อยากได้ New Gen ต้องเข้าใจ! ออฟฟิศแบบไหนที่คนรุ่นใหม่อยากทำงาน

การแข่งขันในตลาดแรงงานทุกวันนี้ไม่ได้วัดกันที่ผลตอบแทนหรือสวัสดิการพื้นฐานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมาย คือการดึงดูดกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ (New Gen) ที่ให้ความสำคัญกับสมดุลชีวิตและวัฒนธรรมองค์กรเป็นอันดับต้น ๆ พวกเขามองหา “สถานที่ทำงาน” ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ให้ความสุข และสะท้อนถึงความใส่ใจที่องค์กรมีต่อพนักงาน ดังนั้น การปรับโฉมและแนวคิดเรื่องออฟฟิศจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรยุคใหม่ไม่อาจมองข้าม
รูปแบบออฟฟิศที่โดนใจคนทำงานรุ่นใหม่
มาดูกันว่า ออฟฟิศแบบไหนที่คนรุ่นใหม่อยากทำงาน และจะช่วยให้องค์กรของคุณดึงดูด New Gen ได้มากขึ้น
1. มีพื้นที่ส่วนรวมและส่วนตัว
แนวคิดออฟฟิศแบบเปิดโล่งที่เคยฮิตในอดีตอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะถึงแม้จะส่งเสริมการพูดคุย แต่ก็ลดทอนสมาธิในการทำงานที่ต้องโฟกัสอย่างมาก คนรุ่นใหม่จึงมองหาออฟฟิศที่มีความสมดุลระหว่างสองสิ่งนี้ นั่นคือต้องมีพื้นที่ส่วนรวม (Collaborative Space) ที่กระตุ้นให้เกิดการระดมสมอง แลกเปลี่ยนไอเดีย อาจเป็นโซนโซฟา โต๊ะยาวสำหรับทีมเวิร์ก หรือห้องประชุมขนาดเล็กที่ตกแต่งอย่างสร้างสรรค์
ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัว (Focus Zone) สำหรับการทำงานที่ต้องการสมาธิสูง เช่น Phone Booth สำหรับคุยโทรศัพท์ ห้องทำงานเงียบ หรือแม้กระทั่งโต๊ะทำงานส่วนบุคคลที่ถูกออกแบบมาอย่างดี และเก้าอี้สำนักงานที่รองรับสรีระและสามารถปรับระดับได้หลากหลาย ช่วยให้พนักงานสามารถนั่งทำงานที่ต้องใช้สมาธิต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง โดยไม่รู้สึกปวดเมื่อย
2. มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลา-สถานที่
หนึ่งในปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ “ความยืดหยุ่น” ออฟฟิศที่น่าทำงานจึงต้องมีนโยบายที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) ที่สามารถสลับระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้านได้ หรือการกำหนดช่วงเวลาเข้า-ออกงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Hours) การให้อิสระเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พนักงานจัดการสมดุลชีวิตการทำงานและเรื่องส่วนตัวได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้ออฟฟิศกลายเป็นสถานที่สำหรับการเข้ามาพบปะ ทำงานร่วมกัน และสร้างวัฒนธรรมองค์กร มากกว่าจะเป็นสถานที่ที่ต้องมาตอกบัตรทุกวัน
3. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
การจะทำให้ออฟฟิศเป็นสถานที่ที่พนักงานอยากมา ต้องทำให้การใช้ชีวิตในที่ทำงานสะดวกสบายและไร้รอยต่อ สิ่งอำนวยความสะดวกจึงไม่ได้หมายถึงแค่อุปกรณ์สำนักงานพื้นฐานอีกต่อไป แต่หมายรวมถึงทุกอย่างที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตระหว่างวันทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เสถียร มุมกาแฟที่มีเครื่องชงคุณภาพดีและเมล็ดกาแฟให้เลือก Pantry ที่มีขนมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเติมตลอดวัน ห้องประชุมที่จองง่ายผ่านระบบออนไลน์ หรือแม้แต่ห้องสำหรับพักผ่อน (Wellness Room) ที่สามารถเข้าไปงีบหลับหรือนั่งสมาธิเพื่อชาร์จพลังในช่วงสั้น ๆ
4. มีพื้นที่สีเขียวเสริมสร้างบรรยากาศ
ธรรมชาติมีผลอย่างมากต่อสภาพจิตใจและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ การนำองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาผสมผสานในการออกแบบออฟฟิศ หรือที่เรียกว่า Biophilic Design จึงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ออฟฟิศที่มีพื้นที่สีเขียว ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางต้นไม้ฟอกอากาศตามมุมต่าง ๆ การทำสวนแนวตั้ง (Green Wall) หรือการมีพื้นที่ Outdoor Terrace ให้พนักงานได้ออกไปสูดอากาศและเปลี่ยนบรรยากาศ จะช่วยลดความเครียด เพิ่มความสดชื่น และทำให้บรรยากาศโดยรวมของออฟฟิศดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
5. มีพื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่สำหรับรับประทานอาหารกลางวัน หรือพักเบรกไม่ควรเป็นแค่ห้องครัวเล็ก ๆ ที่มีไมโครเวฟ แต่ควรเป็นโซนที่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของพนักงาน การมีโรงอาหาร (Canteen) หรือโซนทานอาหารที่สว่าง สะอาด และมีโต๊ะขนาดใหญ่ที่รองรับให้คนจากต่างแผนกได้มานั่งทานข้าวและพูดคุยกัน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์และก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนอกเหนือเรื่องงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สรุปบทความ
ออฟฟิศที่สามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ได้ต้องเป็นมากกว่าสถานที่ทำงาน แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่มอบความยืดหยุ่น ใส่ใจในสุขภาวะ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ การลงทุนสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์เหล่านี้ คือกุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันและรักษาทาเลนต์ที่มีคุณภาพไว้กับองค์กรในระยะยาว
ติดตาม The Thaiger บน Google News: