ขีดเส้น 7 วัน สอบปม ครูมัท เสียชีวิต จ่อรื้อระบบพัสดุ-การเงิน รร.เล็กทั่วไทย

เลขาฯ กพฐ. ธนุ วงษ์จินดา ตบโต๊ะลั่น เรื่องครูมัทต้องมีคนรับผิดชอบ สั่งสอบข้อเท็จจริงด่วน ขีดเส้นตาย 7 วันต้องมีคำตอบ หลังครูสาวบุรีรัมย์จบชีวิต ทิ้งจดหมาย 5 หน้าแฉภาระงานการเงินสุดโหด
เมื่อวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568 สำนักข่าว แนวหน้า รายงานว่า ภายหลังโศกนาฏกรรมสะเทือนใจของ ครูมัท ข้าราชการครูหญิงวัย 39 ปี ที่ตัดสินใจจบชีวิตจากความเครียดเรื่องภาระงาน ล่าสุด ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเด็ดขาด สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในโรงเรียนของครูมัท โดยขีดเส้นตายให้ได้คำตอบภายใน 7 วัน พร้อมลั่นวาจาว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ว่าตนได้รับรายงานเบื้องต้นเรื่องการเสียชีวิตของครูมัทแล้ว และได้อ่านจดหมายลาตายที่ระบุถึงความทุกข์และปัญหาที่ต้องรับผิดชอบเรื่องการเงิน บัญชี และพัสดุเพียงลำพัง เลขาธิการ กพฐ. ยอมรับว่าปัญหานี้มักเกิดขึ้นในโรงเรียนขนาดเล็กทั่วไป ซึ่ง สพฐ. รับทราบปัญหามาโดยตลอด และเมื่อนำเรื่องนี้เรียน พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ท่านก็แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งและย้ำว่าจะปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกไม่ได้

จากจดหมายลาตายของครูมัทที่ระบุว่าต้องคอยตามแก้ไขปัญหาตลอด ทำให้เลขาธิการ กพฐ. ตั้งข้อสังเกตว่า การปฏิบัติงานในโรงเรียนดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้ เพราะจากโรงเรียนในสังกัดเกือบ 30,000 แห่งทั่วประเทศ
เหตุใดปัญหาที่รุนแรงจนนำไปสู่การสูญเสียจึงเกิดขึ้นที่นี่ การสอบสวนข้อเท็จจริงจึงต้องลงลึกไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกคนตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนไปจนถึงเจ้าหน้าที่การเงิน เพื่อค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะเชื่อว่าต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากการสอบสวนเฉพาะกรณีของครูมัทแล้ว ว่าที่ร้อยตรี ธนุ ยังได้นำเรื่องนี้เข้าเป็นวาระใหญ่ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. เพื่อออกแบบและทบทวนแนวทางการลดภาระครูอย่างเร่งด่วน โดยยอมรับว่าที่ผ่านมา สพฐ. เคยมีนโยบายให้เขตพื้นที่ฯ เข้าไปช่วยงานโรงเรียนขนาดเล็กที่ครูน้อย แต่ก็มีอุปสรรคเรื่องระยะทาง และบางโรงเรียนยังต้องการทำเอง
ขณะที่ครูธุรการก็มีจำนวนลดลง ปัจจุบันจึงต้องมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI และระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยมากขึ้น เช่น การใช้ธุรการร่วมกันระหว่างโรงเรียน 3-4 แห่ง เพื่อให้ครูได้กลับไปทำหน้าที่หลักในการสอนหนังสือให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ เลขาธิการ กพฐ. ยังได้มอบหมายให้ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ลงพื้นที่ร่วมกับทหารและฝ่ายความมั่นคง เพื่อตรวจสอบหลุมหลบภัยหรือบังเกอร์ของโรงเรียนในพื้นที่ 7 จังหวัดติดชายแดนไทย-กัมพูชา
พร้อมทั้งจัดทำคู่มือปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับนักเรียนและครูในพื้นที่เสี่ยง การจากไปของครูมัทจึงกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ สพฐ. และกระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียซ้ำรอยอีก.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครูทั่วไทยนัดแต่งดำ ไว้อาลัย “ครูมัท” แฉยับ “เพื่อนครู-ผอ.” ต้นเหตุจบชีวิต
- เปิดจดหมาย ครูมัท เครียดลาโลก รร.บริหารงานแย่ ถูกโยนผิด อ่านยิ่งสะเทือนใจ
- อ.เจษฎา ซัดต้นตอปัญหา ปมครูมัทลาโลก ชี้ทำงานผิดตำแหน่ง ระบบถอยหลังลงคลอง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: