อาลัยวีรชนผู้กล้า จ.ส.อ.ธวัชชัย เสียชีวิต จากอาวุธหนักกัมพูชาที่ศรีสะเกษ

จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา สละชีพปกป้องประเทศ กองทัพบกเผยสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาใช้อาวุธหนักยิงต่อเนื่องในหลายพื้นที่ชายแดน
สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุขึ้นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 โดยเฉพาะช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เมื่อกองทัพกัมพูชาได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าใส่ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตโสม) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา หรือ “จ่าโต๋” ตำแหน่งนายสิบลาดตระเวน ปืนใหญ่ที่ 6 พัน.106 เสียชีวิตในหน้าที่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย คือ สิบเอก ยงยุทธ พิมพกรรณ์ ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใบหน้า แต่ขณะนี้รู้สึกตัวดีและสามารถตอบสนองได้
“กองทัพบกได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากหน่วยในพื้นที่ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุปะทะกระจายในหลายจุดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะที่ช่องบกและภูมะเขือ จังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งปืนใหญ่สนามและจรวด BM-21 (Grad Rocket)
เพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ใช้อาวุธสนับสนุนตามความเหมาะสมของสถานการณ์อย่างชอบธรรม ขณะเดียวกันได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความคืบหน้าและท่าทีอย่างเป็นทางการของกองทัพไทยจะมีการแถลงให้ทราบต่อไป
ขณะที่เพจ Army Military Force – สำรอง ได้รายงานสถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชา ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30 น. โดยระบุถึงความเคลื่อนไหวในแต่ละจุดอย่างละเอียด อาทิ
ช่องบก : มีการตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่ของทั้งสองฝ่าย กับจรวด BM-21
ช่องอานม้า : มีการทำลายอนุสาวรีย์คนขี่ม้าและอาคารโดยรอบ
พื้นที่ซำแต : ทหารราบพร้อมรถถังเข้าตีตอบโต้เพื่อยึดพื้นที่คืน
ช่องตาเฒ่า : กัมพูชาใช้รถถังถึง 15 คัน เป็นฐานยิง
เขาพระวิหาร : ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลัง
ภูมะเขือ : มีการเข้าตีและยิงโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง
ช่องจอม : มีการโจมตีกันไปมา
ปราสาทตาควาย : กัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ปราสาทตาเมือนธม : ไทยวางกำลัง และกัมพูชาพยายามเข้าตี
สำหรับยอดความสูญเสียล่าสุดที่รายงานเฉพาะในวันนี้ พบว่าฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ขณะที่ฝ่ายไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลความสูญเสียของกัมพูชาที่ประเมินโดยฝ่ายข่าวกรองไทยนั้นมีจำนวนสูงถึง 23 ราย แบ่งเป็นในพื้นที่หน้าปราสาทตาเหมือนธม 1 ราย, ใต้ปราสาทตาเมืองธม 8 ราย (เป็นทหาร 3, ประชาชน 4, พระสงฆ์ 1), และที่ภูมะเขืออีก 14 รายจากการทิ้งระเบิด ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของสถานการณ์อย่างชัดเจน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชาปวดหัว ทหารไม่ฟังคำสั่ง ห้ามถ่ายคลิปโชว์อาวุธ หลังเผยพิกัดจรวด MLRS
- ชาวบ้านเอาปลัดขิกเหนือบังเกอร์ ชี้ไปด้านเขมร เชื่อทำมนต์ดำเสื่อมได้
- เทียบศักยภาพ F-16 ไทย กับ MiG-21 กัมพูชา ไทยเหนือกว่าทุกมิติ
อ้างอิง : โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี
ติดตาม The Thaiger บน Google News: