หลังจากต้องเผชิญกับความเครียด ความเหน็ดเหนื่อย และมลภาวะทางอารมณ์ต่างๆ มาตลอดวันแล้ว การปล่อยวางจิตใจให้สงบคงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก … กิจกรรม 12 อย่างต่อไปนี้คือกิจวัตรที่เราคุ้ยเคยกันดี และเป็นตัวกระตุ้นให้ยิ่งเกิดความเครียด ซึ่งจะส่งผลให้หลับยากมากขึ้น
1.จดจ่อกับหน้าจอ
การเลิกจดจ่อกับหน้าจอต่างๆ เช่น จอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจอโทรศัพท์มือถือ จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะเราทุกคนรู้ดีว่าจะทำอย่างไร แต่ก็เป็นสิ่งที่หลายคนห้ามอกห้ามใจได้ยาก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเร้าให้จิตใจตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้หลับยากขึ้น
2. นอนในห้องที่ร้อน (หรือเย็น) เกินไป
มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่าคนส่วนใหญ่จะนอนหลับสบายที่สุดที่อุณหภูมิประมาณ 18 – 22 เซลเซียส (ข้อมูลจาก HuffingtonPost.com)
3. กินของมันของทอด
ของขบเคี้ยวมันๆ กรอบๆ คือ วายร้ายที่จะมาบังคับให้ระบบย่อยอาหารของคุณทำงานล่วงเวลาดึกๆ ดื่นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สบายตัว และอาการหลับยากก็จะตามมาอย่างแน่นอน
4. ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
หลายคนอาจไม่ดื่มกาแฟก่อนนอนเพราะรู้ดีว่าจะทำให้ตาสว่าง แต่อย่าลืมว่าเครื่องดื่มอื่นๆ ที่คุณอาจลืมนึกถึงไปอย่าง ชา น้ำอัดลมบางชนิด หรือแม้แต่ช็อกโกแลตร้อนๆ ก็มีคาเฟอีนเช่นกัน คาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้จะเข้าไปกระตุ้นระดับอะดรีนาลีนและพลังงาน ซึ่งจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแทนที่จะได้นอนพักผ่อนอย่างสบาย
5. แชทเพลินแม้ก่อนนอน
หากตัดสินใจแล้วว่า ฉันจะนอน! ควรเริ่มตัดบทสนทนาที่ค้างคาอยู่ แม้ว่าคุณจะสามารถตั้งปิดเสียงไว้เมื่อมีข้อความตอบกลับ หรือแม้แต่เอาโทรศัพท์วางไว้ไกลตัวเวลานอน แต่การจบบทสนทนาให้เรียบร้อยเสียก่อนนอนจะช่วยให้คุณรีแล็กซ์และหลับไปอย่างไม่ต้องกังวลใจ
6. ออกกำลังกายหนักๆ
แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยให้หลับสบาย แต่หากคุณเพิ่งออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมาอย่างหนักก่อนเข้านอน จากหลับสบายอาจกลายเป็นนอนไม่หลับแทนได้ การออกกำลังกายอย่างหนักจะกระตุ้นการเต้นของหัวใจและการเผาผลาญพลังงาน แถมยังทำให้อยากอาหาร ฉะนั้น ควรวางตารางออกกำลังกายให้เสร็จสิ้นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน
7. เครียด
หากจิตใจว้าวุ่นเพราะความกังวลในเรื่องต่างๆ ทำให้คุณนอนไม่หลับ สิ่งที่ต้องทำคือ ผลักดันพลังงานลบเหล่านี้ไปที่อื่น ลองทำกิจวัตรที่ผ่อนคลายช่วงค่ำและก่อนนอน เช่น เล่นโยคะ นั่งสมาธิ สวดมนต์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ช่วยให้จิตใจและร่างกายสงบลง เพื่อช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น
8. เช็คอีเมล์งาน
ถ้าไม่อยากเครียด อย่าได้เช็คอีเมล์ที่ทำงานก่อนนอนเด็ดขาด การเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโหมดทำงานในเวลาก่อนนอนเป็นการสร้างความกังวล และกระวนกระวายใจ เป็นการเอาเรื่องที่คุณอาจต้องจัดการในวันพรุ่งนี้มาคิดให้เครียดล่วงหน้าในเวลาก่อนนอน ซึ่งจริงๆ แล้ว การปล่อยให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้น่าจะดีกว่า
9. ดริ้งค์ก่อนนอน
แน่นอนว่าการได้จิบไวน์สักแก้วก่อนนอนนั้นอาจทำให้รู้สึกผ่อนคลายหรือแม้แต่ทำให้ง่วงได้เลยทีเดียว แต่หากคุณให้ความสำคัญกับคุณภาพในการนอนแล้วละก็ การจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก จากการศึกษาพบว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนนั้น ส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนและทำให้หลับได้ไม่สนิท
10. แช่น้ำอุ่น
การนอนแช่น้ำอุ่นก็เป็นอีกวิธีการในการผ่อนคลายที่หลายคนทำ แต่จริงๆ แล้วการลงไปแช่ตัวในอ่างนั้นสามารถก่อปัญหาให้กับการนอนได้เช่นกัน เพราะอุณหภูมิร่างกายของคุณจะเย็นลงในช่วงค่ำ และปกติแล้วคนเราจะนอนหลับได้ง่ายขึ้นถ้าร่างกายเย็นลง แต่น้ำอุ่นจากอ่างจะไปกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวขึ้นมาใหม่ (อ้างอิงจาก sleep.org)
11. ดื่มน้ำมากเกินไป
การจิบน้ำไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวันให้ร่างกายไม่ขาดน้ำนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การดื่มน้ำมากๆ ก่อนนอน ก็จะทำให้คุณต้องตื่นมาปัสสาวะกลางดึกอย่างแน่นอน ฉะนั้นควรดื่มแต่พอดีเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน
12. อารมณ์เสียก่อนนอน
ถ้าอะไรที่ทำแล้วรู้ว่าจะต้องเสียอารมณ์หรือหงุดหงิดอย่างแน่นอน เช่น การคุยโทรศัพท์แล้วต้องมีปากเสียงกับปลายสาย หรือรู้ว่าจะต้องหัวเสียจากการเช็คประเด็นดราม่าในโลกโซเชียล ควรงดเว้นกิจกรรมเหล่านี้ก่อนนอนเด็ดขาด เรื่องที่ไม่ควรเก็บมาคิดก็ควรเพิกเฉยเสีย ส่วนเรื่องที่จำเป็นต้องคิด ต้องจัดการ ก็ควรเก็บไว้ทำในเวลาอื่นนอกเหนือจากเวลานอน
ทั้งหมดนี้ มีเพียงบทสรุปสั้นๆ คือช่วงเวลาหัวค่ำหรือก่อนนอนนั้นเป็นเวลาที่ควรจะผ่อนคลาย หลังจากผ่านอะไรต่อมิอะไรมาทั้งวัน และถ้าคุณสามารถปลอบประโลมทั้งจิตใจและร่างกายให้ผ่อนคลายลงได้ การนอนหลับสนิทก็เป็นเรื่องที่ไม่ยาก
ขอบคุณข้อมูลจาก Bustle
