สาวฟิลิปปินส์เตือนภัย ถูกชายแปลกหน้าใช้ AI ตัดต่อรูปตัวเองลงโซเชียล อ้างเป็นแฟนกัน

เป็นใครก็ตกใจ สาวฟิลิปปินส์โพสต์เตือนภัย ชายแปลกหน้าใช้ AI ตัดต่อรูปเธอลงโซเชียล พร้อมอ้างว่าเป็นแฟนกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในหลายสถานที่
ประเด็นนี้เริ่มต้นมาจากเว็บบอร์ดดังอย่าง Reddit ที่มีการแชร์ภาพโพสต์ของสาวฟิลิปปินส์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Maxyne Galindo โดยเธอพบว่าตัวเองถูกผู้ชายที่ใช้ชื่อว่า Kent S. Dela Cruz หรือใช้ชื่อใน Facebook ว่า “Go Ku” นำรูปภาพของเธอไปตัดต่อด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสร้างเรื่องราวความสัมพันธ์ส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย โดยที่เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน ระบุว่า
“ระวัง! โดยเฉพาะคนจากเมืองมาร์เบล หรือ ซุลตาน กูดารัต ถ้าคุณรู้จัก Kent S. Dela Cruz หรือ ‘Go Ku’ ใน Facebook เขาใช้รูปภาพของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดต่อใบหน้าของฉันใส่กับรูปของเขา ฉันไม่รู้จักคนนี้เลย แต่เขากลับใช้ AI ตัดต่อรูปฉันและเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ นานา”
“ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด! อย่าใช้ AI เพื่อจินตนาการส่วนตัวของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนที่คุณใช้รูปไม่ได้รับรู้ AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อจินตนาการส่วนตัวของคุณ แต่มันถูกใช้เพื่อช่วยเรา ไม่ใช่เพื่อเรื่องแบบนี้”
“ป.ล. โพสต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ห้ามส่งข้อความข่มขู่ถึงชีวิตใครก็ตาม”
แน่นอนว่าเมื่อโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัล ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่ไปถล่ม Go Ku แบบไม่เหลือชิ้นดี จนสุดท้ายฝ่ายชายตัดสินใจลบรูปทั้งหมดทิ้ง ก่อนที่จะโพสต์ข้อความขอโทษแบบยาวเหยียด ระบุว่า
“นี่คือการตอบสนองต่อโพสต์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของคุณ Maxyne เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 เวลา 21:28 น. ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจในวงกว้างในเวลาต่อมา การกระทำของผมเป็นประเด็นหลักของโพสต์นั้น และผมขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงด้วยความสัตย์จริงและด้วยความเคารพ”
“ผมรู้สึกขอบคุณที่เรื่องนี้ถูกนำมาเปิดเผย เพราะมันทำให้ผมตระหนักถึงความร้ายแรงของความผิดพลาด และให้โอกาสผมได้ทบทวนตัวเอง, แก้ไขตัวเอง, และหวังว่าจะได้เยียวยาความเจ็บปวดและความอับอายที่การกระทำของผมได้ก่อขึ้น”
“ก่อนอื่นและสำคัญที่สุด ผมขอแสดงความขอโทษอย่างสุดซึ้งต่อ Maxyne, ครอบครัว และเพื่อนของเธอ สำหรับความผิดพลาดที่ผมได้กระทำลงไปในการโพสต์รูปภาพของเธอลงในสตอรี่ของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต ผมทราบดีว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและหยาบคาย ที่ผมไปนำรูปภาพเหล่านั้นมาจากบัญชีโซเชียลมีเดียของเพื่อนเธอ โดยเฉพาะจาก TikTok และ Instagram”
“Maxyne และคนที่เธอรักต้องเผชิญกับความอับอาย, ความไม่สบายใจ, และความไม่สะดวกอันเป็นผลมาจากการกระทำของผม ผมยอมรับว่าพฤติกรรมของผมทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ, ไม่ได้รับการเคารพ, และไม่ปลอดภัย ผมล้มเหลวในการเคารพขอบเขตส่วนตัวของเธอและดูหมิ่นความเป็นส่วนตัวของเธอด้วยการใช้รูปภาพโดยไม่ได้รับความยินยอม ผมขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความประมาทเลินเล่อและการไม่ให้ความเคารพในครั้งนี้”
“ผมยังขอรับรู้ว่า Maxyne และครอบครัวของเธอไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ได้รับผลกระทบจากโพสต์ของผม ปัญหานี้ส่งผลกระทบถึงบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงด้วย และหลายคนแสดงความผิดหวังหรือความรังเกียจต่อตัวผม ผมยอมรับว่าการกระทำของผมก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และปฏิกิริยาเชิงลบ และผมยอมรับว่านี่เป็นผลมาจากความผิดพลาดของผมเอง”
“เนื่องจากไม่มีคำพูดใดที่สามารถแก้ไขความเสียหายทั้งหมดที่ผมได้ก่อไว้ ผมจึงขอก้มลงกราบขอความให้อภัยและความเห็นใจอย่างแท้จริง ผมขอโทษ Maxyne, ครอบครัว, และเพื่อนของเธอ สำหรับความกังวลและความวิตกกังวลที่สถานการณ์นี้ได้ก่อขึ้น และผมยังขอโทษสำหรับความยากลำบากที่การกระทำของผมสร้างให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบโดยอ้อม”
“สำหรับผม นี่เป็นบทเรียนที่ยากลำบาก แต่สำคัญอย่างยิ่ง ผมตระหนักแล้วว่าการกระทำที่ไม่รอบคอบเพียงครั้งเดียวบนโลกออนไลน์ อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คนจำนวนมาก บางครั้งในแบบที่เราไม่รู้ตัว มันทำให้ผมตระหนักถึงคุณค่าของความอ่อนไหว, การยินยอม, และความเคารพในการใช้รูปภาพและชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น ผมหวังว่าคนอื่นๆ จะได้ใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้คิดอย่างรอบคอบอยู่เสมอ ก่อนที่จะโพสต์หรือแชร์สิ่งใดทางออนไลน์”
“ผมขอสัญญาต่อทุกคนว่าผมจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดียวกันนี้ซ้ำอีก และจะพยายามมีความรับผิดชอบ, ให้ความเคารพ, และคิดอย่างถี่ถ้วนมากขึ้นในอนาคต ผมหวังว่าคำขอโทษของผมจะได้รับการยอมรับในที่สุด ขอบคุณครับ!”
อ้างอิง : 1
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวทดลองดื่ม “มัทฉะ” แทนกาแฟ 1 สัปดาห์ เผยผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด
- ยายจีนวัย 82 “กลืนกบเป็นๆ 8 ตัว” เชื่อช่วยรักษาอาการปวดหลัง สุดท้ายติดเชื้อ ปวดท้อง ถูกหามส่งรพ.
ติดตาม The Thaiger บน Google News: