พีช สมิทธิพัฒน์ รับสารภาพ 3 ข้อหาคดีจราจร – ตำรวจตั้งเพิ่ม 4 ข้อหาคดีอาญา รอผลพิสูจน์ร่องรอยชนวิเคราะห์ข้อเท็จจริง
กรณีคดีอุบัติเหตุบีเอ็มขับปาดกระบะ ที่นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” ลูกชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ขับรถยนต์ BMW ป้ายแดง พุ่งชนรถกระบะของตา-ยาย บนถนนทางหลวงในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนทำให้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ โดยฝ่ายชายถึงขั้นซี่โครงหัก 6 ซี่ และเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู
ล่าสุด นายสมิทธิพัฒน์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน แยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ คดีจราจรและคดีอาญา
3 ข้อหาคดีจราจร ยอมรับผิด ปรับ 6,000 บาท
ในส่วนของคดีจราจร นายสมิทธิพัฒน์ เข้าพบตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่
-
ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น
-
ขับขี่รถยนต์โดยใบอนุญาตหมดอายุ
-
นำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนออกมาใช้บนถนน
โดยนายสมิทธิพัฒน์ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และถูกเปรียบเทียบปรับข้อหาละ 2,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,000 บาท
4 ข้อหาคดีอาญา รอผลพิสูจน์ร่องรอยการชนประกอบสำนวน
ต่อมาในช่วงกลางดึกวันเดียวกัน นายสมิทธิพัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีอาญา จำนวน 4 ข้อหา ได้แก่
-
ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีคุณตา)
-
ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ (กรณีคุณยาย)
-
ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
-
ทำให้เสียทรัพย์
ทั้งนี้ ตำรวจได้ส่งรถ BMW ของนายสมิทธิพัฒน์ และรถกระบะสีดำของผู้บาดเจ็บให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปทุมธานี ตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างละเอียด เพื่อยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายมีการปะทะกันในจุดใด สอดคล้องกับพยานหลักฐานหรือไม่ และตรงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่
เบื้องต้น จากการตรวจสอบสภาพรถ BMW พบเพียงร่องรอยเฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถฝั่งขวา สอดคล้องกับลักษณะที่รถสะบัดท้ายไปชนรถกระบะ แต่ยังไม่พบร่องรอยการชนที่แบร์ริเออร์ตามที่นายพีชให้การว่าโดนรถกระบะปาดหน้า จนต้องหักหลบแล้วเสียหลัก
ด้าน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายเรียกและแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อย และนายพีชก็ให้ความร่วมมือโดยยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมืออย่างปกติ
ส่วนข้อสงสัยในสังคมว่าเหตุการณ์นี้อาจเข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนก่อน ไม่สามารถชี้นำคดีล่วงหน้าได้ เพราะต้องยึดตามข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้
ขณะเดียวกัน สังคมยังคงจับตาคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นการเยียวยาผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีรายงานว่าผู้เสียหายยังไม่ได้รับการชดเชยใด ๆ จากคู่กรณีจนถึงขณะนี้.
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 พีช สมิทธิพัฒน์ มาพร้อมกับนายกเบี้ยว ยังสถานีตำรวจภูธรลำลูกกา เพื่อแสดงความขอโทษต่อครอบครัวผู้เสียหาย โดยพีชได้นำพวงมาลัยจำนวน 2 พวงมาแสดงความขอขมา
ภายในบรรยากาศตึงเครียด นายพีชถึงกับคุกเข่าต่อหน้าลูกสาวของผู้บาดเจ็บเพื่อกล่าวคำขอโทษ พร้อมน้ำตาคลอเบ้า ยืนยันว่า “ไม่มีเจตนาจะทำให้ใครเจ็บ” และขอ “โอกาสจากสังคม” จะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตามกัน จอมพลัง ซึ่งเข้าร่วมพูดคุยในฐานะผู้ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียหาย สวนกลับว่า “แบบนี้มัดมือชกเกินไป” พร้อมตั้งคำถามถึงคำพูดที่นายพีชเคยให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ว่า “ถ้าลุงจอด เรื่องจะไม่เกิดขึ้น” สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับครอบครัวผู้เสียหาย กันชี้ว่าเป็นการโทษผู้บาดเจ็บทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้กระทำความผิดใด
แม้กระทั่งในช่วงการแสดงความขอโทษ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุผลที่นายพีชไม่เรียกรถพยาบาลในวันเกิดเหตุ แต่เจ้าตัวกลับไม่ตอบคำถาม และถูกนายกเบี้ยวพาออกจากวงสัมภาษณ์อย่างรวดเร็ว
ก่อนขึ้นรถ นายพีชกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมขอโทษแล้วนะพี่ ผมรู้สึกผิดจริง ๆ ทุกอย่างมันมาที่ผม แต่พ่อแม่ผมก็โดนด้วย ผมรู้สึกมันเยอะเกินไปแล้ว”
ขณะเดียวกัน นายกเบี้ยวซึ่งเดินตามมาส่งท้าย ได้กล่าวสั้น ๆ ว่า “พอแล้วนะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อัปเดตอาการ คุณตารถกระบะ เหยื่อถูก “ลูกพีช” ชน เริ่มมีน้ำในปอด
- กัน จับโป๊ะ “พีช” ถ่ายสำเนาจดหมาย “ตายาย” ทำเอาหลักฐานหรือไม่
- ภูมิธรรม โต้ นายใหญ่ สั่งเบรค “กัน” ดูแลคดี “พีช” ซิ่งบีเอ็ม ปัดเอี่ยวการเมือง
ข่าวล่าสุด
