ข่าวภูมิภาค

น้ำเน่าหาดบางเทาโผล่อีก ไหลลงชายหาด ส่งกลิ่งฟุ้งทั่วบริเวณ

วันนี้ (11 พ.ค.62) จากกรณีมีผู้เผยแพร่ภาพและข้อความน้ำเสียภายในคลองบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่ามีสีดำและส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก และการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้สื่อข่าวพบว่า ภายในลำคลองดังกล่าว สภาพน้ำมีสีดำคล้ำและส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่บริเวณชายหาดจนถึงสะพานข้ามระยะทางประมาณ 120 เมตร สอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว ทราบว่า น้ำในบริเวณนี้มีสีดำและส่งกลิ่นเหม็นมาก ซึ่งเป็นลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้จะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาถาวร มีเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนของระบบบำบัดที่มีอยู่ก็ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

นายเกชา เกราะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน, ชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และชาวบ้านที่อยู่ริมคลองว่า มีน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก และเป็นลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ด้วย เนื่องจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และการทำมาหากินของพี่น้องในชุมชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านการบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน

Advertisements

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในคลองแห่งนี้ ทางกลุ่มพี่น้องประมงพื้นบ้านและกลุ่มเรือหางยาว ได้มีการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 2556 จนปัจจุบันปัญหาก็ยังเหมือนเดิม ทราบว่าทางผู้ว่าฯ ภูเก็ตมีดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาในบริเวณนี้อย่างจริงจัง และทางชุมชนก็รอความความหวังอยู่” นายเกชากล่าว

นายวิสิทธิ์ จำปาดะ ผู้ประกอบการเรือหางยาว บางเทา กล่าวว่า ปัญหาน้ำเป็นมานานแล้ว สิ่งแวดล้อมไม่ดีเป็นอย่างมาก แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านมาไปบริเวณนี้ต่างบอกว่า เป็นเรื่องไม่ดีเลย หรือ No Good และบางส่วนก็ไม่ยอมที่จะมาลงเล่นน้ำทะเลที่บริเวณปากคลอง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงแรมที่พักซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะโทษว่าเกิดจากชาวบ้าน ซึ่งปัญหานี้เป็นมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็ได้มีการร้องเรียนมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะลงมาตรวจสอบ และจากนั้นก็หายไป ไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงอยากให้มีการแก้ปัญหาอย่างถาวร เพราะบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button