ยูเอ็น ฟันธง “กัมพูชา” คือศูนย์กลาง สแกมเมอร์โลก แนะ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้

ยูเอ็น แฉ ประเทศกัมพูชา เป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์ แหล่งรวมอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ชี้ ต้นตอจากเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น กฎหมายที่อ่อนแอ แนะนำให้ทุกฝ่ายหาทางออก
เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้สรุปรายงานจากเฟซบุ๊กของ Wassana Nanuam ที่นำเสนอข่าวช็อกโลกจากสำนักข่าว The Strait Times ที่ระบุว่า สหประชาชาติ (UN) ที่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ประเทศกัมพูชาได้กลายเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลกไปแล้ว
รายงานดังกล่าวได้เปิดเปลือยให้เห็นภาพของปัญหาที่น่าสะพรึงกลัวและใหญ่เกินกว่าที่หลายคนคาดคิด มันไม่ใช่แค่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ธรรมดา แต่เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานทัพในการก่อเหตุหลอกลวงผู้คนทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น การหลอกให้ลงทุน (Pig Butchering), การสร้างสัมพันธ์รักลวงออนไลน์ (Romance Scams) ไปจนถึงรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดคือ การค้ามนุษย์เพื่อการหลอกลวงทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นการบังคับใช้แรงงานคนในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ทำไมต้องเป็น กัมพูชา?
คำถามสำคัญที่ตามมาคือ เหตุใดประเทศกัมพูชาจึงปล่อยให้ดินแดนของตนกลายเป็นสวรรค์ของอาชญากรไซเบอร์ได้ถึงเพียงนี้? รายงานวิเคราะห์ชี้ไปที่ปัจจัยหลายอย่างที่ผสมปนเปกันจนเป็น “สูตรสำเร็จ” ของความล่มสลายนี้
1. ช่องโหว่ทางกฎหมาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องยังตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอาชญากร และการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่เข้มแข็งพอ ทำให้คนร้ายไม่เกรงกลัว
2. การทุจริตคอร์รัปชัน
การมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนเข้าไปพัวพันหรือรับผลประโยชน์ เป็นการเปิดประตูให้แก๊งเหล่านี้เข้ามาตั้งฐานและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
3. สภาพเศรษฐกิจ
ความเปราะบางทางเศรษฐกิจเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนสีเทาเข้ามามีอิทธิพลและสร้างอาณาจักรอาชญากรรมได้โดยง่าย
4. ผลพวงจากโควิด-19
การปิดพรมแดนในช่วงระบาดใหญ่ ทำให้กลุ่มอาชญากรที่เคยเน้นกิจการกาสิโน เปลี่ยนยุทธวิธีมาเน้นการหลอกลวงออนไลน์อย่างเต็มตัว และหาแรงงานทาสจากคนที่ติดค้างหรือถูกหลอกมาทำงาน

ทางออกและการรับมือ สงครามที่ต้องสู้ร่วมกัน
การที่กัมพูชาถูกตีตราว่าเป็น “Scammer Hub” ไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียงของประเทศ แต่ยังสร้างบาดแผลทางเศรษฐกิจและจิตใจให้กับเหยื่อทั่วโลก การต่อสู้กับภัยคุกคามนี้จึงไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นสงครามที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
รัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงความจริงใจในการปราบปรามและอุดช่องโหว่ทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศและนานาชาติต้องร่วมมือกันแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อทลายเครือข่ายเหล่านี้ให้สิ้นซาก และส่วนที่สำคัญที่สุดคือประชาชนทุกคน ที่ต้องสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเอง ตระหนักรู้และไม่ตกเป็นเหยื่อของกลลวงออนไลน์ที่นับวันจะยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกที
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้เรียบเรียงจากข้อมูลที่มีการรายงานผ่านสื่อ ยังต้องติดตามท่าทีและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลกัมพูชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนคลิปขนลุก! หมอปลาย ทำนาย นายกฯ คนใหม่ ไม่ใช่ “อุ๊งอิ๊ง” แต่เป็นนักธุรกิจ
- “ฮุน มาเนต” อ้าแขนต้อนรับ “หลวงตาสุจ” เจ้าตัวลั่นขอตายในกัมพูชา
- เปิดคลิป ม็อบเขมร เบื้องหน้าหนุนกองทัพ เบื้องหลังรัฐจัดฉาก เกณฑ์คนร่วมแสนห้า?
ข้อมูลและภาพจาก : Drama-addict, Wassana Nanuam, The Strait Times
ติดตาม The Thaiger บน Google News: