สุขภาพและการแพทย์

เนื้อหมู VS เนื้อไก่ แหล่งโปรตีนชั้นดี กินอะไรดีกว่ากัน

โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ, สร้างเอนไซม์และฮอร์โมน, เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน, และให้พลังงาน ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมต่อวันจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยทั่วไปผู้ใหญ่ควรได้รับ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นนักกีฬา คนเล่นกล้ามต้องการมากกว่า 1.5 เท่าของน้ำหนักตัว และผู้สูงอายุอาจต้องการเพิ่มขึ้น

แหล่งโปรตีนที่ดีที่หาได้ง่าย ได้แก่เนื้อสัตว์, ไข่, ผลิตภัณฑ์นม, ถั่ว, และเต้าหู้ แต่พูดถึงเนื้อ มักมีข้อถกเถียงกันว่า กินเนื้อไก่ หรือเนื้อหมูดีกว่ากัน

เปรียบเทียบคุณค่าโภชนา โปรตีนต่อเนื้อ 100 กรัม

เนื้อหมู มีโปรตีนประมาณ 20-25 กรัม และไขมันอยู่ที่ประมาณ 10-20 กรัม ขึ้นอยู่กับส่วนของเนื้อ โดยเฉพาะสามชั้นและสันคอมีไขมันมากถึง 20-30 กรัม ทำให้มีแคลอรีสูง (200-400 แคลอรีต่อ 100 กรัม) ในขณะที่ส่วนสันในและสันนอกจะมีไขมันต่ำกว่า จึงให้แคลอรีประมาณ 150-200 แคลอรีเท่านั้น

เนื้อไก่ มีโปรตีนประมาณ 23-27 กรัม โดยเฉพาะอกไก่มีโปรตีนสูงสุดและมีไขมันต่ำที่สุด (ประมาณ 1-3 กรัม) จึงให้แคลอรีต่ำเพียง 120-165 แคลอรีต่อ 100 กรัม ส่วนสะโพกไก่ ปีก หรือน่องมีไขมันเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 6-15 กรัม และมีแคลอรีประมาณ 160-220 แคลอรี

ทั้งสองชนิดมีวิตามิน B6 และ B12 สูง มีแร่ธาตุที่สำคัญคือ ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด และสังกะสีช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

ถ้าใครกังวลเรื่องระบบย่อยอาหาร เนื้อไก่ย่อยง่ายกว่าเนื้อหมู เพราะเนื้อไก่มีโครงสร้างกล้ามเนื้อที่ละเอียดกว่า มีไขมันต่ำ การที่มีไขมันน้อยช่วยลดภาระในการย่อยอาหาร คนที่มีปัญหาการย่อย เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ควรเลือกเนื้อไก่ก่อนเนื้อหมู

ส่วนไหนของเนื้อหมู-ไก่ ควรกินที่สุด ไม่อ้วน

เนื้อหมู แนะนำเป็นเนื้อสันใน มีไขมันต่ำที่สุดเพียง 2-4 กรัม โปรตีนสูง และเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนสันนอกหรือสะโพกไขมันสูงกว่าเล็กน้อยแต่ยังดีต่อสุขภาพมากกว่าสามชั้นหรือสันคอ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงหรือกินแต่น้อย

แน่นอนว่า ราชาเนื้อไก่คือ อกไก่ มีไขมันต่ำที่สุด โปรตีนสูงมาก เหมาะสำหรับคนออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อหรือลดน้ำหนัก สะโพกไก่เป็นตัวเลือกที่รองลงมา เพราะมีไขมันสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ให้รสชาติที่ดี ส่วนน่องและปีกมีไขมันค่อนข้างสูง ควรจำกัดปริมาณการรับประทาน

กินเนื้อมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวไหม

การบริโภคเนื้อหมูติดมันบ่อยเกินไป เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และไขมันในเลือดสูง ควรเลือกเนื้อหมูส่วนที่ไม่ติดมันและกินในปริมาณที่พอดี

เนื้อไก่ แม้จะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ควรระวังไก่ที่ถูกเลี้ยงด้วยฮอร์โมนหรือยาปฏิชีวนะในฟาร์มอุตสาหกรรม ทางที่ดีควรเลือกซื้อไก่ออร์แกนิกหรือไก่ที่ได้รับมาตรฐานการเลี้ยงที่ปลอดภัย

สรุปแล้ว การบริโภคโปรตีนอย่างมีสมดุล หลากหลายจะดีที่สุด ไม่ควรจำกัดการบริโภคอยู่ที่เนื้อสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ควรมีผัก ผลไม้ และแหล่งโปรตีนอื่นๆ อย่างไข่ ปลา ถั่ว หรือธัญพืชร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์และมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

สลับกันระหว่างเนื้อหมูกับเนื้อไก่ ดีที่สุด เพื่อความอร่อยปาก หลากหลาย และดีต่อสุขภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button