ทอดกฐิน 2568 ประเพณีบุญใหญ่ที่ผิดเพี้ยน เมื่อเงินกลายเป็นสิ่งสำคัญกว่า “ผ้า”

กฐินที่ผิดเพี้ยน เมื่อเงินกลายเป็นสิ่งสำคัญกว่า “ผ้า” พาเปิดเรื่องเล่าจากหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ
วันนี้ (19 ต.ค.68) หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ – สวนโมกข์กรุงเทพ ลงเนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ งานทอดกฐิน 2568 ในปัจจุบันหรือยุคนี้เทศกาลแห่งการทำบุญใหญ่ 1 ปี ที่หนเดียวมักปรากฏภาพเต็มไปด้วย “ซองกฐิน” และการบอกบุญเพื่อรวบรวมเงินบริจาคจนน่าหวั่นใจเล็กๆ ว่า วันข้างหน้าพุทธศาสนิกชนอาจจะหลงลืม ความสำคัญหรือเนื้อในที่แท้จริงของประเพณีการถวายผ้าแก่พระสงฆ์หลังออกพรรษาดังกล่าที่สืบต่อกันมาช้านานตั้งแต่สมัยพุทธกาล
เมื่อถึงช่วงเวลาหลังออกพรรษา ภาพจำที่หลายคนคุ้นเคยเกี่ยวกับ “งานทอดกฐิน” คือ เทศกาลแห่งการทำบุญครั้งใหญ่ที่เต็มไปด้วยซองกฐินและการบอกบุญเพื่อรวบรวมเงินบริจาค
จนบางครั้งทำให้ผู้คนรู้สึกกลัวหรือลำบากใจเมื่อเห็นซองกฐิน เพราะดูเหมือนว่าหัวใจของงานได้กลายเป็นการแข่งขันกันเรื่องจำนวนเงินไปเสียแล้ว

ทำความเข้าใจ “เงินไม่ใช่หัวใจ” การทอดกฐิน อะไรคือแก่นแท้ดั้งเดิมของประเพณี
1. แก่นแท้ดั้งเดิมของกฐิน: ผ้า ความเพียร และความพร้อมเพรียง
ทำไม “ผ้า” จึงเป็นหัวใจของพิธี?
ในสมัยพุทธกาล “ผ้า” ถือเป็นของที่หาได้ยากยิ่ง หากต้องการจีวรผืนใหม่ ท่านจะต้องไปเสาะหาเศษผ้าจากป่าช้าหรือกองขยะ ซึ่งเป็นผ้าที่ใช้ห่อศพ นำมาซัก เย็บปะติดปะต่อกันจนเป็นผืนใหญ่ แล้วจึงนำไปย้อมเพื่อใช้เป็นจีวร ผ้าชนิดนี้เรียกว่า #ผ้าบังสุกุล ซึ่งแปลว่า #ผ้าเปื้อนฝุ่น
เมื่อญาติโยมเห็นความยากลำบากของพระสงฆ์จึงเกิดความศรัทธาและปรารถนาจะถวายผ้า แต่เนื่องจากยังไม่มีพุทธานุญาต จึงใช้วิธีนำผ้าไปแขวนไว้ตามกิ่งไม้ในป่าเพื่อให้พระสงฆ์ไป “ชัก” หรือหยิบมาใช้เอง นี่คือที่มาดั้งเดิมอันเรียบง่ายของประเพณี “ทอดผ้าป่า” (แต่ในปัจจุบันได้มีรูปแบบที่พัฒนาไปจากเดิม) จนต่อมาพระพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาตให้พระสงฆ์สามารถรับผ้าจากญาติโยมได้โดยตรง
จากจุดนี้เอง จึงเกิดเป็นธรรมเนียมการทำบุญถวายผ้าแก่คณะสงฆ์อย่างแพร่หลาย แม้การถวายผ้าจะทำได้ตลอดทั้งปี แต่มีรูปแบบการถวายผ้าหนึ่งที่พิเศษยิ่งกว่า ซึ่งจัดขึ้นได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น นั่นคือ “การทอดกฐิน”

2. เป้าหมายสูงสุด: การเชิดชู “สามัคคีธรรม” ในหมู่สงฆ์
กฐินเป็นงานบุญที่ “ผูกติดอยู่กับการเข้าพรรษา” อย่างแยกไม่ออก เพราะพิธีนี้เปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองและอนุโมทนาในความเพียรพยายามของคณะสงฆ์ ที่ได้อุตสาหะศึกษาและปฏิบัติธรรมร่วมกันจนครบ 3 เดือน จุดมุ่งหมายที่ลึกซึ้งและสำคัญที่สุดของพิธีกฐิน ไม่ใช่เพียงการถวายสิ่งของ แต่คือการ “เชิดชูและส่งเสริมความสามัคคีของหมู่สงฆ์” ที่ได้อยู่จำพรรษาร่วมกันอย่างราบรื่นมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน
ความสามัคคีนี้แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมในพิธีกรรม คือ มติที่เป็นเอกฉันท์: คณะสงฆ์ทั้งหมดจะต้องประชุมและลงมติเป็นเอกฉันท์ โดยปราศจากเสียงคัดค้านแม้แต่เสียงเดียว ว่าจะมอบผ้ากฐินนั้นให้แก่พระภิกษุรูปที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด เช่น เป็นผู้มีจีวรเก่าคร่ำคร่า เป็นการแสดงออกถึงความเมตตาและการอนุเคราะห์ดูแลกันในหมู่คณะ
3. ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในปัจจุบัน: เมื่อเงิน (บริวารกฐิน) กลายเป็นสิ่งสำคัญกว่าผ้า (องค์ประธานกฐิน) จากประวัติความเป็นมาจะเห็นว่า “ผ้า” คือ ประธานหรือศูนย์กลางของพิธีทอดกฐินที่เรียกว่า #องค์กฐิน ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ที่ถวายร่วมด้วย รวมถึงเงินปัจจัยนั้น ถือเป็นเพียง #บริวารกฐิน เท่านั้น
ในยุคปัจจุบัน “ผ้า” ไม่ใช่ของหายากอีกต่อไป ทำให้ความสำคัญขององค์กฐินที่เป็นผ้าได้ลดน้อยลง ในทางกลับกัน “เงิน” ซึ่งเดิมทีเป็นเพียงบริวารกฐิน กลับทวีความสำคัญขึ้นมาแทนที่ จนกลายเป็นจุดสนใจหลักของการจัดงานทอดกฐินในหลาย ๆ แห่ง
ทั้งนี้ พระไพศาล วิสาโล ได้ชี้ให้ให้ปัญหาของการทอดกฐินที่การให้ความสำคัญกับยอดเงินและหน้าตา จนกลายเป็นเป้าหมายหลัก
“เดี๋ยวนี้เราไปให้คุณค่ากับเงินมาก กลายเป็นว่าทอดกฐินแล้วแข่งกันว่าวัดไหนจะได้เงินมากกว่ากัน กลายเป็นว่าจำนวนเงินกลายเป็นตัววัดเรตติ้งของวัด หรือเจ้าอาวาส

วัดไหนที่มีเงินทอดกฐินเยอะก็ไปอวดว่า ฉันมีญาติโยมมาถวายมาก หรือว่า ฉันมีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นเศรษฐีนี เป็นเศรษฐีมาถวาย เป็นการอวดบารมีของเจ้าอาวาส หรือเป็นการแสดงความนิยม ความดังของวัด หรือมิฉะนั้นก็กลายเป็นเครื่องวัดความสามารถ หรือความร่ำรวยของเจ้าภาพ
เจ้าภาพก็พยายามขวนขวายหาเงินมา เพื่อมาถวายให้กับวัดในพิธีทอดกฐิน แล้วไปอวดกันว่า ฉันเป็นเจ้าภาพวัดนี้ ฉันหาเงินมาได้ 10 ล้าน เธอหาได้แค่ 100,000 กลายเป็นว่ายอดเงินกลายเป็นตัวสำคัญ และพิธีทอดกฐินเลยกลายเป็นตัววัดเรตติ้ง หรือบารมีของวัด หรือเจ้าอาวาส รวมทั้งเจ้าภาพด้วย
กฐินตอนหลังนี่ เงินก็เลยเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกันความสามัคคีของหมู่สงฆ์ที่เคยเป็นจุดหมายสำคัญของบุญกฐินก็ค่อยๆ เลือนหายไป เวลาทอดกฐินเจ้าภาพก็อยากจะได้เงินเยอะๆ มาถวายกับวัด บางทีพระเองก็สนใจให้ความสำคัญกับเงิน จนลืมไปว่ากฐินนั้น สิ่งสำคัญ คุณค่าอยู่ที่สิ่งที่เป็นนามธรรมซึ่งสำคัญมาก ก็คือความสามัคคี ตอนหลังกฐินก็เลยความหมายแปรเปลี่ยนไป มีเรื่องเงินเข้ามาเป็นจุดหมาย แล้วบางทีก็เป็นเรื่องของหน้าตาด้วย
วัดไหนถ้าไม่มีกฐินเข้ามาจะรู้สึกเสียหน้า บางทีพระไม่รู้สึกอะไร แต่ชาวบ้านรู้สึกว่าวัดประจำบ้านตัวเองไม่มีกฐินมาเลย ก็ต้องขวนขวายไปหากฐินมาจากที่อื่น หรือมิเช่นนั้นก็รวบรวมกันทอดกฐินเสียเอง
จุดหมายสำคัญไม่ใช่เพื่อเชิดชูความสามัคคี แต่เพื่อรักษาหน้าตาของหมู่บ้าน หรือบางทีรักษาหน้าตาของวัด ของเจ้าอาวาส อันนี้ก็เป็นความคลาดเคลื่อน ตอนหลังนี่กฐินก็เป็นเรื่องของหน้าตาเสียเยอะ เจ้าภาพเองถ้าหาเงินได้น้อย แทนที่จะได้แสนก็ได้แค่หมื่นก็รู้สึกเสียหน้างาน ก็ทอดกฐินด้วยความทุกข์ ด้วยความเสียใจ เพราะรู้สึกว่าหาเงินมาได้น้อยกว่าที่ตั้งใจ หรือน้อยกว่ากฐินกองอื่นของเจ้าภาพคนอื่น นี่เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไม่ถูกต้อง เพราะไม่รู้ถึงจุดมุ่งหมายสำคัญของกฐิน
พอพิธีทอดกฐินเป็นพิธีกรรมเพื่อการหาเงินเข้าวัด ก็มีปัญหาตามมาคือ วัดพอมีเงินเยอะมาก เกิดปัญหาตามมา เงินรั่วไหล ใช้ผิดวัตถุประสงค์ เป็นข่าวคราวอย่างที่เรารู้กัน นี่เพราะเราไม่เข้าใจว่าวัตถุประสงค์ของการทอดกฐินคืออะไร”

พระไพศาลเน้นว่าสิ่งที่สำคัญ คือ สามัคคีธรรมของพระสงฆ์ในวัดที่จำพรรษาด้วยกัน ไม่ใช่เงิน
“เข้าใจให้ถูกว่า ทอดกฐินเพื่อส่งเสริมธรรมในหมู่สงฆ์ และส่งเสริมธรรมในหมู่ฆราวาสด้วย เพราะว่าฆราวาส ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพสามัคคี หรือจะมาเปิดโรงทาน ต้องลงเอยด้วยความรักกัน มองหน้ากัน มองตากันด้วยเมตตา….
แม้จะได้ผ้าผืนเดียว และเงินที่เป็นบริวาร 100 บาท 1000 บาท แต่พระในวัดกลมเกลียวกัน ตั้งมั่นในการปฎิบัติธรรม อันนี้เรียกว่าถูกวัตถุประสงค์ของการทอดกฐิน
เงินจะได้มากหรือน้อยไม่สำคัญ บริวารกฐินถึงจะน้อยก็ไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าเรามีใจที่จะมาถวายเพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรมในหมู่สงฆ์ แล้วขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้เกิดความพร้อมเพรียงกันในหมู่ญาติโยมด้วย อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ”
4. กลับคืนสู่หัวใจของบุญกฐิน คือ สามัคคีธรรม
- คุณค่าที่แท้จริงของบุญกฐินไม่ได้อยู่ที่ยอดเงินบริจาคที่มากมาย แต่อยู่ที่การส่งเสริม “สามัคคีธรรม” หรือความพร้อมเพรียงอันดีงามให้เกิดขึ้น ทั้งในหมู่สงฆ์ที่ได้จำพรรษาร่วมกัน และในหมู่ฆราวาสที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานบุญขึ้น
ฉะนั้น เมื่อมีโอกาสได้ร่วมบุญกฐิน ขอให้เราตั้งเจตนาให้ถูกต้อง โดยมุ่งที่การร่วมใจกันทำความดี มองว่านี่คือโอกาสอันดีในการสร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในจิตใจและในสังคมรอบตัว เพื่อให้การสืบทอดประเพณีอันดีงามนี้ เป็นการสืบทอดธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
*** ปล. หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เกิดขึ้นจากแนวคิดของมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ที่จะสร้างหอจดหมายเหตุพุทธทาสขึ้นในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นแหล่งรวบรวม อนุรักษ์ และ เผยแพร่มรดกธรรม.



อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เข้าใจการทอดกฐินให้ถูกต้อง ถวายยังไง ? สาระสำคัญพิธีอยู่ที่ผ้า พิเศษต่างจากทอดผ้าป่าหลายข้อ
- เปิดเลขเด็ด ยอดกฐิน วัดตานาด อุทัยธานี นอท ลอตเตอรี่พลัส เจ้าภาพ
- หมอบี เข้าข่ายฉ้อโกง กองปราบ พบหลักฐานทำกฐินเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
- ไวรัล สาวรับเป็นเจ้าภาพแจกอาหารงานกฐิน ลั่นไม่เหมือนกับที่เคยเห็นในออนไลน์ (มีคลิป)
ติดตาม The Thaiger บน Google News: