ข่าวดาราบันเทิง

เสนาหอย เปิดใจ วันมีหนี้ท่วมหัว 106 ล้านบาท จับมือ “วิลลี่” กัดฟันสู้ ไม่ยอมล้มละลาย

เปิดหมดเปลือก! “เสนาหอย” เล่าชีวิตพลิกผัน จากราชาสายเปย์สู่วิกฤตหนี้ 106 ล้าน จับมือ “วิลลี่” กัดฟันสู้ไม่ยอมล้มละลาย

หากย้อนกลับไปในยุค 90 ถึงต้นปี 2000 คงไม่มีใครไม่รู้จักคู่หูเพื่อนซี้ “วิลลี่ แมคอินทอช” กับ “เสนาหอย” ที่โด่งดังสุดขีดจากรายการ “สาระแน” แต่เบื้องหลังความสำเร็จที่ดูสวยหรู ใครจะรู้ว่าทั้งคู่ต้องผ่านมรสุมชีวิตลูกใหญ่ จนเกือบเอาตัวไม่รอด เมื่อยุคดิจิทัลเข้ามาดิสรัปต์วงการบันเทิงจนตื่นมาพบหนี้สินกว่าร้อยล้านบาท

เสนาหอย เล่าเปิดใจผ่านรายการ Shift หาย ของ นอท พันธ์ธวัช ว่า จุดเริ่มต้นความรุ่งเรืองมาจากการตั้งบริษัท “ลักษ์ 666” ร่วมกับวิลลี่ ทำทุกอย่างตั้งแต่รายการทีวี “สาระแน” โด่งดังจากการแกล้งดารา, ทำหนัง “สาระแน ห้าวเป้ง” กวาดรายได้ไปกว่า 100 ล้านบาท, ทำคลื่นวิทยุ, และนิตยสาร, ในยุคนั้นตัวเองเปรียบเสมือนราชา หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง

ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้เสนาหอยใช้ชีวิตแบบสายเปย์ เที่ยวทุกวัน หมดเงินวันละเกือบหมื่นบาท มีวีรกรรมจีบสาวระดับตำนาน คือการซื้อตู้เย็นแจกสาวๆ ที่ชอบ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนของเขา แต่แท้จริงแล้วคือกุศโลบายเพื่อเช็คว่าสาวคนนั้นมีใครอยู่หรือไม่ หากเปิดตู้เย็นมาเจอของกินอื่นที่ไม่ใช่ของเขาแสดงว่าอาจมีหนุ่มอื่น

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อยุคดิจิทัลเข้ามา ทุกอย่างพังทลายลงในเวลาไม่ถึงเดือน นิตยสารและคลื่นวิทยุต้องปิดตัวลงเพราะปรับตัวไม่ทันโซเชียลมีเดีย เสนาหอยซึ่งดูแลแต่เบื้องหน้าและการขาย ไม่เคยตรวจสอบบัญชีหลังบ้าน ตื่นมาวันหนึ่งตอน 10 โมงเช้า ฝ่ายบัญชีเดินมาแจ้งข่าวร้ายว่า “คุณวิลลี่ คุณหอย ตอนนี้คุณมีหนี้สินอยู่ 106 ล้าน” หนี้ก้อนโตนี้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาด การหมุนเงินระหว่าง 5 บริษัทลูก การกู้เงินมาโปะหนี้ และดอกเบี้ยจากซัพพลายเออร์และธนาคารที่พอกพูน

เสนาหอย เปิดใจ วันมีหนี้ท่วมหัว 106 ล้านบาท จับมือ "วิลลี่" กัดฟันสู้ ไม่ยอมล้มละลาย

ในเวลานั้น ทั้งคู่สามารถเลือกที่จะ “ล้มละลาย” ซึ่งจะจบเรื่องได้ภายใน 3 ปี แต่วิลลี่เตือนสติว่าถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นคนขี้โกง และจะเล่าให้ลูกหลานฟังได้อย่างไร ทั้งสองจึงตัดสินใจลูกผู้ชาย คนละครึ่ง แบ่งหนี้กันไปคนละ 53 ล้านบาท และสัญญาว่าจะสู้ไปด้วยกัน

จากชีวิตหรูหรา เสนาหอยต้องรัดเข็มขัดจนถึงที่สุด ขายรถมินิคูเปอร์ทิ้ง หันมานั่งวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ จำกัดเงินใช้จ่ายส่วนตัวเหลือเพียงเดือนละ 30,000 บาท และรับงานในวงการบันเทิงอย่างบ้าคลั่ง ทั้งพิธีกรและละคร เพื่อหาเงินเข้าบริษัทให้ได้มากที่สุดโดยไม่เกี่ยงงาน

เสนาหอยเริ่มเรียนรู้การทำ YouTube โดยได้รับคำแนะนำจาก “ปลื้ม สุรบถ” แม้เดือนแรกจะได้รายได้เพียง 35 บาท แต่เขาก็อดทนทำต่อจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะรายการ “เพื่อนรักสัตว์เอ้ย” ที่ทำร่วมกับวิลลี่ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้จัก แม้ตัวเองจะกลัวสัตว์มากจากปมในอดีตที่เคยโดนหนูวิ่งใส่หน้าก็ตาม

ปัจจุบันสถานการณ์หนี้สินของเสนาหอยและวิลลี่ดีขึ้นมากจนเกือบจะหมดแล้ว บทเรียนสำคัญที่เขาได้รับคือเรื่อง “ความรู้ทางการเงิน” ที่โรงเรียนไม่เคยสอน เขาเพิ่งได้เรียนรู้สมการความมั่งคั่งจากโค้ชหนุ่ม (Money Coach) ว่า “รายรับ – เงินออม = รายจ่าย” ไม่ใช่ใช้เหลือแล้วค่อยออม

เสนาหอยทิ้งท้ายว่า แม้จะเจ็บปวดและล้มเหลว แต่เขาไม่เสียใจและมองว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น พร้อมฝากข้อคิดถึงคนที่กำลังท้อว่า “ถ้ากลัวล้มก็ไม่ต้องเริ่ม แต่ถ้าเริ่มมันต้องมีล้ม” และให้หาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทางเพื่อเป็นกำลังใจในการสู้ต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button