
คลังย้ำ ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ภายใน 25 มี.ค.นี้ รับเงินดิจิทัลรอบเก็บตก 28 มี.ค. 68 พลาดรอบนี้รออีกทีเม.ย. เผยสาเหตุโอนเงินไม่สำเร็จ วิธีรับเงินของบุคคลล้มละลาย
แจ้งเตือนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 กระทรวงการคลังขอให้เร่งผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนและตรวจสอบบัญชีรับเงินอยู่ในสถานะปกติ เพื่อรอรับเงิน 10,000 บาทในวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยผู้ที่มีเงื่อนไขตรงตามที่กระทรวงการคลังกำหนดต้องดำเนินการภายในวันที่ 25 มีนาคมนี้
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการโอนเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ มีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 3,025,596 ราย โอนเงินสำเร็จจำนวน 2,825,076 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 93.37 และ โอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 200,520 ราย (คิดเป็นร้อยละ 6.63)
หลังกรมบัญชีกลางจ่ายเงินในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 1 ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวน 199,919 ราย โอนเงินสำเร็จจำนวน 158,712 ราย และโอนเงินไม่สำเร็จจำนวน 41,207 ราย สำหรับสาเหตุที่โอนเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จ เนื่องจาก 2 สาเหตุใหญ่ ดังนี้
1. ไม่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน
สาเหตุแรกที่โอนเงินให้ผู้สูงอายุไม่สำเร็จ เพราะกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ จำนวน 39,761 ราย ยังไม่ลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เพื่อผูกบัญชีเงินฝากกับเลขประจำตัวประชาชน สามารถแก้ไขได้เพียงทำตามขั้นตอนนี้
- ตรวจสอบผลการจ่ายเงินผ่านทางแอปฯ ทางรัฐ
- หากปรากฏว่าโอนเงินไม่สำเร็จ ให้เร่งติดต่อที่ธนาคาร
- ดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากด้วยเลขบัตรประชาชน
2. สาเหตุอื่นๆ ที่โอนเงินไม่สำเร็จ
ส่วนสาเหตุต่อมาที่ทำให้ผู้สูงอายุจำนวน 1,446 ราย ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท อาจมาจากสาเหตุบัญชีธนาคารไม่เคลื่อนไหว บัญชีธนาคารถูกปิด เลขที่บัญชีไม่ถูกต้องหรือบัญชีธนาคารติดเงื่อนไข และไม่มีบัญชีธนาคาร แก้ไขได้ด้วย 2 วิธี ดังนี้
- ประชาชนที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประชาชนแล้ว ควรตรวจสอบบัญชีกับธนาคารว่ามีปัญหาหรือไม่ เช่น บัญชีอาจถูกปิด หรือไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
- หลังจากแก้ไขบัญชีให้กลับมาอยู่ในสถานะรับเงินได้ปกติแล้ว อาจต้องผูกบัญชีใหม่เพื่อให้รับเงินได้ตามกำหนด

คลังย้ำ จ่ายเงินหมื่นซ้ำอีก 2 ครั้งเท่านั้น
สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด กระทรวงการคลังย้ำว่าจะมีการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกจำนวน 2 ครั้งเท่านั้น ขอให้ประชาชนตรวจสอบผลการจ่ายเงินผ่านทางแอปพลิเคชันทางรัฐ หากปรากฏผลว่า ‘โอนเงินไม่สำเร็จ’ ขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากด้วยเลขประจำตัวประชาชน
กรณีที่เคยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนแล้วให้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้งว่ามีปัญหาหรือไม่ และแก้ไขตามแต่ละกรณี หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจแล้วเตรียมรับเงิน 10,000 บาทในการจ่ายเงินซ้ำรอบถัดไปได้เลย

เตือนผู้สูงอายุ เร่งผูกพร้อมเพย์ภายใน 25 มี.ค. 68
กระทรวงการคลัง เปิดกำหนดการจ่ายเงินซ้ำอีก 2 ครั้ง ได้แก่ เดือนมีนาคม และเดือนเมษายน 2568 โดยการจ่ายเงินซ้ำครั้งที่ 2 ต้องผูกบัญชีรับเงินกับเลขบัตรประชาชนภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568 เพื่อรับเงิน 10,000 บาทในวันที่ 28 มีนาคม 2568
ส่วนการจ่ายเงินซ้ำครั้งสุดท้ายตรงกับวันที่ 28 เมษายน 2568 ผู้สูงอายุต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนและตรวจสอบบัญชีให้อยู่ในสถานะปกติในภายในวันที่ 23 เมษายน 2568
ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุ และถือว่าไม่ว่าไม่ประสงค์ที่จะรับเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บุคคลล้มละลายรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทอย่างไร?
นอกจากกลุ่มเป้าหมายแล้ว ‘บุคคลล้มละลาย’ ก็มีสิทธิรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทเช่นเดียวกัน ทำตามขั้นตอนนี้
1. กรอกแบบฟอร์มขออนุญาตเปิด/ใช้บัญชีเพื่อรับเงินตามโครงการฯ
2. ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของกรมบังคับคดี >> www.led.go.th
3. จัดส่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะกรอกแบบฟอร์มถึงธนาคาร เพื่อขอให้ธนาคารเปิดบัญชีให้บุคคลล้มละลาย หรือยกเลิกการอายัดบัญชีของบุคคลล้มละลาย จึงจะสามารถรับเงินดิจิทัลได้
ข้อมูลจาก : กรมประชาสัมพันธ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แจกเงิน 10,000 ผู้สูงอายุ ไม่สำเร็จ 2 แสนคน คลังแนะรีบผูกพร้อมเพย์
- มีลุ้น ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ไม่ทัน 25 ก.พ. รับเงินดิจิทัล 10000 ได้ไหม
- ย้ำ ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ ก่อน 25 ก.พ.นี้ รับเงินดิจิทัล 10000 สถานะใดได้เงินชัวร์