ข่าว

ชาวบ้าน เขียนจดหมายถึงนายกฯ ปชช. กำลังเผชิญความตาย แต่นิ่งเงียบ

ชาวบ้าน เขียนจดหมายถึงนายกอนุทิน ประชาชนกำลังเผชิญความตายจากวิกฤติน้ำท่วม แต่ได้รับกลับมาคือความเงียบ ไม่เห็นมาตรการที่ชัดเจน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Faozee Lateh ประชาชนชาว อ.จะนะ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์เชิงนโยบาย แอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้โพสต์จดหมายถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีถึงประเด็นน้ำท่วมหาดใหญ่ในขณะนี้

โดยระบุว่า “จดหมายเปิดผนึก
ถึง นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี
ฝากสื่อสารถึงนายกครับ

ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดของภาคใต้กำลังอยู่ในจุดวิกฤต ประชาชนจำนวนมากยังติดค้างอยู่ภายในบ้าน ท่ามกลางน้ำที่เพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ขณะที่ไฟฟ้า น้ำประปา และสัญญาณโทรศัพท์ในหลายพื้นที่ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ผู้คนจำนวนมากถูกปล่อยให้อยู่ในความมืด ความหวาดกลัว และความไม่แน่นอน โดยปราศจากช่องทางร้องขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งที่สถานการณ์ร้ายแรงถึงขั้นที่ไม่อาจปล่อยให้เวลาผ่านไปได้แม้แต่นาทีเดียว แต่จนถึงขณะนี้ เรายังไม่เห็นมาตรการที่ชัดเจน แข็งแรง หรือสั่งการได้จริงจากรัฐบาลกลางอย่างที่ควรจะเป็น

แม้ประเทศไทยจะมีโครงสร้างการบริหารจัดการภัยพิบัติระดับท้องถิ่น แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือ หลายพื้นที่กำลังเผชิญเหตุการณ์ที่เกินขีดความสามารถของผู้นำท้องถิ่นอย่างสิ้นเชิง การปล่อยให้ท้องถิ่นจัดการตามลำพังในภาวะที่ไฟดับ น้ำท่วมสูง ถนนทุกสายถูกตัดขาด และการสื่อสารเป็นศูนย์ คือการผลักประชาชนให้เผชิญชะตากรรมด้วยตนเองอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นความล้มเหลวของรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในฐานะนายกรัฐมนตรี ท่านมีหน้าที่และอำนาจโดยตรงในการสั่งการให้เกิดมาตรการฉุกเฉินที่เป็นระบบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นในขณะนี้กลับเป็นเพียงการลงพื้นที่ที่เน้นภาพลักษณ์ การถ่ายรูป การเดินตรวจน้ำท่วม ซึ่งไม่มีผลต่อการช่วยชีวิตผู้คนที่กำลังรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้าน อยู่ในโรงเรียน และตามพื้นที่ที่ถูกตัดขาดอีกนับไม่ถ้วน เวลานี้ไม่มีประชาชนคนใดต้องการภาพประชาสัมพันธ์ พวกเขาต้องการมาตรการ อพยพฉุกเฉินที่ทำงานได้จริง และต้องการมันเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่หลังจากการแถลงข่าว ไม่ใช่หลังจากการประเมินซ้ำแล้วซ้ำเล่าในห้องประชุม

รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศแผนอพยพที่ชัดเจนอย่างเร่งด่วนที่สุด ต้องกำหนดเส้นทางอพยพ จุดรวมพล และสถานที่ปลอดภัยที่ประชาชนเข้าถึงได้ทันที พร้อมจัดกำลังเรือ รถกู้ภัย เฮลิคอปเตอร์ และหน่วยกู้ชีพเข้าไปในทุกพื้นที่ที่ถูกตัดขาดโดยไม่รอการร้องขอใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ ต้องได้รับการลำเลียงออกมาอย่างมีระบบ ไม่ใช่ถูกปล่อยให้รอจนระดับน้ำสูงจ่อหลังคาอย่างที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ขณะนี้

ที่สำคัญที่สุด รัฐบาลต้องหยุดปล่อยให้ประชาชน “เดาเอาเอง” ว่าพื้นที่ใดปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ต้องจัดทำระบบข้อมูลกลางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จริงแบบเรียลไทม์ ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น จุดที่ถนนถูกตัดขาด สถานะไฟฟ้าและน้ำประปา เส้นทางอพยพที่ยังใช้งานได้ รวมถึงจุดรับส่งผู้ประสบภัย ข้อมูลเหล่านี้ต้องถูกอัปเดตต่อเนื่องและประกาศผ่านทุกช่องทาง ตั้งแต่สื่อออนไลน์ วิทยุท้องถิ่น เพื่อให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้ทันท่วงที และเพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาทีต้องแลกมาด้วยชีวิตของประชาชน

ประเทศไทยต้องมีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ทำงานจริง ต้องมีการสั่งการแบบรวมศูนย์จากรัฐบาลกลางให้ทุกหน่วยงานทำงานเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำและปล่อยให้ความล่าช้ากลายเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเราในขณะนี้

ประชาชนกำลังตกอยู่ในความเป็นความตาย และสิ่งที่พวกเขาได้รับกลับเป็นความเงียบ ความล่าช้า และการให้ท้องถิ่นรับผิดชอบเพียงลำพัง ทั้งที่วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครควรต้องเผชิญตามลำพังอีกต่อไป

สุดท้ายเรามีรัฐบาล เพื่อจัดการบริหารประเทศ ร่วมถึงภัยพิบัติ ไม่ใช่ผลักภาระให้อาสาสมัคร”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button