การเงินเศรษฐกิจ

แนะนำ โปรแกรมทำ ใบเสนอราคาฟรี ใบกำกับภาษีง่ายๆ คู่มือสร้างใบเสร็จรับเงินออนไลน์

เครื่องมือสร้างใบกำกับภาษีและเอกสารทางการเงินนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างเอกสารทางการเงินแบบมืออาชีพได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมที่ซับซ้อนหรือจ่ายค่าบริการรายเดือน อย่างไรก็ตาม ซิมเปิล บาลานซ์ แนะนำให้ตรวจสอบเอกสารก่อนและหลังดาวน์โหลดทุกครั้ง เนื่องจากเครื่องมือนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพิ่มเติม

เหมาะสมกับใคร

  • ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการออกเอกสารทางการเงิน
  • ฟรีแลนซ์ที่ต้องการสร้างใบเสนอราคาและใบกำกับภาษี
  • ธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเอกสารแบบสองภาษา (ไทย-อังกฤษ)
  • ผู้ที่ต้องการออกเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายภาษีไทย
เหมาะกับ SME และผู้ประกอบการรายย่อย

ฟีเจอร์หลักของโปรแกรมทำใบเสนอราคาฟรี

ระบบนี้รองรับเอกสารทุกประเภท ทั้งใบเสนอราคา ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี และใบส่งของ คุณสามารถเลือกภาษาได้ทั้งไทยหรืออังกฤษ เพิ่มตรายาง ลายเซ็น และโลโก้บริษัทได้เอง พร้อมระบบคำนวณภาษีอัตโนมัติ และจะมีการอัพเดทฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ออกเอกสารได้หลายประเภท

สร้างใบเสร็จรับเงิน ใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี หรือใบส่งของ ได้ครบในที่เดียว

สลับภาษาได้ทั้งไทยและอังกฤษ

รองรับทั้งภาษาไทย-อังกฤษ

ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ทันที

แค่กดปุ่ม “Generate PDF” ก็จะสร้างใบเสร็จรับเงินในทันที เอกสารจะถูกจัดรูปแบบสวยงาม ขนาด A4 พร้อมพิมพ์หรือส่งลูกค้าได้เลย

 

1. เริ่มต้นสร้างใบเสร็จรับเงิน

เครื่องมือสร้างเอกสารธุรกิจของเราออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมากๆ ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม เพียงแค่เปิด Browser ก็เข้ามาใช้งานได้ทันที พร้อมรองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ

ปุ่มสลับภาษา - ปุ่มสำหรับสลับระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
คุณสมบัติ รายละเอียด
ไม่ต้องลงทะเบียน ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องสร้างบัญชี
รองรับ 2 ภาษา ไทย อังกฤษ และแสดงพร้อมกัน
ประเภทเอกสาร 10 ประเภท (ใบเสนอราคา, ใบกำกับภาษี, ใบสั่งซื้อ, ฯลฯ)
รูปแบบไฟล์ PDF คุณภาพสูง พร้อมพิมพ์
การบันทึกข้อมูล อัตโนมัติใน Browser (ปลอดภัย)
ค่าใช้จ่าย ฟรี 100%

เริ่มต้นอย่างไร?

เพียงแค่เลือกประเภทเอกสารที่ต้องการ กรอกข้อมูลตามฟอร์ม และดาวน์โหลด PDF ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที!

 

2. เลือกประเภทเอกสาร

ขั้นตอนแรกคือการเลือกประเภทเอกสารที่คุณต้องการสร้าง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ และข้อกำหนดที่แตกต่างกัน

ขั้นตอนการเลือก:

  1. มองหาช่อง “ประเภทเอกสาร” ที่ด้านบนสุดของฟอร์ม
  2. คลิกที่ช่องเพื่อเปิด dropdown menu
  3. เลือกประเภทเอกสารที่ตรงกับความต้องการของคุณ

 

ประเภทเอกสาร เหมาะสำหรับ ต้องมี Tax ID
ใบเสนอราคา เสนอราคาสินค้า/บริการก่อนขาย ไม่จำเป็น
ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จ ขายและรับเงินแล้ว (มีผลทางกฎหมาย) ✓ จำเป็น
ใบสั่งซื้อ สั่งซื้อสินค้า/บริการจากซัพพลายเออร์ ไม่จำเป็น
ใบรับสินค้า ยืนยันการรับสินค้าแล้ว ไม่จำเป็น
ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ แจ้งยอดค้างชำระให้ลูกค้า ไม่จำเป็น
สัญญาบริการ กำหนดเงื่อนไขการให้บริการ ไม่จำเป็น

สำคัญ

  • ใบกำกับภาษีต้องใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax ID) ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
  • ใบเสนอราคาเหมาะสำหรับส่งให้ลูกค้าพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
  • สามารถเปลี่ยนประเภทเอกสารได้ตลอดเวลาก่อนดาวน์โหลด

 

3. กรอกข้อมูลพื้นฐาน

หลังจากเลือกประเภทเอกสารแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกรอกข้อมูลพื้นฐานของเอกสาร

3.1 เลขที่เอกสาร (Document Number)

  • ระบบจะสร้างเลขที่อัตโนมัติ (เช่น TAX-00001, QUO-00001)
  • สามารถแก้ไขเป็นรูปแบบของคุณได้
  • ควรเรียงเลขให้ต่อเนื่องเพื่อความเป็นระเบียบ ง่ายต่อการค้นหา และจัดการ

3.2 วันที่ออกเอกสาร (Issue Date)

  • ค่าเริ่มต้นคือวันที่ปัจจุบัน
  • คลิกที่ช่องเพื่อเลือกวันที่จากปฎิทิน
  • รองรับรูปแบบ วัน/เดือน/ปี แบบไทย

3.3 วันที่ครบกำหนด (Due Date) – ไม่บังคับ

  • ใช้เพื่อกำหนดวันชำระเงิน
  • เหมาะสำหรับการขายเชื่อ
  • สามารถปล่อยว่างได้ถ้าเป็นการขายเงินสด

3.4 ชื่อโครงการ (Project Name) – ไม่บังคับ

  • ระบุชื่อโครงการหรืองานที่เกี่ยวข้อง
  • ทำให้เอกสารมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ช่วยในการจัดการ และค้นหาเอกสารในอนาคต

3.5 ชื่อผู้ขาย (Sales Person) – ไม่บังคับ

  • ชื่อพนักงานขายหรือผู้รับผิดชอบ
  • แสดงในส่วนท้ายของเอกสาร
ช่อง ตัวอย่าง ต้องมีหรือไม่
เลขที่เอกสาร TAX-00123
วันที่ออกเอกสาร 14/11/2025
วันที่ครบกำหนด 14/12/2025 (30 วัน)
ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาเว็บไซต์องค์กร
ชื่อผู้ขาย สมชาย ใจดี

 

4. ข้อมูลผู้ขาย/บริษัท

แบบฟอร์มกรอกข้อมูลผู้ขาย - ส่วนกรอกข้อมูลบริษัท/ร้านค้าของคุณ

4.1 อัปโหลดโลโก้ (ไม่บังคับ)

  • รองรับไฟล์ PNG, JPG, GIF
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 2MB
  • โลโก้จะแสดงที่มุมบนซ้ายของเอกสาร
  • คลิกปุ่ม “Upload Logo” และเลือกโลโก้ของคุณ

4.2 ชื่อบริษัท/ร้าน

  • ชื่อภาษาไทย: ชื่อเต็มของธุรกิจ (เช่น บริษัท เอบีซี จำกัด)
  • ชื่อภาษาอังกฤษ: ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ (เช่น ABC Company Limited)

4.3 ที่อยู่

  • ที่อยู่ภาษาไทย: ที่อยู่เต็มพร้อมรหัสไปรษณีย์
  • ที่อยู่ภาษาอังกฤษ: ที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษพร้อมรหัสไปรษณีย์
  • ควรใส่ครบถ้วนเพื่อความถูกต้องทางกฎหมาย

4.4 เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (Tax ID)

  • สำคัญ: จำเป็นสำหรับใบกำกับภาษี
  • รูปแบบ: 13 หลัก (เช่น 0-1234-56789-01-2)
  • ต้องตรงกับหมายเลขทะเบียนธุรกิจของคุณที่ปรากฎอยู่ใน DBD
  • ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ใช้เลขบัตรประชาชน 13 หลัก

4.5 ข้อมูลติดต่อ

  • เบอร์โทรศัพท์: เบอร์ที่ลูกค้าสามารถติดต่อกลับได้
  • อีเมล: อีเมลธุรกิจ หรืออีเมลหลักที่ใช้ในการติดต่อ
  • เว็บไซต์: (ไม่บังคับ) URL เว็บไซต์ของธุรกิจ
  • แสดงในเอกสารเพื่อความสะดวกในการติดต่อ

หมายเหตุสำคัญ

  • ถ้าเลือก “ใบกำกับภาษี” แต่ไม่ใส่ Tax ID จะมีคำเตือนแสดงขึ้น
  • ระบบจะแจ้งเตือนข้อมูลที่ขาดหายไป
  • ยังสร้างเอกสารได้ตามปกติ แต่แนะนำให้แก้ไขให้ครบถ้วนเพื่อความถูกต้อง

 

5. ข้อมูลลูกค้า/ผู้ซื้อ

ส่วนนี้ใช้สำหรับกรอกข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ โครงสร้างคล้ายกับข้อมูลผู้ขาย

5.1 ชื่อลูกค้า

  • รองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
  • สามารถใส่ชื่อบุคคลหรือนิติบุคคล
  • ควรใส่ชื่อเต็มตามทะเบียนพาณิชย์

5.2 ชื่อผู้ติดต่อ (Contact Person) – ไม่บังคับ

  • ชื่อบุคคลที่ติดต่อในองค์กร
  • เหมาะสำหรับกรณีที่เป็นธุรกิจ B2B

5.3 ที่อยู่ลูกค้า

  • ควรใส่ครบถ้วนเพื่อให้จัดส่งเอกสารได้อย่างถูกต้อง
  • รองรับทั้งภาษาไทย และอังกฤษ
  • อย่าลืมใส่รหัสไปรษณีย์

5.4 Tax ID ของลูกค้า

  • จำเป็นถ้าลูกค้าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี
  • จำเป็นสำหรับใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
  • ถ้าลูกค้าเป็นบุคคลทั่วไป จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้

5.5 ข้อมูลติดต่อ

  • เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้า
  • อีเมลของลูกค้า

 

6. เพิ่มรายการสินค้า/บริการ

นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด – ที่คุณระบุสินค้าหรือบริการที่กำลังขาย พร้อมราคาและรายละเอียดต่างๆ

6.1 รายการแรก (Default)

ระบบจะมีรายการเริ่มต้น 1 รายการให้เสมอ

6.2 ฟิลด์ที่ต้องกรอก

ช่อง คำอธิบาย ตัวอย่าง
คำอธิบาย (ไทย) ชื่อสินค้า/บริการภาษาไทย เว็บไซต์ E-Commerce แบบสำเร็จรูป
Description (EN) ชื่อภาษาอังกฤษ Ready-made E-Commerce Website
จำนวน จำนวนหน่วย 1
หน่วย หน่วยนับ โครงการ, ชิ้น, ชั่วโมง, เดือน
ราคาต่อหน่วย ราคาก่อน VAT 50,000
ส่วนลด (%) ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ 10
รหัสภาษี VATABLE / EXEMPT / NON-VAT VATABLE (7%)

6.3 รหัสภาษี (Tax Code) – สำคัญ!

  • VATABLE (7%): สินค้า/บริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (ส่วนใหญ่)
  • VAT EXEMPT: ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น หนังสือ สื่อการศึกษา อาหารสด และพืชผลทางการเกษตร
  • ZERO RATE: อัตราภาษี 0% เช่น สินค้าส่งออก

6.4 เพิ่มรายการใหม่

  • คลิกปุ่ม “+ เพิ่มรายการ”
  • สามารถเพิ่มได้ไม่จำกัดจำนวน
  • แต่ละรายการจะมีปุ่มถังขยะ (🗑️) เพื่อลบ

6.5 ลบรายการ

  • คลิกไอคอนถังขยะที่ด้านขวาของรายการ
  • ต้องเหลืออย่างน้อย 1 รายการเสมอ ไม่สามารถลบรายการทั้งหมดได้

ตัวอย่างการคำนวณ

รายการ จำนวน ราคา/หน่วย ส่วนลด ภาษี ยอดรวม
Web Design 1 30,000 10% VAT 7% 28,890
Hosting 1 Year 1 5,000 0% VAT 7% 5,350
Domain .com 1 500 0% VAT 7% 535
รวมทั้งสิ้น 34,775 บาท

เคล็ดลับ

  • ระบบจะคำนวณยอดรวมให้อัตโนมัติแบบ real-time
  • เขียนคำอธิบายให้ชัดเจน ให้เกิดความสับสนแก่ผู้ซื้อน้อยที่สุด
  • ตรวจสอบรหัสภาษีให้ถูกต้อง เพราะจะมีผลต่อการคำนวณ VAT

 

7. ตั้งค่าภาษีและส่วนลด

7.1 อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Rate)

  • ค่าเริ่มต้น: 7% (ตามกฎหมายปัจจุบัน)
  • สามารถเปลี่ยนได้ถ้ามีกรณีพิเศษ
  • มีผลกับรายการที่เลือก “VATABLE” เท่านั้น

7.2 ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)

เลือกได้หากต้องการหักภาษี ณ ที่จ่าย:

  • 0% (None): ไม่มีภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • 1%: ค่าขนส่ง (ไม่นับค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ) ค่าซื้ออัญมณี
  • 2%: ค่าโฆษณา
  • 3%: ค่าบริการ ผลพลอยได้จากการส่งเสริมการขาย ค่านายหน้า ค่าลิขสิทธิ์
  • 5%: ค่าเช่า ค่านักแสดงสาธารณะ รางวัลในการแข่งขัน

หมายเหตุ: ภาษีหัก ณ ที่จ่ายจะหักจากยอดก่อน VAT

ลำดับการคำนวณภาษี

1️⃣ราคาสินค้า/บริการ

2️⃣ลบส่วนลด (ถ้ามี)

3️⃣= ราคาหลังส่วนลด (Base Amount)

4️⃣หักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)

5️⃣+ VAT 7%

6️⃣= ยอดชำระสุทธิ (Grand Total)

 

8. ข้อมูลเพิ่มเติม

8.1 หมายเหตุ (Notes)

  • ข้อความเพิ่มเติมที่ต้องมีการแจ้งลูกค้า
  • เช่น: “ราคานี้รวมค่าติดตั้งแล้ว” “การันตีสินค้า 1 ปี”
  • หมายเหตุจะแสดงในส่วนท้ายของเอกสาร

8.2 เงื่อนไขการชำระเงิน (Payment Terms)

  • ระบุเงื่อนไขการชำระเงินอย่างชัดเจน
  • เช่น “ชำระเงินภายใน 30 วัน” “เครดิต 60 วัน” “ชำระเงินสด”
  • เป็นการป้องกันปัญหาข้อพิพาทเรื่องการชำระเงินที่อาจจะเกิดในอนาคต

8.3 วิธีการชำระเงิน (Payment Method)

เลือกวิธีการรับชำระเงิน:

  • เงินสด (Cash)
  • เช็ค (Cheque)
  • โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer) – สามารถระบุข้อมูลบัญชีได้
  • บัตรเครดิต (Credit Card)

8.4 อัปโหลดลายเซ็น (Signature Upload)

  • รองรับไฟล์รูปภาพ (PNG, JPG) ขนาดไม่เกิน 2MB
  • แสดงในส่วนลงนามของเอกสาร
  • ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้เอกสารมีความเป็นทางการมากขึ้น
  • แนะนำให้ใช้ไฟล์ PNG พื้นหลังใส

8.5 อัปโหลดตราประทับ (Stamp Upload) – ไม่บังคับ

  • สำหรับตราประทับบริษัท
  • แสดงข้างลายเซ็น
  • เพิ่มความเป็นทางการแก่เอกสาร

Pro Tip: วิธีสร้างลายเซ็นออนไลน์

  1. เซ็นชื่อบนกระดาษขาว
  2. ถ่ายรูป หรือสแกนด้วยความละเอียดสูง หรือใช้ App Camscaner
  3. ใช้โปรแกรมตัดพื้นหลังให้เป็นภาพใส (PNG) โดยสามารถทำได้ผ่าน Canva
  4. อัปโหลดเข้าเครื่องมือเพื่อแสดงผลบนเอกสาร

 

9. ตัวเลือกการแสดงผล

9.1 สลับภาษา (Language Toggle)

  • ปุ่ม “TH/EN” ที่ด้านบนขวา
  • สลับระหว่างภาษาไทย และอังกฤษ
  • เปลี่ยนภาษาของ UI (ปุ่ม, label)

9.2 โหมดมืด (Dark Mode)

  • ปุ่มไอคอนพระจันทร์/พระอาทิตย์
  • ลดแสงสว่างเมื่อทำงานกลางคืน
  • สบายตา ประหยัดแบตเตอรี่
  • บันทึกการตั้งค่าอัตโนมัติ
  • หมายเหตุ: ไม่มีผลกับ PDF ที่ดาวน์โหลด

9.3 แสดงตัวอย่างแบบเรียลไทม์

  • เอกสารแสดงทางด้านขวา (Desktop) หรือด้านล่าง (Mobile)
  • อัปเดตทันทีทุกครั้งที่แก้ไขข้อมูล
  • เห็นผลลัพธ์ก่อนดาวน์โหลด
  • สามารถ Zoom in/out ได้
โหมดแสดงผล ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ โหมดมืด
UI ภาษาไทย เลือกได้
UI ภาษาอังกฤษ เลือกได้
เอกสาร PDF แสดงทั้งสองภาษาเสมอ

 

10. สร้างและดาวน์โหลด PDF

เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสร้างและดาวน์โหลดเอกสาร PDF

10.1 ตรวจสอบตัวอย่าง (Preview)

  • เอกสารแสดงอยู่ทางด้านขวา (หรือด้านล่างหากใช้งานในมือถือ)
  • อัปเดตแบบ Real-time ทันทีที่แก้ไขข้อมูล
  • ตรวจสอบความถูกต้องให้ละเอียดทุกส่วนก่อนดาวน์โหลด
  • ใช้ปุ่ม Zoom เพื่อดูรายละเอียด

10.2 คลิก “Download PDF”

  • ปุ่มสีเขียวด้านบนขวาของตัวอย่างเอกสาร
  • ระบบจะสร้างไฟล์ PDF คุณภาพสูง
  • ดาวน์โหลดอัตโนมัติไปยัง Downloads folder

10.3 ตรวจสอบไฟล์ PDF

  • เปิดไฟล์ด้วย PDF Reader (Adobe, Preview, Chrome)
  • ตรวจสอบการแสดงผลบนกระดาษ A4
  • พร้อมพิมพ์หรือส่งทาง Email ทันที
  • สามารถแนบลายเซ็นลงบนกระดาษหลังพิมพ์

คุณสมบัติ PDF รายละเอียด
ขนาดกระดาษ A4 (210 x 297 mm)
คุณภาพ สูง พร้อมพิมพ์
ภาษา ไทย-อังกฤษ
สี Full Color
ฟอนต์ รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
ขนาดไฟล์ ~200-500 KB (ขึ้นกับรูปภาพ)

 

11. จัดการข้อมูล

11.1 การเก็บ และบันทึกข้อมูล (Data collection)

  • ข้อมูลอยู่ที่เครื่องคุณเท่านั้น (Privacy และความปลอดภัย)
  • ไม่ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดๆ

11.2 ล้างข้อมูล (Clear All Data)

  • ปุ่ม “Clear Data” ที่ด้านบน
  • ลบข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกไว้
  • ต้องยืนยันก่อนลบเพื่อป้องกันการลบโดยไม่ตั้งใจ
  • เริ่มต้นใหม่ได้ทันที

11.3 ประวัติเอกสาร (History)

  • ระบบบันทึกเอกสารที่สร้างไว้ล่าสุด
  • สามารถโหลดข้อมูลเอกสารเก่ากลับมาได้
  • ช่วยในการสร้างเอกสารที่คล้ายกัน

11.4 เลขที่เอกสารอัตโนมัติ

  • ระบบจดจำเลขที่ล่าสุดของแต่ละประเภทเอกสาร
  • เลขที่ถัดไปจะเพิ่มขึ้นอัตโนมัติ
  • รูปแบบ: [คำย่อ]-[เลข 5 หลัก]
  • ตัวอย่าง:
    • ใบกำกับภาษี: TAX-00001, TAX-00002, …
    • ใบเสนอราคา: QUO-00001, QUO-00002, …
    • ใบสั่งซื้อ: PO-00001, PO-00002, …

คำเตือนสำคัญ

  • ข้อมูลจะหายหมดถ้าล้างข้อมูล Browser (Clear Cache/Cookies)
  • แนะนำให้ดาวน์โหลด PDF เก็บไว้เป็นสำรองเสมอ
  • อุปกรณ์อื่นจะไม่เห็นข้อมูลนี้ (บันทึกต่างเครื่อง)
  • Browser ต่างกัน (Chrome, Safari) จะมีข้อมูลแยกกัน

 

12. เคล็ดลับและคำแนะนำ

เคล็ดลับการใช้งาน

  1. ใส่โลโก้บริษัท: เพิ่มความเป็นมืออาชีพให้เอกสารและสร้าง Brand Identity
  2. บันทึกข้อมูลบริษัท: กรอกครั้งเดียว ใช้ได้เรื่อยๆ ประหยัดเวลามาก
  3. ใช้เลขที่เอกสารที่เป็นระบบ: ง่ายต่อการค้นหาและอ้างอิง ตรวจสอบย้อนหลังได้
  4. ตรวจสอบ Tax ID: ป้องกันปัญหาด้านภาษีในอนาคต
  5. ระบุเงื่อนไขการชำระชัดเจน: ลดข้อพิพาทและปัญหาการเก็บเงิน
  6. เก็บสำเนา PDF: สำรองข้อมูลเอกสารทั้งหมดไว้ใน Cloud หรือ Hard Disk
  7. อัปโหลดลายเซ็น: เพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นทางการ
  8. ใช้โหมดมืดเวลากลางคืน: สบายตาและประหยัดแบตเตอรี่

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ไม่ใส่ Tax ID ในใบกำกับภาษี: ผิดกฎหมายและไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้
  • ใช้เลขที่เอกสารซ้ำกัน: ทำให้สับสนและผิดหลักการบัญชี
  • ไม่ตรวจสอบก่อนดาวน์โหลด: อาจมีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไข
  • ลืมบันทึกข้อมูลลูกค้า: ต้องกรอกใหม่ทุกครั้ง เสียเวลา
  • ใส่ราคาผิด: เช็คตัวเลขให้ดีก่อนส่งลูกค้า

Checklist ก่อนดาวน์โหลด

  • เลือกประเภทเอกสารถูกต้อง
  • เลขที่เอกสารถูกต้อง
  • วันที่ถูกต้อง
  • ข้อมูลผู้ขายครบถ้วน
  • ข้อมูลลูกค้าถูกต้อง
  • Tax ID ครบ (สำหรับใบกำกับภาษี)
  • รายการสินค้า/บริการถูกต้อง
  • ราคาและจำนวนถูกต้อง
  • คำนวณภาษีถูกต้อง
  • ยอดรวมสุทธิถูกต้อง
  • เงื่อนไขการชำระชัดเจน
  • ตรวจสอบตัวอย่างเอกสาร

กรณีการใช้งานจริง

กรณีที่ 1: ฟรีแลนซ์ส่งใบเสนอราคาให้ลูกค้า

  • เลือก: ใบเสนอราคา
  • ใส่: ชื่อ, เบอร์โทร, อีเมล (ไม่จำเป็นต้องมี Tax ID)
  • ระบุ: ระยะเวลาที่ใบเสนอราคามีผล (เช่น 30 วัน)
  • เพิ่ม: โลโก้และลายเซ็นเพื่อความเป็นมืออาชีพ

กรณีที่ 2: ร้านค้าออกใบกำกับภาษีให้บริษัทลูกค้า

  • เลือก: ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จ
  • ใส่: Tax ID ทั้งฝ่ายขายและซื้อ (บังคับ)
  • ระบุ: วันที่ชำระเงิน
  • เก็บ: สำเนา PDF สำหรับบัญชีและภาษี

กรณีที่ 3: บริษัทสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์

  • เลือก: ใบสั่งซื้อ (Purchase Order)
  • ใส่: รายละเอียดสินค้าที่ต้องการอย่างชัดเจน
  • ระบุ: กำหนดส่งสินค้าและเงื่อนไขการชำระ
  • ส่ง: ให้ซัพพลายเออร์เพื่อยืนยันออเดอร์

กรณีที่ 4: รับทำโครงการระยะยาว

  • เลือก: สัญญาบริการ (Service Agreement)
  • ใส่: รายละเอียดขอบเขตงานแบบละเอียด
  • ระบุ: ช่วงเวลาดำเนินการและเงื่อนไขการชำระแบบแบ่งงวด
  • แนบ: เอกสารเพิ่มเติม (ถ้ามี) เช่น TOR

 

13. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ต้องสมัครสมาชิกหรือไม่?

ไม่ต้อง ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องกรอกอีเมล ไม่ต้องสร้างบัญชี เพียงแค่เปิด Browser และเริ่มใช้งานได้เลย

ข้อมูลปลอดภัยหรือไม่?

ปลอดภัย 100% ข้อมูลทั้งหมดเก็บไว้ที่ Browser ของคุณเท่านั้น (LocalStorage) ไม่มีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ใดๆ เราไม่เก็บหรือเห็นข้อมูลของคุณเลย

สามารถแก้ไขเอกสารหลังดาวน์โหลดได้หรือไม่?

ไฟล์ PDF ที่ดาวน์โหลดไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่คุณสามารถกลับมาแก้ไขข้อมูลในเครื่องมือและดาวน์โหลด PDF ใหม่ได้ตลอดเวลา ข้อมูลจะถูกบันทึกอัตโนมัติ

รองรับเอกสารภาษาอะไรบ้าง?

รองรับ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในเอกสารเดียวกัน คุณสามารถกรอกข้อมูลทั้งสองภาษา และทั้งสองภาษาจะแสดงในเอกสาร PDF เพื่อความสะดวกในการติดต่อกับลูกค้าต่างชาติ

ทำไมต้องใส่ Tax ID?

Tax ID (เลขประจำตัวผู้เสียภาษี) จำเป็นสำหรับใบกำกับภาษีเท่านั้น ตามกฎหมายภาษีอากร เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปลดหย่อนภาษีหรือเครดิตภาษีซื้อได้ สำหรับเอกสารประเภทอื่นไม่บังคับ

เอกสารมีผลทางกฎหมายหรือไม่?

มี ถ้าข้อมูลถูกต้องครบถ้วนและมีลายเซ็น เอกสารที่สร้างจากเครื่องมือนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ โดยเฉพาะใบกำกับภาษีที่ต้องมี Tax ID ครบถ้วน

สามารถใช้บนมือถือได้หรือไม่?

ได้ เครื่องมือรองรับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์ ทั้งคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, และโทรศัพท์มือถือ รองรับทั้ง iOS และ Android ใช้งานผ่าน Browser ได้ทันที

มีค่าใช้จ่ายหรือไม่?

ฟรี 100% ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีค่าสมัคร ไม่มีค่าบริการรายเดือน ไม่มีข้อจำกัดจำนวนเอกสาร ใช้งานได้ไม่จำกัดตลอดไป

รองรับภาษีหัก ณ ที่จ่ายหรือไม่?

รองรับ สามารถเลือกอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้ ได้แก่ 0% (ไม่มี), 3% (ค่าบริการ/โฆษณา/เช่า), 5% (ค่าขนส่ง/โทรศัพท์), และ 10% (ค่าวิชาชีพ) ระบบจะคำนวณให้อัตโนมัติ

สามารถใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ได้หรือไม่?

ได้ เครื่องมือนี้เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ฟรีแลนซ์, ธุรกิจ SME, ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ รองรับการออกเอกสารได้หลากหลายประเภทและไม่จำกัดจำนวน

ต้องเก็บเอกสารนานแค่ไหน?

ตามกฎหมายไทย เอกสารทางบัญชีและภาษี (รวมถึงใบกำกับภาษี) ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่ออกเอกสาร แนะนำให้เก็บทั้งเอกสารกระดาษและไฟล์ PDF สำรอง

 

สรุป

คู่มือสร้างสร้างใบเสร็จรับเงินถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ใช้งาน ทั้ง SME หรือธุรกิจในนามบุคคลธรรมดาได้ประหยัดต้นทุน และเพื่อให้สามารถใช้โปรแกรมนี้สร้างใบเสร็จรับเงิน ทำใบเสนอราคา และเอกสารต่าง ๆ นี้ได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ซิมเปิล บาลานซ์ แนะนำให้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทุกครั้งก่อนดาวน์โหลด เนื่องจากโปรแกรมทำใบเสนอราคาฟรีนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน

หากมีปัญหาด้านบัญชี ภาษี ปิดงบการเงิน หรือต้องการจดบริษัท/หจก. หรือมีคำแนะนำติชมใด ๆ ติดต่อ Simple Balance สำนักงานบัญชีเชียงใหม่ ซิมเปิลบาลานซ์พร้อมให้บริการคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่จังหวัดไหนของประเทศไทย

สร้างใบเสร็จรับเงิน ใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี หรือใบส่งของ ได้ครบในที่เดียว

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button