สุขภาพและการแพทย์

10 ข้อปฏิบัติไกลโรครับหน้าฝน

เข้าพฤษภาฯ หน้าฝนก็เริ่มแล้ว และหลายๆ พื้นที่ก็ปกคลุมด้วยเมฆและมรสุมหลังแดดระอุของเดือนเมษายน ข้อดีคือหลายพื้นที่ที่กำลังขาดแคลนน้ำก็จะได้เริ่มมีน้ำใช้ และต้นไม้ใบหญ้าก็จะได้กลับมาสดชื่นเขียวชอุ่มอีกครั้ง แต่เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเปลี่ยนเข้าหน้าฝนเช่นนี้ หลายๆ คนก็อาจป่วยได้ง่ายๆ วันนี้เรามี 10 ข้อปฏิบัติเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไกลหวัด ไกลป่วย ตลอดฝนนี้

  1. เสริมด้วยวิตามินซี

ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีสูงหรือจะเป็นการรับประทานอาหารเสริมล้วนแต่เป็นการช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากไวรัสที่ก่อให้เกิดหวัด แม้ว่าจะยังมีการถกเถียงอยู่ว่าวิตามินซีนั้นช่วยรักษาหวัดได้จริงหรือไม่ แต่วิตามินซีก็ยังคงเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยลดความรุนแรงของอาการหวัดได้ วิธีการง่ายๆ ลองเติมผักผลไม้ที่มีวิตามินสูงอย่าง พริกหยวกสีแดง/สีเขียว มะละกอ และสัปปะรดในเมนูอาหารแต่ละมื้อ หรือลองดื่มน้ำผัก/ผลไม้คั้นสดอย่าง ผักใบเขียว แอปเปิล แตงกวา แครอท หรือน้ำมะนาวก็จะช่วยเสริมวิตามินซีได้

  1. นวด

นอกจากจะช่วยให้ผ่อนคลายสบายตัวแล้ว การนวดยังมีประโยชน์อีกมากมาย โดยเฉพาะการช่วยให้เลือดไหลเวียนกระตุ้นการทำงานของกลไกในร่างกาย ทำให้เซลล์ในร่างกายจะได้รับออกซิเจนมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยลดความเครียดให้ร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

  1. ดื่มอะไรร้อนๆ

ไม่ว่าจะเป็น ชาตะไคร้ ชาคาโมลายล์ ช็อกโกแลตร้อน โดยเฉพาะชาเขียวร้อนผสมมะนาวและน้ำผึ้ง ซึ่งช่วยป้องกันหวัด และอาการติดเชื้ออื่นๆ ที่มาจากอุณหภูมิร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นายแพทย์ Murray Grossan ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหู ตา คอ จมูก แห่งโรงพยาบาล Cedars-Sinai ในเมืองลอสแองเจลลิส กล่าวว่า ไอน้ำที่ระเหยจากเครื่องดื่มร้อน ๆ สามารถกระตุ้นรูขุมขนในจมูก ทำให้ขนจมูกทำหน้าที่ในการดักเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งมะนาวและน้ำผึ้งก็ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจกระตุ้นให้เกิดไข้หวัดได้ดียิ่งขึ้น

  1. กินกระเทียม

กระเทียมมีประโยชน์มากมายอย่างที่ทราบกันดีและหนึ่งในนั้นคือการช่วยฆ่าเชื้อโรคและสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน หลายงานวิจัยก็ระบุว่าการกินกระเทียมเป็นประจำจะช่วยป้องกันหวัดได้

  1. ล้างมือบ่อยๆ และรักษาความสะอาดของบ้าน

ช่วงหน้าฝน มีคนเป็นหวัดกันมากขึ้น จึงควรล้างมือบ่อยๆ เพราะในแต่ละวันเราต้องสัมผัสกับอะไรมากมาย นอกจากนี้ ช่วงฝนตกเช่นนี้ เราจะใช้เวลาอยู่ติดบ้านมากขึ้นและอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของที่อยู่อาศัย ไม่ให้มีฝุ่นหรืออับชื้น

  1. ดื่มน้ำมากๆ

การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นไม่ว่าฤดูไหนก็จำเป็น และเมื่อถึงฤดูฝน เราอาจไม่รู้สึกหิวน้ำมากนักเพราะอากาศที่เย็นและชื้น แต่อย่ารอจนหิวกระหายเพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าร่างกายขาดน้ำแล้ว การดื่มน้ำจะช่วยขับสารพิษในร่างกาย และสุขภาพที่ดีขึ้นก็จะตามมาเอง

What better nightcap than salt dissolved in hot water?
  1. ล้างจมูก

การล้างจมูกอย่างน้อยวันละครั้งสามารถป้องกันโรคไข้หวัด และโรคในระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ ได้ เพราะน้ำเกลือที่ใช้สำหรับล้างจมูกจะเข้าไปชะล้างเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในจมูกให้ออกไป

  1. ทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

เคยได้ยินใช่ไหมว่า โทรศัพท์มือถือนั้นสามารถสกปรกได้มากกว่าโถชักโครกเสียอีก เพราะโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งไปแล้ว และไม่ว่าเราจะจับอะไรมาก็จะกลับมาจับโทรศัพท์มือถือทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค การเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาเช็ดบ่อยๆ จึงจะช่วยให้เราเสี่ยงต่อเชื้อโรคต่างๆ น้อยลง

  1. เพลาๆ ปาร์ตี้

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บวกกับการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นส่งผลอย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะต่อให้กินกระเทียมเป็นกิโลหรือ กินผักผลไม้มากมายแค่ไหน หากมีสารพิษในร่างกายมากแถมยังพักผ่อนไม่พอ ร่างกายก็จะอ่อนแอและเป็นเหยื่อของไวรัสหรือเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

  1. กินอาหารที่มีโปรตีนและสังกะสีสูง

เพราะโปรตีนนั้นจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในขณะที่แร่ธาตุสังกะสีจะเข้ามาช่วยบรรเทาอาการบ่งชี้ต่างๆ เช่น ไอ จาม ให้ดีขึ้นจนหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว อาหารที่มีโปรตีนสูงได้แก่ ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ถั่ว เนื้อไก่ หมู วัวไม่ติดมัน เป็นต้น ส่วนอาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุสังกะสีได้แก่ หอยนางรม ธัญพืช ผักใบเขียว งา เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Kapook และ Avon HMO

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button