
ออมุก (어묵) คือ อาหารยอดฮิตจากซีรีส์เกาหลี ทำจากเนื้อปลาบดละเอียด มีดีมากกว่าแค่ของกินเล่นริมทาง เผยจุดเด่นความอร่อยตั้งแต่สมัยสงคราม ยาวนานจนถึงปัจจุบัน แบรนด์ไทยผลิตมาขายร้านสะดวกซื้อ อย่างเช่นแบรนด์ Happy Munchy ของนิหน่า มีขาย 7-11
แฟนซีรีส์เกาหลี หรือคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีแล้ว อาจจะคุ้นชินกับร้านอาหารริมทางที่มักจะขายแผ่นแป้งเสียบไม้ต้มในน้ำซุปร้อน ๆ ยืนกินตอนอากาศหนาว ๆ ฟินอย่าบอกใคร แต่บางคนอาจจะยังสงสัยว่า ออมุก คืออะไร? มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง ส่วนผสมคืออะไร และมีวิธีการผลิตอย่างไร วันนี้ ไทยเกอร์ จะมาไขคำตอบนั้นให้เองค่ะ
ออมุก Eomuk (어묵) หรือเค้กปลาแผ่นเกาหลี คือผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปยอดนิยมของเกาหลี ผลิตมาจากเนื้อปลาบดแท้ ๆ แล้วนำมาผสมเข้ากับแป้ง ผัก และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ก่อนจะขึ้นรูป โดยศูนย์กลางการผลิตปลาแผ่นเกาหลี หรือ ออมุก นั้นจะอยู่ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้
หลังสงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950-1953) เกาหลีใต้ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและโปรตีน ออมุกกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีราคาไม่แพงและเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 อุตสาหกรรมการผลิตออมุกเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย เช่น เครื่องแยกเนื้อปลา เครื่องลดความชื้น และเครื่องหั่น การเติบโตนี้ส่งผลให้ออมุกกลายเป็นอาหารที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของชาวเกาหลี

ส่วนประกอบหลักและขั้นตอนการผลิต ‘ออมุก’
ในการทำ ออมุก ทั่วไปจะเลือกใช้ปลาสีขาวบดละเอียด โดยมักจะเป็นปลาพอลล็อคอลาสก้า (Alaska pollock) หรือปลาอินทรี (Golden threadfin bream) เนื่องจากเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ นอกจากเนื้อปลาแล้ว ยังมีส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วย แป้งสาลีหรือแป้งสำปะหลัง, เกลือ และน้ำตาล ด้วยส่วนผสมที่แสนง่ายนี้กลับสร้างเนื้อสัมผัสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของออมุกจนทำให้คนทั้งในประเทศเกาหลีเอง และคนในประเทศอื่น ๆ ต่างก็หลงไหลในความอร่อยนี้
นอกเหนือจากส่วนประกอบหลักแล้ว ผู้ผลิตออมุกอาจมีการเพิ่มส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผักต่าง ๆ ได้แก่ แครอท หอมใหญ่ และต้นหอม ในบางสูตรก็เติมไข่ขาวและน้ำมันพืช หรืออาจมีการใช้สารปรุงแต่งเพิ่มเติม เช่น ดี-ซอร์บิทอล (D-sorbitol) โปรตีนถั่วเหลือง ดี-ไซโลส (D-xylose) และผงชูรส (MSG) เพื่อเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วย
กระบวนการผลิตโดยทั่วไปในระดับอุตสหกรรมจะเริ่มต้นจากการนำเนื้อปลาแช่แข็งมาละลาย และนำไปบดละเอียด ก่อนจะผสมให้เข้ากับส่วนประกอบอื่น ๆ ข้างต้นในเครื่องผสมความเร็วสูง จากนั้นจะถูกนำไปขึ้นรูปและปรุงสุกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น นึ่ง หรือ ทอด ก่อนจะบรรจุและจัดจำหน่าย
ทว่าการทำ ออมุก แบบดั้งเดิมนั้นจะนำส่วนผสมทั้งหมดมานวดด้วยมือจนเข้ากัน จากนั้นก็จะนำไปขึ้นรูปตามต้องการ และใช้วิธีการทอดในน้ำมันท่วม ๆ จนสุกเป็นสีเหลืองทองก็เป็นอันใช้ได้

ออมุกมีหลายรูปแบบ ไม่ได้มีแค่แผ่นสี่เหลี่ยม
ออมุกไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่ที่ได้เห็นกันบ่อย ๆ จนคุ้นหน้าคุ้นตาเลยคือจะมาในรูปแบบแผ่นบาง ๆ ถูกพับสลับไปมาคล้ายคลื่นแล้วเสียบไม้ ก่อนจะนำลงไปต้มในน้ำซุป ซึ่งเป็นลักษณะที่คุ้นเคยในอาหารริมทางของเกาหลี
นอกจากนี้ ยังมีออมุกในรูปแบบอื่นๆ เช่น ลูกกลมคล้ายลูกชิ้น ทรงกระบอก ทรงยาว ทรงสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความหลากหลายในรูปทรงนี้ทำให้สามารถนำออมุกไปใช้ในการประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

ออมุก (어묵) อาหารหลักที่คนเกาหลีขาดไม่ได้
ออมุก ถือเป็นหนึ่งในอาหารริมทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว อิทธิพลของซีรีส์และไอดอลเกาหลีก็เป็นอีกหนึ่งรากฐานที่ทำให้ ออมุก ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากผู้บริโภคในถึงต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย อย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันนี้ร้านสะดวกซื้อบางแบรนด์ก็นำเอา ออมุกโอเด้ง เข้ามาขายในหลาย ๆ สาขา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและคนที่ชื่นชอบในอาหารเกาหลี
นอกจาก ออมุก เสียบไม้ต้มซุปที่ขายตามข้างทางแล้ว ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่รังสรรค์จากปลาแผ่นเกาหลีนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นเมนูง่าย ๆ ที่แม่บ้านเกาหลีมักจะทำเสิร์ฟในมื้ออาหารของครอบครัวอยู่เป็นประจำ
1. ซุป (ออมุกกุก)
ออมุกกุก หรือซุปปลาแผ่นเกาหลี เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ใช้ออมุกเป็นส่วนประกอบหลัก เมนูนี้ถือเป็นอาหารที่ให้ความอบอุ่น และสบายท้อง น้ำซุปของออมุกกุกมักทำจากน้ำสต็อกปลาแอนโชวี่ เคี่ยวกับหัวไชเท้า ต้นหอม เพื่อให้รสชาติน้ำซุปหวานหอมกลมกล่อม บางบ้านก็เพิ่มพริกหั่นลงไปด้วย
2. เครื่องเคียง (พันชัน)
ออมุก นอกจากจะกินคู่กับน้ำซุปแล้วยังสามารถนำมาเป็นเครื่องเคียงบนโต๊ะอาหารได้ด้วย โดยจะเรียกเมนูนี้ว่า ‘ออมุกบกกึม’ หรือปลาแผ่นผัด เป็นเครื่องเคียง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลี อีกทั้งขั้นตอนการทำก็ง่ายแสนง่าย เริ่มต้นจากการหั่นออมุกเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปผัดกับผักต่าง ๆ เช่น หอมใหญ่ แครอท และต้นหอม ปรุงรสชาติให้เข้มข้น หวาน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ‘ออมุกบกกึม’ มักถูกเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยและอาหารเกาหลีอื่น ๆ ในสำรับ
3. เมนูอื่น ๆ
นอกจากเมนูที่กล่าวมาแล้ว ออมุกยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเกาหลีประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ต็อกบกกี (떡볶이) และคิมบับ (김밥) นอกจากนี้ ออมุกยังสามารถนำไปรับประทานคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างโซจู และมีการพัฒนาไปเป็นอาหารฟิวชั่น เช่น คร็อกเก้ออมุก การนำออมุกไปประยุกต์ใช้ในเมนูต่าง ๆ อย่างหลากหลายแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงง่ายของวัตถุดิบชนิดนี้ และราคาที่ไม่แพง ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถหยิบจับมาประกอบอาหารในแต่ละมื้อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว


ดราม่า ออมุก ของ นิหน่า สุฐิตา
ดราม่าออมุกของ นิหน่า สุฐิตา เกิดขึ้นเมื่อแบรนด์ “Happy Munchy” ซึ่งพิธีกรสาวเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ได้ผลิตและจำหน่าย “ออมุก” สไตล์เกาหลี
นิหน่า กล่าวว่า แบรนด์ Happy Munchy เป็นบริษัทขนาดเล็กที่ใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการพัฒนาสินค้าออมุก โดยเน้นที่คุณภาพและรสชาติที่ดี ต่อมาพบว่า บริษัทขนาดใหญ่ได้ผลิตสินค้าออมุกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันออกมาวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ โดยมีการตั้งราคาที่ต่ำกว่า
นิหน่าและหุ้นส่วนของแบรนด์ Happy Munchy รู้สึกเสียใจและท้อแท้ เนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการรายเล็ก
นิหน่าได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อระบายความรู้สึก ขอการสนับสนุนจากผู้บริโภค จนมียอดแชร์ออกไปจำนวนมาก ผู้บริโภคส่วนใหญ่เห็นใจ ให้กำลังใจแบรนด์ Happy Munchy พร้อมจะสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการรายเล็กเพื่อเป็นการตอบโต้การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “นิหน่า” พ้อ ทำ ‘ออกมุก’ คิดมาเป็นปีๆ เจอแบรนด์ใหญ่ทำสินค้าเหมือนสู้
- ยื้อต่อไม่ไหว ร้านอาหารดัง เตรียมปิดกิจการถาวร นักกินสายอาหารเกาหลีเศร้า
ภาพจาก : steemit, thebusanfishcake