อุบัติเหตุใกล้ฐานทัพลับ “เอเรีย 51” พบวัตถุปริศนา กองทัพสหรัฐยังขนลุก

10 ตุลาคม 2568 สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กำลังสืบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตกปริศนาใกล้แอเรีย 51 (Area 51) ฐานทัพลับของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในรัฐเนวาดา หลังจากมีคนลักลอบนำวัตถุต้องสงสัยไปวางไว้ในที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 อากาศยานลำหนึ่งสังกัดฝูงบินที่ 432 ประสบอุบัติเหตุในพื้นที่ห่างจากเขตความปลอดภัยของแอเรีย 51 ไปทางตะวันออกประมาณ 19 กิโลเมตร ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกู้ซากเครื่องบินจนเสร็จสิ้นในวันที่ 27 กันยายน
เรื่องราวกลับซับซ้อนขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่กลับไปสำรวจพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 3 ตุลาคม พวกเขาพบร่องรอยการบุกรุกพื้นที่เกิดเหตุ มีคนนำวัตถุคล้ายระเบิดซ้อมรบที่ไม่ทำงาน กับแผงชิ้นส่วนเครื่องบินไม่ทราบที่มา มาวางทิ้งไว้ ระเบิดซ้อมรบ คือระเบิดฝึกหัดที่ไม่มีดินปืน ไม่สามารถระเบิดได้
ฐานทัพอากาศครีช ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 38 กิโลเมตร ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ยืนยันว่าสำนักงานสืบสวนพิเศษของกองทัพอากาศ (OSI) กับ FBI กำลังสอบสวนเรื่องนี้ในฐานะคดีอาชญากรรม
ก่อนหน้านี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เคยประกาศเขตห้ามบินชั่วคราวรอบพื้นที่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
รู้จัก Area 51 ฐานทัพลับ ศูนย์ทดสอบเทคโนโลยีการบินลับสุดยอด
แอเรีย 51 มีชื่อทางการคือ Groom Lake หรือ Homey Airport (KXTA)Groom Lake หรือ Homey Airport (KXTA) เป็นฐานทัพทดสอบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่รัฐบาลไม่เคยยอมรับการมีอยู่จนกระทั่งช่วงปี 2553 สถานที่แห่งนี้มักถูกเชื่อมโยงกับทฤษฎีเรื่องมนุษย์ต่างดาวกับยูเอฟโอมาโดยตลอด
เหตุผลหลักที่ที่นี่ต้องลับสุดยอด เพราะคือป็นสถานที่สำหรับพัฒนาและทดสอบอากาศยานกับระบบอาวุธที่ล้ำหน้าที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการลับสุดยอด ไม่ต้องการให้ฝ่ายตรงข้าม อย่างสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็นล่วงรู้
โครงการเด่นๆ ที่เคยทดสอบที่นี่ เช่น เครื่องบินสอดแนม U-2 (ทศวรรษ 1950) สามารถบินได้สูงกว่า 70,000 ฟุต ซึ่งสูงกว่าเพดานบินของเครื่องบินพาณิชย์ในยุคนั้นมาก เครื่องบินสอดแนม SR-71 Blackbird เป็นเครื่องบินที่เร็วที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน หรือเครื่องบินรบสเตลธ์ F-117 Nighthawk เทคโนโลยีล่องหน (Stealth) ที่โด่งดัง ก็ถูกพัฒนาและทดสอบที่นี่เช่นกัน
ในช่วงแรก รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธการมีอยู่ของฐานทัพแห่งนี้มานานหลายสิบปี จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2013 หน่วยงาน CIA ได้เปิดเผยเอกสารยอมรับ Area 51 มีจริงอย่างเป็นทางการ
ที่มาของทฤษฎีมนุษย์ต่างดาวกับ UFO
จุดเริ่มต้นจากการเห็น “UFO” ในช่วงทศวรรษ 1950-1960 ที่มีการทดสอบเครื่องบินสอดแนม U-2 นั้น เมื่อนักบินพาณิชย์หรือคนทั่วไปมองขึ้นไปบนฟ้า พวกเขาเห็นวัตถุบินที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บินสูงและเร็วกว่าเครื่องบินยุคนั้นมาก จึงรายงานการพบเห็น วัตถุบินที่ไม่สามารถระบุได้ หรือ UFO แล้วคนก็ไปตีความกันต่อว่าเป็นจานบินจากนอกโลก
แน่นอนว่ากองทัพอากาศไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นเครื่องบินสอดแนมรุ่นลับสุดยอด พวกเขาจึงมักอธิบายการพบเห็นเหล่านั้นว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ หรือ บอลลูนตรวจสภาพอากาศ แต่ยิ่งทำให้ประชาชนสงสัยและไม่เชื่อถือหนักกว่าเดิม
เมื่อรัฐบาลไม่สามารถให้คำตอบที่แท้จริงได้ ความลับนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ว่างให้ทฤษฎีเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวเข้ามาแทนที่ ผู้คนเริ่มเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามปกปิดไม่ใช่แค่เครื่องบินรบ แต่เป็นเทคโนโลยีจากต่างดาวที่เก็บกู้มาได้ หรือแม้กระทั่งร่างของมนุษย์ต่างดาวเอง
บุคคลสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้โด่งดังคือ บ็อบ ลาซาร์ (Bob Lazar) ในปี 1989 เขาอ้างตัวว่าเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำงานใน Area 51 และหน้าที่ของเขาคือการศึกษาและทำวิศวกรรมย้อนกลับ ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว แม้คำกล่าวอ้างของเขาจะไม่มีหลักฐานยืนยันและถูกโต้แย้งอย่างหนัก แต่เรื่องราวของเขาก็ถูกนำไปขยายผลในสื่อต่างๆ จนโด่งดังไปทั่วโลก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พีท ทองเจือ X เกริก ชิลเลอร์ คุยกับมนุษย์ต่างดาว ทำนายวันสิ้นโลก
- อ.เจษฎา เผย “แสงประหลาด” บนท้องฟ้า แท้จริงไม่ใช่ซานต้า หรือมนุษย์ต่างดาว
- แฉโครงการลับ UFO สหรัฐฯ ส่อปกปิดเรื่องมนุษย์ต่างดาว หวั่นกระทบความมั่นคง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: