
คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมผลักดันโครงการ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เฟส 3 แจกอายุ 16-20 ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต 3% ตามเป้าหมาย
วันนี้ 10 มีนาคม 2568 คืบหน้าโครงการแจกเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลเฟส 3 แล้ว จะพิจารณาให้สิทธิแก่ผู้มีอายุระหว่าง 16-20 ปี โดยพยายามเร่งจ่ายเงินให้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หรือเมษายน – มิถุนายน 2568
นายพิชัยกล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาแผนแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาวควบคู่ไปด้วย
สรุปโครงการ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3
- กลุ่มเป้าหมาย: บุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนและมีอายุ 16-20 ปี (เดิมคาดว่าเป็นกลุ่มอายุ 16-59 ปี จำนวน 16 ล้านราย)
- เงื่อนไขเบื้องต้น (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
- สัญชาติไทย
- อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (นับถึงวันที่ 16 กันยายน 2567)
- รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (ปีภาษี 2566)
- เงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
- ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุก หรือถูกระงับสิทธิจากโครงการรัฐอื่นๆ
- ช่องทางการรับเงิน: แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
- กรอบเวลา: คาดว่าจะจ่ายเงินได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 (เมษายน – มิถุนายน)
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว 2 เฟส
- กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
- กลุ่มผู้สูงอายุ
รวมทั้งสิ้นประมาณ 17 ล้านคน คิดเป็นวงเงินงบประมาณกว่า 1.85 แสนล้านบาท
ยกเลิกสินค้าห้ามซื้อ 19 รายการ
เดิมทีโครงการมีรายการสินค้า 19 รายการที่ห้ามซื้อ (Negative List) เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ, ทองคำ, และน้ำมันเชื้อเพลิง แต่จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยจะยกเลิกรายการสินค้าห้ามซื้อ และเปลี่ยนเป็นกำหนดประเภทร้านค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการแทน ได้แก่ ผับ, บาร์, ร้านที่ขายเฉพาะสุราหรือบุหรี่, ร้านขายทอง/เพชร, สถานีบริการน้ำมัน, และร้านขายลอตเตอรี่
ร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านโชห่วย, ร้านธงฟ้า, หรือร้านอาหารที่ขายสุราและบุหรี่ควบคู่ไปกับสินค้าอื่นๆ ยังสามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อลดความสับสนว่าสินค้าใดซื้อได้หรือไม่ได้ ส่วนร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ยังคงเข้าร่วมได้ตามปกติ
การแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสด (Cash Out)
กระทรวงการคลังเสนอปรับเงื่อนไขให้ร้านค้าแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดได้ง่ายขึ้น โดยร้านค้ารายย่อยที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีก็สามารถแลกเป็นเงินสดได้ เพื่อจูงใจให้ร้านค้าขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการ และกระตุ้นให้เงินหมุนเวียนในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเงื่อนไขว่า การใช้จ่ายครั้งแรกของประชาชนจะต้องใช้กับร้านค้ารายย่อยในอำเภอเดียวกัน และร้านค้าจะต้องนำเงินดิจิทัลที่ได้รับไปใช้จ่ายต่อกับร้านค้าอื่นๆ ก่อน อย่างน้อยหนึ่งครั้ง จึงจะสามารถแลกเป็นเงินสดได้
กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 1 ล้านแห่ง ซึ่งรวมถึงสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย, ร้านค้าที่มีบัญชีกับธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank), และร้านค้าในเครือข่ายผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายต่างๆ นอกจากนี้ จะเปิดให้ร้านค้าอื่นๆ ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 คาดว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติโครงการและรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่ตั้งไว้
ประชาชนโปรดติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับสิทธิประโยชน์หากท่านมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 4 จะมีต่อเนื่องหรือไม่นั้น รองนายกฯ ยอมรับว่า พิจารณาตามความเหมาะสม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลือสนั่น คนไทย 16-20 ปี ได้เงินดิจิทัล เดือนมีนาคม เป็นกลุ่มแรก
- 3 เรื่องสยอง ดิจิทัลวอลเล็ต อ่านแล้วขนลุกซู่ ศิริกัญญา จี้ ไม่ช่วย ศก.เลย
- มีลุ้น ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ไม่ทัน 25 ก.พ. รับเงินดิจิทัล 10000 ได้ไหม