ดีเจแมน เปิดใจ เคยคิดฆ่าตัวตาย ต้องอยู่คุก 1 ปี 7 เดือน แต่ฮึด กูต้องรอด เพื่อแม่

ดีเจแมน เปิดใจทั้งน้ำตา อยู่หลังกำแพงเรือนจำ 1 ปี 7 เดือน เคยคิดสั้น จบชีวิต แต่แรงใจจากแม่ ลูกสาวทำให้ยืนหยัดสู้ ต้องมีชีวิตรอด
ดีเจแมน พัฒนพล เปิดใจถึงช่วงชีวิตที่พลิกผัน จากดาราดัง ต้องเข้าคุกจากคดี Forex-3D ต้องใช้ชีวิตหลังกำแพงเรือนจำนานถึง 1 ปี 7 เดือน กับอีก 17 วัน สุดท้ายศาลยกฟ้อง พ้นมลทิน เผยความรู้สึกในรายการ “คุยแซ่บ Show” ทางช่อง One31 ว่าช่วงเวลาที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวโดยไม่ทันได้ร่ำลา ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต โดยเฉพาะในฐานะพ่อ ที่ไม่ได้เจอลูกสาว “น้องเวทมนต์” เลยตลอดระยะเวลานั้น
ดีเจแมนเล่าว่า วันที่ 9 พฤษภาคม ต้องเข้าเรือนจำกะทันหัน วันนั้นเขาแทบไม่ได้ร่ำลาลูก เพราะไม่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกยาวนานถึง 1 ปี 7 เดือน 17 วัน เมื่อได้กลับมาลูกสาวเติบโตเปลี่ยนไปมาก จากเด็กเล็กพูดได้ไม่กี่คำ กลายเป็นเด็กหญิงที่พูดจาเป็นประโยคยาว ๆ ทำให้เขาต้องเริ่มเรียนรู้และปรับตัวใหม่กับความสัมพันธ์พ่อลูกที่ขาดหายไปนาน
ดีเจแมน กล่าวว่าตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำ เขาไม่เคยลืมลูกแม้แต่วินาทีเดียว เหตุการณ์ที่ทำให้มั่นใจว่าลูกไม่เคยลืมพ่อ คือวันที่เขาแต่งชุดซานตาคลอสไปเซอร์ไพรส์ลูกสาว ทั้งที่ปิดหน้าปิดตาหมด แต่ทันทีที่ลูกเห็นก็ตะโกนเรียกว่า “ปาป๊า”
ด้านคุณแม่ป๋อง พิมพ์แข กล่าวถึงโมเมนต์ที่ลูกชายกับหลานสาวได้กลับมาเจอกันว่า น้ำตาไหลด้วยความปิติ เพราะตลอดเวลาหลานมักถามถึงพ่อเสมอ และสวดมนต์อธิษฐานขอให้พ่อกลับมาเร็ว ๆ โดยตลอดระยะเวลาในคดีนี้ เธอเป็นผู้ดูแลทุกอย่างแทนลูกชาย ตั้งแต่จัดการค่าใช้จ่าย ดูแลหลาน รวมถึงเดินทางไปเยี่ยมดีเจแมนทุกวัน
ดีเจแมนกล่าวถึงความเข้มแข็งของแม่ว่า เป็นเสาหลักที่ทำให้เขามีกำลังใจอยู่เสมอ ระยะเวลา 20 นาทีที่แม่มาเยี่ยม ถือเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุดในแต่ละวัน ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่การได้มองตากันก็เพียงพอแล้ว เขายอมรับว่าเคยคิดฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกว่าชีวิตพังทลาย แต่เมื่อเห็นแม่ที่สู้ทุกอย่างเพื่อเขา เขาจึงบอกตัวเองว่า “ไม่ได้ กูต้องรอด เพื่อแม่ เพื่อพ่อ เพื่อเวทมนต์”
เขายังเล่าอีกว่า เคยฝันเห็นเวทมนต์ร้องไห้ จึงเอะใจถามแม่ว่าลูกเป็นอะไรไหม แต่แม่โกหกว่าไม่เป็นไร เพราะไม่อยากให้เขาเครียด กระทั่งวันหนึ่ง ใบเตย สุธีวัน ภรรยา มาเยี่ยมจึงเล่าความจริงให้ฟังว่า ลูกไม่สบาย ตอนนั้นเขาถึงกับเป็นลมเพราะสะเทือนใจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่มีพลังจะช่วยเหลือใครได้เลยในสภาพนั้น
ช่วงที่ใบเตยมาเยี่ยมในเรือนจำ เขากล่าวว่าใบเตยยังมีความทุกข์มาก จึงพยายามเข้มแข็งปลอบใจว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น” แต่เมื่อใบเตยจากไปหมดเวลาเยี่ยม เขาก็ล้มลงเพราะความเครียดสะสมที่ระเบิดออกมาโดยไม่รู้ตัว
ดีเจแมนยังเล่าว่า คุณพ่อของเขายอมเสียสละโดยไม่ไปทำกายภาพต่อหลังผ่าตัดขา เพื่อเก็บเงินไว้ส่งให้ลูกชาย รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง แม้ต้องอาบน้ำเย็นเพราะเครื่องทำน้ำร้อนเสียก็ตาม
แม่ป๋องกล่าวว่า ตนเองต้องประหยัดอย่างหนัก เพราะช่วงนั้นไม่มีงาน รายได้ขาดหาย และยังถูกทนายหลอกเงินหลายแสนบาท อ้างว่าจะช่วยให้ลูกชายประกันตัวออกมา ซึ่งสุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
วันที่ศาลมีคำพิพากษา ดีเจแมนกล่าวว่าเป็นวันที่เปรียบเสมือนการได้ชีวิตใหม่ เขาจับมือใบเตยในศาล พร้อมกล่าวกับภรรยาว่า หากโลกนี้ไม่ยุติธรรมกับเรา ขอให้ป๊าคนเดียวที่ต้องรับผล หนูต้องสู้เพื่อลูก เมื่อศาลมีคำสั่งยกฟ้อง จำเลยที่ 2 และ 3 เขาโผเข้ากอดใบเตยและครอบครัว พร้อมน้ำตาแห่งความดีใจ
ดีเจแมนเล่าด้วยว่า ในเรือนจำมีสิ่งหนึ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจ คือ “จดหมายหลังกำแพง” ที่พ่อส่งมาให้ทุกวัน เป็นกระดาษแผ่นเดียว มีเพียง 20 บรรทัด แต่เต็มไปด้วยรูปภาพของเวทมนต์ที่ทำให้เขาได้เห็นพัฒนาการของลูก แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แม่ป๋องกล่าวว่าวันที่ตัดสินคดี มือสั่นทั้งตัว เพราะรู้สึกเหมือนครอบครัวได้รับอิสรภาพพร้อมกันทั้งบ้าน
ดีเจแมนกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดในชีวิต ทำให้เขาเห็นความหมายของคำว่า “พระในบ้าน” อย่างแท้จริง เขาย้ำว่าไม่ต้องรอให้สาย ใช้เวลากับพ่อแม่ในทุกวินาทีที่ยังมีอยู่ เพราะความรักของพ่อแม่คือสิ่งที่มั่นคงที่สุดในชีวิต
สุดท้าย เขากล่าวถึงลูกสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “พ่อรักลูกที่สุดในชีวิต อยากให้เวทมนต์เป็นเด็กดี เป็นคนดี และรู้ไว้เสมอว่าครอบครัวเราทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดีเจแมน เดินสายทำบุญ แชร์เนื้อเพลง ชีวิตเหมือนโดนพายุกระหน่ำ
- ดีเจแมน โพสต์ซึ้งถึง ใบเตย เคียงข้างภรรยาร่ำไห้ ป่วยซึมเศร้า
- มดดำ ทิ้งบอมบ์ ใบ้ 2 ท่าน ใหญ่มาก ถูกดาราดังอ้างชื่อรีดเงิน ดีเจแมน