ข่าว

น้ำท่วมโลก วิกฤตปี 2025 กระทบ 1 พันล้านชีวิต ชื่อประเทศ “คน” เสี่ยงจมน้ำมากที่สุด

ข้อมูลจากองค์การนาซา (NASA) เปิดเผยสถิติน่ากังวลในปี 2024 พบว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมาย โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.43 เซนติเมตร แต่ตัวเลขจริงพุ่งไปถึง 0.59 เซนติเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ปัจจัยหลักของปรากฏการณ์นี้มาจาก 2 เหตุสำคัญ คือ การละลายของธารน้ำแข็งกับแผ่นน้ำแข็ง จุดใหญ่สุดอยู่ตรงกรีนแลนด์กับแอนตาร์กติกา รวมถึงการขยายตัวของน้ำทะเลเนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น นาซาระบุว่าความร้อนที่สะสมในมหาสมุทรเป็นสาเหตุของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 ถึงครึ่งหนึ่ง มหาสมุทรดูดซับความร้อนส่วนเกินในระบบโลกไว้กว่า 90% นับตั้งแต่ปี 1971

แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์กำลังสูญเสียมวลน้ำแข็งในอัตราเร่งถึง 9 พันล้านลิตรต่อชั่วโมง ขณะที่ “ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก” (Doomsday Glacier) หรือธารน้ำแข็ง Thwaites ในแอนตาร์กติกา กำลังแตกตัวเร็วกว่าที่คาด ซึ่งหากพังทลายอาจทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นกว่า 3 เมตร

ดร.ธรณ์ กาง 3 สาเหตุ “Rain Bomb” ถล่มหาดใหญ่จมบาดาล พยากรณ์ล่วงหน้ายาก

กลุ่มประเทศคนเสี่ยงจมน้ำมากที่สุด

พื้นที่เสี่ยงและผลกระทบทางเศรษฐกิจ สหประชาชาติ (UN) ระบุว่า บังคลาเทศ จีน อินเดีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง มีประชากรเกือบ 900 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งต่ำที่อยู่ในภาวะอันตราย ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เช่น ตูวาลู คิริบาส และฟิจิ กำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก นาซาคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลในพื้นที่เหล่านี้จะสูงขึ้นอีก 15 เซนติเมตรใน 30 ปีข้างหน้า แม้จะมีการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็ตาม

งานของ Climate Central ระบุว่ามีคนจีนราว 41–63 ล้านคน อยู่ในพื้นที่ที่จะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลหรือเสี่ยงน้ำท่วมถาวรปลายศตวรรษนี้ ภายใต้สถานการณ์โลกร้อน 2–4 องศา อาจมีคนจีน หลักสิบถึงร้อยกว่าล้านคน อยู่ในพื้นที่ที่อาจจมน้ำได้ในระยะยาว

อินเดีย และบังกลาเทศ อยู่ในกลุ่มท็อป 3ตามงานของ Climate Central/WEF จะมีคนอินเดียราว 20 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ที่จะถูกน้ำทะเลท่วมถาวร และจะพุ่งไปประมาณ 55 ล้านคนหากโลกร้อน 4 องศา

เวียดนาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อียิปต์ บราซิล และสหรัฐฯ อ้างอิงรายงาน World Economic Forum ที่อ้างอิง Climate Central จัดประเทศเหล่านี้เป็นกลุ่มท็อปของโลกในแง่ “จำนวนคน” ที่เสี่ยงถูกน้ำทะเลหนุนจมที่อยู่อาศัย โดยมีสหรัฐฯ ติดอันดับ 7, อียิปต์อันดับ 9, บราซิลอันดับ 10 ที่เหลือเป็นประเทศเอเชียทั้งหมด

ไทย เคยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมรุนแรงอันดับ 4 ของโลกในปี 2050 และบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครอาจจมอยู่ใต้น้ำเกือบทั้งหมด

น้ำท่วมประเทศจีน
ภาพจาก: AP

แนวทางการรับมือและการปรับตัวรับน้ำท่วมโลก

ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจะขยายวงกว้าง ตั้งแต่ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน การสูญเสียที่ดินทำกิน การปนเปื้อนของน้ำเค็มในแหล่งน้ำจืด ไปจนถึงการย้ายถิ่นฐานของประชากร โดยในสหรัฐฯ มีการประเมินว่าอาคารสำคัญกว่า 1,100 แห่งในชุมชนชายฝั่งอาจเสี่ยงต่อน้ำท่วมรายเดือนภายในปี 2050

ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ปี 2024 ได้มีการหารือวาระพิเศษเรื่องระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเป็นครั้งแรก โดยผู้นำประเทศหมู่เกาะเล็กๆ เรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งมือแก้ไขปัญหา มีข้อเสนอสำคัญ เช่น การสร้างปฏิญญาว่าด้วยระดับน้ำทะเลในปี 2026 และการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยง

หลายประเทศเริ่มปรับตัวรับมือวิกฤต เช่น นิวซีแลนด์ออกนโยบายห้ามสร้างที่พักอาศัยในพื้นที่เสี่ยง เกาหลีใต้และมัลดีฟส์ทดลองสร้างบ้านลอยน้ำ จีนและอินเดียพัฒนาระบบกักเก็บน้ำฝน ขณะที่ฟิจิเริ่มแผนย้ายหมู่บ้าน 42 แห่งไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว 6 แห่ง

แม้ปัจจุบันระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นกว่า 10 เซนติเมตรระหว่างปี 1993-2024 ซึ่งดูเหมือนเป็นตัวเลขน้อยนิด แต่ผลกระทบที่ตามมานั้นมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อเกิดพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงขึ้นและน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งจะสร้างความเสียหายลึกเข้าไปในแผ่นดินมากกว่าในอดีต

ภาพจาก: manchester

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button