เปิดชื่อ 6 ยาแก้ปวด กินติดกันเกิน 5 วัน เสี่ยงไตวาย

หมอวี เปิดชื่อ 6 ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs กินติดกันเกิน 5 วัน เสี่ยงไตวายเฉียบพลัน
คลิปวิดีโอจากผู้ใช้งาน TikTok @dr.v_official บัญชีของ นพ.วีรพันธ์ สุวรรณนามัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอวี” ศัลยแพทย์ระบบประสาท และสมาชิกวุฒิสภา ได้กลายเป็นกระแสไวรัล ด้วยยอดรับชมทะลุ 7 ล้านครั้ง เนื้อหาคือคำเตือนสำคัญถึงประชาชนที่นิยมรับประทานยาแก้ปวดโดยไม่รู้เท่าทันอันตราย
หมอวีระบุว่า ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) หลายคนใช้เป็นประจำ หากกินเกิน 5 วันต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิด ภาวะไตวายเฉียบพลัน โด้ ยาแก้ปวดเสี่ยงสูงดังนี้
รายชื่อ 6 ยาแก้ปวดที่ควรระวัง หากใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน
1. ไดโคลฟีแนค (Diclofenac)
2. ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
3. ไพรอกซิแคม (Piroxicam)
4. มีลอกซิแคม (Meloxicam)
5. ซีลีคอกซิบ (Celecoxib)
6. อีทอริคอกซิบ (Etoricoxib)
หมอวีย้ำว่า “ใครที่กินยาแก้ปวดเป็นประจำ โดยเฉพาะยากลุ่มนี้ หากใช้ติดต่อกันนานเกิน 5 วัน ไตมีโอกาสพังได้โดยไม่รู้ตัว” พร้อมเผยว่า เคยพบผู้ป่วยอายุเพียง 30 กว่าปี ซึ่งรับประทานยาเหล่านี้ต่อเนื่อง สุดท้ายต้องเข้ารับการฟอกไตตั้งแต่วัยหนุ่มสาว
ใช้ยาแก้ปวดอย่างไรให้ปลอดภัย?
หมอวีแนะนำวิธีใช้ยากลุ่มนี้อย่างปลอดภัยว่า ควรกิน เพียงเท่าที่จำเป็น ไม่เกิน 3–5 วัน หากอาการดีขึ้นแล้วควรหยุดทันที ไม่ควรใช้เรื้อรัง เพราะนอกจากเสี่ยงไตวาย ยังอาจเกิดผลข้างเคียงอื่น เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ หรือ แผลในกระเพาะ ได้อีกด้วย
ทำไมยาแก้ปวด ถึงทำร้ายไต
ทีมงานไทยเกอร์ไปหาข้อมูลมาเพิ่มว่า ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs มีผลต่อการทำงานของไตโดยตรง เนื่องจาก กลไกของยาไปยับยั้งเอนไซม์ที่มีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนเลือดในไต
NSAIDs ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ Cyclooxygenase (COX-1 และ COX-2) ซึ่งช่วยผลิตสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins)
พรอสตาแกลนดินในไตมีหน้าที่ขยายหลอดเลือดในไต ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี → เป็นกลไกสำคัญในการกรองของเสียผ่านไต
เมื่อพรอสตาแกลนดินถูกยับยั้ง → หลอดเลือดไตหดตัว → การไหลเวียนเลือดไปยังไตลดลง → ทำให้ประสิทธิภาพการกรองของไตลดลง
ลดอัตราการกรองของไต (GFR)
การที่เลือดมาเลี้ยงไตน้อยลงจะส่งผลให้ ค่า GFR (Glomerular Filtration Rate) ซึ่งเป็นค่าบ่งบอกการทำงานของไต ลดลง → เกิด ภาวะไตวายเฉียบพลัน
เสี่ยงไตขาดเลือดในคนที่มีโรคประจำตัว
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, หัวใจวาย, โรคไตเรื้อรัง → ไตไวต่อการขาดเลือดมากอยู่แล้ว
การกิน NSAIDs ซ้ำซ้อนเป็นเวลานาน จะ ซ้ำเติมภาวะเลือดไปเลี้ยงไต จนเกิดภาวะ ไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury) หรือไตวายเรื้อรังได้
เสี่ยงเกลือคั่ง น้ำคั่ง ความดันสูง
NSAIDs มีผลทำให้ โซเดียมและน้ำคั่งในร่างกาย เพราะขัดขวางการขับออกทางไต ทำให้เกิดอาการ บวม, ความดันโลหิตสูง, หัวใจวายกำเริบ และยิ่งทำให้ไตแย่ลง
กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง NSAIDs
ผู้สูงอายุ
ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ หรือเบาหวาน
ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย หรืออยู่ในภาวะขาดน้ำ
ผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ หรือยาความดันบางชนิด (เช่น ACE inhibitors)
แล้วพาราเซตามอลเสี่ยงไตวายมั้ย?
พาราเซตามอลไม่ทำให้ไตวายเฉียบพลัน หากใช้ในขนาดปกติ ไม่เกิน 3,000–4,000 มก.ต่อวันในผู้ใหญ่ แต่หากใช้ขนาด เกินขนาดหรือใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ก็มีความเสี่ยงต่อ ตับวาย มากกว่าที่จะเกิดไตวาย
พาราเซตามอล เหมาะกับการใช้เป็นยาแก้ปวดและลดไข้แบบชั่วคราว มีหน้าที่เข้าไปยับยั้ง COX ในสมองส่วนกลาง ไม่ได้ทำทั่วร่างกาย และไม่มีผลช่วยต้านการอักเสบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หมอธีระวัฒน์ เตือนภัย ยาแก้ปวด คนไทยชอบกิน เสี่ยงอันตรายถึงหัวใจ-สมอง ไม่ใช่แค่กระเพาะ-ไต
- อุทาหรณ์ สาวแพ้ยาแก้ปวด ตุ่มพุพอง ผิวหนังหลุดลอก นอนทรมาน ICU 36 วัน
- หมอดังเผย กะหล่ำปลี แก้ปวดได้จริง ทำเองได้ที่บ้าน ได้ผลดียิ่งกว่าเจลลดปวด
ติดตาม The Thaiger บน Google News: