“คลองจาก” เป็นลำคลองเล็กๆกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 800 เมตร เชื่อมต่อระหว่างย่านชุมชนอ่าวนาง และย่านธุรกิจโรงแรมที่พัก ทอดยาวลงหน้าหาดอ่าวนาง ม.2 ต.อ่าวนาง หลังจากที่อ่าวนาง มีการเจริญเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวแบบก้าวกระโดด ปัญหาน้ำเสียภายใน คลองจากเริ่มก่อตัวขึ้นและเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน นับ 10 ปี จนยากเยียวย
ล่าสุดทางจังหวัด ได้มีโครงการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาน้ำเสียภายในลำคลอง โดยทำการขุดลอกโคลนตมที่ทับถมอยู่ในคลอง พร้อมกับปล่อยให้น้ำเน่าในคลองไหลลงทะเล โดยไม่มีการวางแผนรองรับ ท่ามกลางสายตาของ นทท.ที่นอนอาบแดด
อยู่บนชายหาด จนมีการร้องเรียนเกิดขึ้น ในที่สุด พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ได้สั่งการให้นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ ลงมาบัญชาการร่วมกับ อบต.อ่าวนาง ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่แก้ไข ตั้งแต่การตรวจสอบสถานประกอบการ ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ไหลลงทะเล พบว่าผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 10 ราย แอบลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลอง จึงสั่งให้ผู้ประกอบการดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากไม่ปรับปรุงแก้ไข ก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับทุกรายทันที
พร้อมกันนี้ก็ได้สร้างฝายแกร์เบียนดักตะกอนและน้ำเสีย ก่อนไหลลงทะเล พร้อมกับได้เร่งสูบน้ำเสียออกจากคลองจาก ลงในบ่อที่ขุดไว้ในที่ของเอกชนที่ให้ความอนุเคราะห์โดยใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง ของสำนักงานพัฒนาทรัพยากรน้ำภาค 10 จังหวัดสุราษฎร์ธานีและ จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 จังหวัดภูเก็ต ที่ขอมาเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำเสียออกจากคลอง แต่พบว่าปัญหาน้ำในคลอง ยังคงไหลลงมาเพิ่มอย่างต่อเนือง มีทั้งน้ำจากธรรมชาติและน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมา จนทาง อบต.อ่าวนางต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ไล่อุดรูท่อน้ำทิ้ง ที่ไม่ผ่านการบำบัดขณะที่ ทางผู้เชี่ยวชาญจิตอาสา ด้านการจัดการปัญหาน้ำเสียและสิ่งแวดล้อมจากกรุงเทพฯ ได้นำ สมุนไพรออแกนิคซึ่งใช้ บำบัดน้ำเสียและมีกลิ่นหอม โดยผสมน้ำ 12,000 ลิตร ใช้รถดับเพลิงฉีดลงในคลองจาก เพื่อลดกลิ่น
ขณะที่จังหวัดกระบี่ได้ขอรับการสนับสนุนเครื่องกังหันชัยพัฒนาจากมูลนิธิชัยพัฒนาจำนวน อีก 4 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการลงดูพื้นที่ติดตั้งแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า สำหรับมาตรการระยะยาวในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียคลองจาก คือการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวม ขณะนี้ มีงบประมาณเหลือจ่ายจังหวัดกระบี่ จำนวน 7 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ทาง ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและคณะ จะมาตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่คลองจากเพื่อนำข้อมูลไปเป็นแนวทางร่วมพิจารณาให้การช่วยเหลือเพิ่มอีกทางหนึ่
งในรูปแบบการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป
