้แจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ
ที่มา ข่าวสด
