ผู้ว่าฯจังหวัด “อัลมาตี้” จากคาซัคสถาน นำคณะสานสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดภูเก็ต เสริมท่องเที่ยว ลงทุน และวัฒนธรรม
ผู้ว่าฯจังหวัด “อัลมาตี้” จากคาซัคสถาน นำคณะสานสัมพันธ์เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดภูเก็ต แลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยว ลงทุน และวัฒนธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 มี.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ Mr.Batalov Amandyk Gabbasovich.ผู้ว่าราชการจังหวัดอัลมาตี้ สาธารณรัฐคาซัคสถาน พร้อมคณะ ในโอกาสที่เดินทางมาสานสัมพันธ์ในนิมิติต่างๆ ภายใต้กรอบความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตอัลมาตี้และคณะในวันนี้ สืบเนื่องจากทางจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากเอกอัคราชทูตคาซัคสถาน ประจำเทศไทย ว่า ทางจังหวัดอัลมาตี้มีความประสงค์ที่จะสานสัมพันธ์การเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ภูเก็ตมีเมืองที่สานสัมพันธ์การเป็นบ้านพี่เมืองน้องแล้วทั้งหมด 14 เมือง การเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับอัลมาตี้อยู่ในระหว่างการประสานงานในรายละเอียดต่างๆ หากไม่มีอะไรติดขัด จังหวัดอัลมาตี้จะเป็นเมืองที่ 15 ที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดภูเก็ต และเร็วๆนี้ทางจังหวัดภูเก็ตก็จะได้เดินทางไปเยือนเมืองอัลมาตี้
โดยการพบปะกันในวันนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอข้อมูลรายละเอียดของจังหวัดภูเก็ตให้ทางคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดอัลมาตี้ได้รับทราบ ในขณะเดียวกันทางจังหวัดอัลมาตี้ได้มีการบรรยาสรุปและเผยแพร่วัฒนธรรมของอัลมาตี้ให้ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบ ว่า จังหวัดอัลมาตี้อยู่ทางตอนใต้ของคาซัคสถาน เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และเป็นเมืองเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เป็นต้น และขณะนี้ทางประเทศคาซัคสถานกำลังเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยยังเดินทางไปท่องเที่ยวยังคาซัคสถานน้อบอยู่
นายภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า การสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับจังหวัดอัลมาตี้ในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่จะได้มีการแลกเปลี่ยนกันทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว การลงทุน วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวนั้น จะเห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุด เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศคาซัคสถานเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตปีละ 6-7 หมื่นคน เนื่องจากประเทศคาซัคสถานเป็นประเทศที่ไม่ติดทะเล ทำให้คนคาซัคสถานต้องการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองชายทะเล ภูเก็ตจึงเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ชาวคาซัคสถานชื่นชอบ แม้ว่าในขณะนี้จะไม่มีเที่ยวบินตรงระหว่างกันก็ตาม
นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนน่าที่จะมีความร่วมมือมากยิ่งขึ้นหลังจากที่มีการลงนามการเป็นบ้านพี่เมืองน้องระหว่างกัน และเท่าที่ทราบในปัจจุบันนักลงทุนจากประเทศคาซัคสถานได้เข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต