ข่าว

“บิ๊กโจ๊ก” ยืนยันไม่หนี ไม่กังวลคดี มองเป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก

บิ๊กโจ๊ก ยืนยันไม่หนี ไม่กังวลคดีหลังโดนแจ้งความคดีหมิ่นประมาท มองเป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก ฝากถึง ผบ.ตร. ดูดีๆ ก่อนจะย้อนกลับเข้าตัวเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก โจ๊ก” อดีต รอง ผบ.ตร. เดินทางเพื่อเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ว่าตัวเองอยู่ที่กรุงเทพฯ ตลอดหากเรียกเมื่อไหร่ก็พร้อมให้การ สืบเนื่องจากกรณีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเเจ้งความในความผิดฐาน “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ตนทราบข่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เข้าเแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เเจ้งความในความผิดฐาน “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ตนได้ออกรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง และมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยในช่วงหนึ่งของรายการได้ปรากฎถ้อยคำว่า “ตำรวจเนี่ยคือ แก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย”

ซึ่งที่มาวันนี้ก็ยังไม่มีหมายเรียกอะไรทั้งสิ้น ที่มาในวันนี้ก็เพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หนีไปไหนและพร้อมที่จะต่อสู้คดี และไม่ได้มีความกังวลใจมองว่าเป็นการเเจ้งความเพื่อปิดปากมากกว่า เป็นเเค่การเเสดงความคิดเห็นเพียงเท่านั้น อีกทั้งที่ตนพูดในรายการวันนั้นไม่ได้เอ่ยถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยบอกเเค่เพียงว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นอยากฝากให้ ผบ.ตร. ดูดีๆ ก่อนที่จะมากล่าวหาตนเดี๋ยวจะย้อนกลับไปหาท่านเอง

ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้งก่อนเดินทางต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้สอบถามเบื้องต้นว่าการเดินทางมาวันนี้ มีความประสงค์จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ถ้อยคำ หรือเพียงต้องการลงบันทึกประจำวันยืนยันว่าตนยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตนจึงแจ้งชัดว่าต้องการพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามให้แน่ชัดว่าประเด็นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งความดำเนินคดีตนนั้นคือข้อหาใดบ้าง

และมีเนื้อหาหรือถ้อยคำส่วนใดที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งไว้มีเพียง ความผิดฐานหมิ่นประมาทเท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนที่ร่วมสัมภาษณ์ในวันที่เกิดเหตุ ไม่ถูกดำเนินคดีหรือเกี่ยวข้องในสำนวนแต่อย่างใด ซึ่งตนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ข้อมูลที่เคยแสดงความคิดเห็นเป็นข้อเท็จจริงที่สาธารณชนควรได้รับรู้ และเป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ต่อองค์กรตำรวจเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button