สอบใบประกอบวิชาชีพครู 2568 รอบกระดาษ สรุปขั้นตอน รับสมัครวันสุดท้าย

แนะนำขั้นตอนการ สอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ประจำปี พ.ศ. 2568 พร้อมแนวทางคุณสมบัติและเกณฑ์การสอบ เอกสารที่ต้องยื่น มีอะไรบ้าง ผู้สอบจะต้องสอบทั้งหมดกี่รอบ ก่อนปิดรับสมัครเย็นนี้วันสุดท้าย!
สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นครู ห้ามพลาดโอกาสสำคัญ! คุรุสภาเปิดรับสมัครสอบเพื่อขอรับ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ครั้งที่ 1 ในระบบกระดาษ ประจำปี พ.ศ. 2568 แล้ว โดย วันนี้ 24 มีนาคม 2568 เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร อย่ารอช้า! รีบตรวจสอบคุณสมบัติ ขั้นตอนการสมัคร และรายละเอียดสำคัญที่คุณต้องรู้ ก่อนหมดเขตรับสมัครในเวลา 16.30 น. วันนี้เท่านั้น
คุรุสภา เปิดกำหนดการสอบ ใบประกอบวิชาชีพครู ปี 68
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ประกาศกำหนดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู รายวิชาครู ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
ครั้งที่ 1 ระบบกระดาษ
จำนวน 1 รอบ ในวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 – 16.00 น. โดยใช้แบบทดสอบฉบับภาษาไทยและฉบับภาษาอังกฤษ
ครั้งที่ 2 ระบบอิเล็กทรอนิกส์
จำนวน 4 รอบ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ได้แก่
- รอบที่ 1 วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 – 12.00 น.
- รอบที่ 2 วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.30 – 17.30 น.
- รอบที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 – 12.00 น.
- รอบที่ 4 วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.30 – 17.30 น.
หมายเหตุ : ใช้แบบทดสอบฉบับภาษาไทย รอบที่ 1 – 3 และสามารถเลือกสอบฉบับภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ เฉพาะรอบที่ 4
สำหรับผู้ที่สนใจสอบในระบบกระดาษ ครั้งที่ 1 ซึ่งกำลังเปิดรับสมัครอยู่ในขณะนี้ มีรายละเอียดและขั้นตอนดังนี้
ตรวจสอบสิทธิและยื่นคำร้องขอมีสิทธิ
-
- 11 – 17 มีนาคม 2568 (สิ้นสุดแล้ว)
เปิดรับสมัคร
-
- 14 – 24 มีนาคม 2568 (วันนี้วันสุดท้าย! ปิดรับสมัครเวลา 16.30 น.)
ชำระค่าสมัคร
-
- 14 – 24 มีนาคม 2568 (ต้องชำระก่อน 08.00 น. ของวันถัดไปหลังจากเลือกสนามสอบ)
แก้ไขข้อมูลผู้สมัคร
-
- 25 – 27 มีนาคม 2568
ตรวจสอบรายชื่อและพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ
-
- 30 พฤษภาคม 2568
วันสอบ (ระบบกระดาษ)
-
- วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 – 16.00 น.
ประกาศผลสอบ
-
- 15 สิงหาคม 2568
ขั้นตอนการสมัครสอบ (ระบบกระดาษ)
1. ตรวจสอบสิทธิและยื่นคำร้องขอมีสิทธิ
(สำหรับผู้ที่ไม่เคยสมัคร หรือเคยสมัครแต่สอบไม่ผ่านตั้งแต่ปี 2564 – 2567) ดำเนินการผ่านระบบรับสมัครสอบ https://ksp2568-1.thaijobjob.com
2. ผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการทดสอบ
สามารถสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) จนถึงเวลา 16.30 น. ของวันที่ 24 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://ksp2568-1.thaijobjob.com โดยเลือกสถานที่สอบได้ 1 จังหวัด และภาษาแบบทดสอบ (ไทย หรือ อังกฤษ) ได้ 1 ภาษา จาก 12 จังหวัดทั่วประเทศ
3. การชำระค่าสมัคร
ชาวไทย 500 บาท ชาวต่างประเทศ 1,000 บาท ชำระผ่าน QR Code ที่ได้รับจากระบบ โดยต้องชำระก่อน 08.00 น. ของวันถัดไปหลังเลือกสนามสอบ เพื่อรักษาสิทธิ์สนามสอบ
4. การแก้ไขข้อมูล
ผู้ที่ชำระเงินแล้ว สามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัว (ยกเว้นเลขบัตรประชาชนและวันเกิด) ได้ระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม 2568
5. ตรวจสอบรายชื่อและพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ
ตรวจสอบและพิมพ์บัตรประจำตัวสอบได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
จังหวัดที่เปิดสอบ (ระบบกระดาษ)
– ฉบับภาษาไทย (12 จังหวัด) ได้แก่ เชียงใหม่, พิษณุโลก, กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ลพบุรี, ขอนแก่น, นครราชสีมา, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ชลบุรี, สงขลา, สุราษฎร์ธานี
– ฉบับภาษาอังกฤษ (4 จังหวัด) ได้แก่เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร, ขอนแก่น, สงขลา
อย่าลืม วันนี้ (24 มีนาคม 2568) เป็นวันสุดท้ายของการรับสมัครสอบ ใบประกอบวิชาชีพครู ครั้งที่ 1 ระบบกระดาษ รีบตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการสมัครให้เรียบร้อยก่อนเวลา 16.30 น. เพื่อไม่พลาดโอกาสสำคัญในการก้าวสู่เส้นทางครูนะครับ
รายได้ของอาชีพครูในประเทศไทย
1. ครูผู้ช่วย เป็นตำแหน่งเริ่มต้นสำหรับผู้ที่เพิ่งบรรจุเข้ารับราชการครู
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 15,050 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นสูง: ประมาณ 24,750 บาทต่อเดือน
2. ครู คศ.1 ครูที่มีประสบการณ์การสอนและผ่านการประเมินวิทยฐานะแล้ว
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 15,440 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นสูง: ประมาณ 34,310 บาทต่อเดือน
3. ครู คศ.2 ครูที่มีประสบการณ์การสอนมากขึ้นและได้รับการประเมินวิทยฐานะชำนาญการ
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 16,190 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 16,190 บาทต่อเดือน
- เงินพิเศษ: ค่าวิทยฐานะชำนาญการ 3,500 บาทต่อเดือน
4. ครู คศ.3 ครูที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสอนมากขึ้น
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 18,860 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นสูง: ประมาณ 58,390 บาทต่อเดือน
- เงินพิเศษ
- ค่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ 5,600 บาทต่อเดือน
- ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับครูชำนาญการพิเศษ 5,600 บาทต่อเดือน
- รวมเงินเดือนสูงสุด: ประมาณ 69,590 บาทต่อเดือน
5. ครู คศ.4 ครูที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 24,400 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นสูง: ประมาณ 69,040 บาทต่อเดือน
- เงินพิเศษ
- ค่าวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ 9,900 บาทต่อเดือน
- ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับครูเชี่ยวชาญ 9,900 บาทต่อเดือน
- รวมเงินเดือนสูงสุด: ประมาณ 88,840 บาทต่อเดือน
6. ครู คศ.5 ตำแหน่งสูงสุดสำหรับครูที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษและประสบการณ์มาก
- เงินเดือนขั้นต่ำ: ประมาณ 29,980 บาทต่อเดือน
- เงินเดือนขั้นสูง: ประมาณ 76,800 บาทต่อเดือน
หมายเหตุ : ข้อมูลดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาลและสภาพเศรษฐกิจในแต่ละปี. นอกจากนี้ ครูในโรงเรียนเอกชนอาจมีเงินเดือนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงเรียน
ความสำคัญของการสอบใบประกอบวิชาชีพครู
การสอบใบประกอบวิชาชีพครูเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรับรองความสามารถและคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการประกอบวิชาชีพครูในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ โดยมีความสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
1. การรับรองคุณภาพครู การสอบใบประกอบวิชาชีพครูช่วยในการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของครูที่มีความรู้ความสามารถในการสอนและการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การศึกษาในระดับต่าง ๆ มีคุณภาพสูงขึ้น และนักเรียนได้รับการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
2. มาตรฐานวิชาชีพครู การสอบเป็นการตั้งมาตรฐานที่คุรุสภากำหนดขึ้น เพื่อให้ผู้ที่ประกอบวิชาชีพครูมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ ความสามารถ การปฏิบัติวิชาชีพ หรือจรรยาบรรณที่ควรปฏิบัติตาม ทำให้วิชาชีพครูมีมาตรฐานและเชื่อถือได้ในสายตาของสังคม
3. การพัฒนาวิชาชีพครู การสอบใบประกอบวิชาชีพครูเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นและส่งเสริมให้ครูพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทักษะการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียน และการพัฒนาทางวิชาการ ด้วยการเตรียมตัวสอบและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในระหว่างการเตรียมตัวสำหรับการสอบ
4. การสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียน เมื่อครูมีใบประกอบวิชาชีพและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนด จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียนว่าครูมีความรู้และความสามารถในการสอน ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน
5. โอกาสในการเติบโตในอาชีพครู การมีใบประกอบวิชาชีพครูยังเป็นการเปิดโอกาสให้ครูสามารถเติบโตในสายอาชีพได้อย่างมีความมั่นคง ทั้งในด้านการรับสมัครงานในโรงเรียนต่างๆ การเข้ารับตำแหน่งผู้บริหาร หรือการพัฒนาตนเองในฐานะครูที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
6. การรักษาผลประโยชน์ของผู้เรียน โดยการมีระบบการสอบที่มีมาตรฐาน จะทำให้ครูในประเทศไทยสามารถป้องกันปัญหาการเข้าเป็นครูโดยไม่ผ่านการประเมินคุณสมบัติอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจทำให้การเรียนการสอนไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น และอาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศ
ดังนั้น การสอบใบประกอบวิชาชีพครูจึงเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญมากในการพัฒนาครูให้มีคุณภาพและสามารถให้การศึกษาแก่เด็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลดีต่อการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศและการเติบโตของบุคคลในสังคมไทย
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
- ศูนย์บริการข้อมูล (Call Center): 0 2257 7159 ต่อ 3
- ไลน์ไอดี (Line id): @Thaijobjob