อีลอน มัสก์ เศรษฐีคนดัง ได้กล่าวว่าเขาได้ออกจากตำแหน่งคณะบริหารของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ หลังผลักดันการลดขนาดรัฐบาล ส่งผลให้เลิกจ้างเจ้าหน้าที่หลายพันราย
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 พฤษภาคม) ตามเวลาประเทศไทย อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอคนดังของเทสล่า ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง X ว่าเขาได้ออกจากคณะบริหารรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบัน หลังจากช่วยผลักดันให้รัฐบาลมีขนาดเล็กลง จนส่งผลให้มีการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่รัฐหลายพันคน โดยข้อความระบุว่า
“ในขณะที่ช่วงเวลาการทำงานของฉันในฐานะเจ้าหน้าที่พิเศษของรัฐบาลกำลังจะสิ้นสุดลง ฉันขอขอบคุณประธานาธิบดี @realDonaldTrump สำหรับโอกาสในการลดการใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ภารกิจของ @DOGE จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภารกิจนี้กลายเป็นวิถีชีวิตของทั้งรัฐบาล”
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าทำเนียบขาวเริ่ม “ปลด” เจ้าพ่อเทคโนโลยีชาวแอฟริการายนี้ออกจากตำแหน่งพนักงานพิเศษของรัฐบาลเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่บทบาทของเขาเป็นเพียงตำแหน่งชั่วคราว และการลาออกของเขาไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง และเกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ มัสก์ วิจารณ์แกนหลักของวาระการประชุมของทรัมป์
มัสก์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของรัฐบาล ซึ่งทำให้เขาสามารถทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางได้ 130 วันต่อปี ซึ่งหากวัดจากการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา มัสก์จะถึงขีดจำกัดดังกล่าวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม การลาออกของ มัสก์ เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่เขาบอกว่ารู้สึกผิดหวังกับร่างกฎหมายงบประมาณของทรัมป์ ที่เสนอการลดหย่อนภาษีหลายล้านล้านดอลลาร์ และเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งเขาได้กล่าวในการสัมภาษณ์กับ CBS ว่า “ร่างกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม” ตามที่ทรัมป์เรียกนั้น จะทำให้ขาดดุลของรัฐบาลเพิ่มขึ้น
เขายังกล่าวอีกว่าเขาคิดว่าร่างกฎหมายนี้บั่นทอนผลงานของ DOGE โดยบอกว่า “ผมคิดว่าร่างกฎหมายสามารถยิ่งใหญ่หรือสวยงามก็ได้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะเป็นทั้งสองอย่างได้หรือไม่”
ก่อนหน้านี้ มัสก์ เคยให้คำมั่นในตอนแรกว่าเขาจะตัดงบประมาณรัฐบาลกลางยอา่งน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงลดลงเหลือ 150,000 ล้านดอลลาร์
จากเจ้าหน้าที่พลเรือนของรัฐบาลกลางทั้งหมด 2.3 ล้านคน มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 260,000 คนที่ถูกเลิกจ้างหรือยอมรับข้อตกลงเลิกจ้่างที่เป็นสำคสั่งของ DOGE และในบางกรณี ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้สั่งระงับการไล่เจ้าหน้าที่ออกจำนวนมาก และสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้างกลับเข้าทำงาน อีกทั้งการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางอย่างรวดเร็ว ยังทำให้เจ้าหน้าที่บางส่วนถูกเลิกจ้างโดยผิดพลาด รวมถึงพนักงานในโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มัสก์ ประกาศว่าเขาจะถอยออกมาเพื่อบริหารบริษัทของตนอีกครั้ง หลังจากที่กลายเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการวิจารณ์ถึงความพยายามของทรัมป์ที่จะปฏิรูปรัฐบาล
ช่วงเวลาของมัสก์ในรัฐบาลนั้นทับซ้อนกับช่วงเวลาที่ยอดขายของเทสล่าลดลงอย่างมาก โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเขานั้นลดลงไป 13 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งถือว่าเป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 45 เปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาและลดลงเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อ้างอิง : www.bbc.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยังไม่หยุด รัฐบาลทรัมป์สั่งสถานทูต ระงับนัดหมายทำวีซ่านักเรียนจากต่างประเทศ
- ด่วนที่สุด ศาลสหรัฐ ยกเลิกภาษีทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขต
- “อีลอน มัสก์” เตรียมลดบทบาทการเมือง หลังกำไร “เทสล่า” ดิ่งฮวบ 70%
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
