
ตำนานนักร้องลูกทุ่ง ดอลลี่ พาร์ตัน สูญเสียสามี คาร์ล ดีน ในวัย 82 ปี แถลงการณ์สุดเศร้าเผยชีวิตคู่เกือบ 60 ปี
ดอลลี่ พาร์ตัน ไอคอนเพลงคันทรีวัย 79 ปี ได้ประกาศข่าวร้าย คาร์ล โธมัส ดีน เสียชีวิตแล้วในวัย 82 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาเกือบ 60 ปี โดยคาร์ลเสียชีวิตในเมืองแนชวิลล์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม
ดอลลี่ได้เผยแพร่แถลงการณ์สุดเศร้าผ่านอินสตาแกรม ระลึกถึง “ช่วงเวลาที่แสนวิเศษมากมาย” ที่ทั้งคู่ได้ใช้ร่วมกัน พร้อมทั้งแสดงความรักอันลึกซึ้งต่อคาร์ล ขอบคุณแฟนๆ สำหรับคำอธิษฐานและความเห็นใจ
“คาร์ลและฉันใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปีที่แสนวิเศษ คำพูดไม่สามารถอธิบายความรักที่เรามีให้กันมานานกว่า 60 ปีได้หมด ขอบคุณสำหรับคำอธิษฐานและความเห็นใจของทุกคน” ดอลลี่กล่าว คาร์ลมีพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่คือ แซนดรากับดอนนี่ โดยพิธีฝังศพจะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวสำหรับครอบครัวใกล้ชิดเท่านั้น
ทั้งคู่แต่งงานกันตั้งแต่ปี 1966 ในปี 2024 ดอลลี่ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตคู่ของเธอที่ไม่ค่อยเล่าออกสื่อเท่าไหร่นักว่า สามีเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบอยู่ใต้แสงสปอร์ตไลท์
ในการให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ Dumb Blonde ของ Bunnie Xo ดอลลี่เปิดเผยว่าแม้สามีของเธอจะ “รัก” ดนตรี แต่เขา “ไม่ได้สนใจที่จะอยู่ในวงการนี้เลย”
ดอลลี่ย้อนถึงช่วงเวลาสำคัญในช่วงต้นของการแต่งงาน เคยชวนคาร์ลไปร่วมงานประกาศรางวัลในปี 1967 เพราะเธอได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีของ BMI แม้จะได้รับรางวัลใหญ่ แต่คาร์ลผู้รักบ้านก็บอกกับเธอว่า “ขอให้คุณโชคดี แต่ไม่ต้องชวนผมไปงานแบบนี้อีกเลย เพราะผทจะไม่ไป” ซึ่งเขาก็ไม่เคยออกงานเลยจริงๆ นับแต่นั้น
ตลอดหลายทศวรรษที่อยู่ร่วมกัน ทั้งคู่ได้อาศัยอารมณ์ขันร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ดอลลี่กล่าวถึงสามีที่ “ตลก” ของเธอว่า “เขาเงียบ ส่วนฉันเสียงดัง และเราก็ตลก… เราสนุกกันมาก เมื่อใดก็ตามที่ [มีความ] ตึงเครียดมากเกินไป พวกเราคนใดคนหนึ่งสามารถหาเรื่องตลกมาคลายความตึงเครียดได้ โดยที่เราจะไม่ปล่อยให้มันไปไกลเกินไป” “เราไม่เคยทะเลาะกันไปมา”
ในปี 2008 พาร์ตันบอกกับ NPR ว่าเพลงฮิต “โจลีน” ในปี 1973 ของเธอได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากพนักงานธนาคารท้องถิ่นที่เคยจีบสามีของเธอ

“เธอหลงรักสามีของฉันอย่างมาก เขาชอบไปธนาคารเพราะเธอให้ความสนใจเขามาก มันเป็นเรื่องตลกที่เราคุยกันเล่นๆ เมื่อฉันพูดว่า ‘ให้ตายสิ คุณใช้เวลาอยู่ที่ธนาคารมากเกินไป ฉันไม่เชื่อว่าเรามีเงินมากขนาดนั้น'”
หลายปีต่อมา เธอบอกกับผู้ชมในเทศกาลกลาสตันบูรีเกี่ยวกับเพลงนี้ว่า “ฉันแต่งเพลงนี้เมื่อหลายปีก่อน เมื่อสามีของฉัน… ใช้เวลากับโจลีนมากกว่าที่ฉันคิดว่าเขาควรจะเป็น ฉันหยุดเรื่องนั้น ฉันกำจัดผู้หญิงผมแดงคนนั้นอย่างรวดเร็ว”
ทั้งคู่พบกันครั้งแรกที่ร้านซักรีดในแนชวิลล์ในปี 1964 เมื่อเธออายุเพียง 18 ปี และตลอดช่วงเวลาที่โด่งดัง คาร์ลยังคงเป็นบุคคลที่มั่นคง ให้กำลังใจดอลลี่อยู่เบื้องหลัง
ในปี 2023 เธอพูดถึงการพบกันครั้งแรกกับสามีในสารคดี Channel 5 เรื่อง “ดอลลี่ พาร์ตัน: ในคำพูดของเธอเอง” ว่า “เมื่อฉันย้ายมาแนชวิลล์ครั้งแรกในปี 1964 ฉันกำลังซักผ้าสกปรกอยู่ เพราะฉันรีบย้ายจากบ้านของฉันในเทนเนสซีตะวันออก ซึ่งอยู่ห่างออกไป 200 ไมล์” “ฉันไม่เคยไปร้านซักรีดมาก่อน ฉันเดินออกไปข้างนอก มีผู้ชายหน้าตาดีขับรถผ่านร้านซักรีด และเขาจอดรถข้างทาง” “เราจึงเริ่มคุยกันและแต่งงานกันในอีก 2 ปีต่อมา”
ในขณะที่ชื่อเสียงของดอลลี่เติบโตขึ้น คาร์ลซึ่งเคยทำธุรกิจปูถนน ยังคงอยู่ห่างจากแสงไฟ โดยพอใจที่จะสนับสนุนภรรยาของเขาอยู่เบื้องหลัง และแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกับเธอในที่สาธารณะ ดอลลี่ก็พยายามที่จะรักษาความโรแมนติกของพวกเขาให้คงอยู่เสมอ
ในปี 2022 เธอเปิดเผยในการสัมภาษณ์กับ E! News ว่าเธอแต่งตัวให้สามีของเธอเสมอ “ทุกวัน ฉันแต่งหน้าและทำผม เพราะฉันคิดว่า ‘โลกทั้งใบ ฉันออกมาข้างนอก และคนอื่นๆ เห็นฉันแต่งตัวสวยงาม และฉันจะไม่กลับบ้านไปแล้วทิ้งตัวใส่เขา'” “ไม่มีใครอยากจูบคนซอมซ่อ! มันสำคัญสำหรับฉันที่ฉันจะดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันคิดว่ามันช่วยให้ทุกอย่างมีรสชาติ”
ในหนังสือ “ดอลลี่ ออน ดอลลี่: การสัมภาษณ์และการเผชิญหน้ากับดอลลี่ พาร์ตัน” ในปี 2017 ดอลลี่เปิดเผยว่า “ผู้ชายคือจุดอ่อนของฉัน ไม่ว่าจะเป็นคนเตี้ย อ้วน หัวล้าน หรือผอม ฉันเคยหลงรักผู้ชายที่ไม่ธรรมดาบางคน แต่คาร์ลรู้ว่าฉันจะกลับบ้านเสมอ และฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ ฉันแค่จีบและสนุก” “เขาไม่หึง และฉันก็ไม่หึงเขา เขารู้ว่าฉันจีบ เขาเองก็จีบเช่นกัน ใช่ มันเป็นความสัมพันธ์แบบเปิด แต่ไม่ใช่ทางเพศ ฉันจะฆ่าเขาถ้าฉันคิดว่าเขากำลังทำแบบนั้น” “เขาเองก็จะยิงฉันเช่นกัน ในท้ายที่สุด เราก็รักกันอย่างคลั่งไคล้”
ดอลลี่กล่าวในรายการ Breakfast Show ของ Zoe Ball ทาง BBC Radio 2 ในปี 2023 ว่าเหตุผลที่การแต่งงานของเธอกับคาร์ลยืนยาวคือ “ฉันคิดว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะเราซื่อสัตย์และเปิดเผย และเรามีอารมณ์ขันที่บิดเบี้ยว!” “เขาบ้า เขาตลกและฉลาดมาก ฉันมีอารมณ์ขันที่ยอดเยี่ยมจากทั้งสองฝั่งของครอบครัว ดังนั้นฉันคิดว่าอารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ดีเสมอ”
เธอกล่าวต่อว่า “ความรักและความเคารพ” ซึ่งกันและกันเป็นรากฐานของความโรแมนติกของพวกเขาเสมอมา “มีความเคารพและความรัก และฉันก็แค่ชอบเขา คุณรู้ไหม ฉันคงจะชอบเขาถ้าเขาไม่ได้เป็นสามีของฉัน ถ้าเขาเป็นสามีของคนอื่น ฉันคงจะพูดว่า ‘คุณรู้ไหมว่าคาร์ล ดีนคนนั้นตลกใช่ไหม เขาเป็นคนดีใช่ไหม’ ดังนั้นฉันคิดว่ามันเป็นแค่ความเคารพซึ่งกันและกัน และเราก็แค่ชอบกัน”
แม้ว่าดอลลี่จะเคยพูดติดตลกว่าคาร์ลเคยเห็นเธอแสดงเพียงครั้งเดียว แต่เธอก็บอกกับ เอนเตอร์เทนเมนต์ ทูไนท์ เกี่ยวกับการสนทนาที่น่ารักที่เธอมีกับสามีของเธอ “เขาบอกว่า ‘ฉันไม่ได้เลือกโลกนี้ ฉันเลือกคุณ และคุณเลือกโลกนั้น แต่เราสามารถแยกชีวิตของเราออกจากกันและอยู่ด้วยกันได้’ และเราก็ทำแบบนั้นและเราก็ทำได้”
ในปี 2011 ดอลลี่บอกกับสำนักข่าว โตรอนโต้ซัน ว่า “เราภูมิใจกับการแต่งงานของเรามาก มันเป็นการแต่งงานครั้งแรกสำหรับเราทั้งคู่ และครั้งสุดท้าย”
แม้ว่าทั้งคู่จะไม่มีลูก แต่ดอลลี่ยืนยันว่าเธอ “ไม่ได้พลาด” การมีลูก เธอยอมรับว่าอาชีพของเธอคงต้องถูกลดความสำคัญลงหากเธอมีครอบครัว และการมีลูกไม่ใช่ความปรารถนาที่ “ร้อนแรง” สำหรับเธอ เธอบอกกับนิตยสาร Saga ว่า “ฉันไม่ได้พลาดมันอย่างที่ฉันคิดว่าฉันอาจจะพลาด เมื่อคุณเป็นคู่รักหนุ่มสาว คุณคิดว่าคุณจะมีลูก แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่หนึ่งในสิ่งเหล่านั้น ฉันมีอาชีพและดนตรีของฉัน และฉันก็เดินทาง” “ถ้าฉันมีลูก ฉันคงจะอยู่บ้านกับพวกเขา ฉันแน่ใจ และกังวลจนแทบตายเกี่ยวกับพวกเขา” “ฉันพูดเสมอว่าพระเจ้าไม่ได้ให้ฉันมีลูก เพื่อให้เด็กทุกคนเป็นของฉัน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สยอง พนง.รถไฟเหาะสวนสนุกดังญี่ปุ่น ถูกล้อทับร่างคารางเสียชีวิต
- ชีวิตปัจจุบัน คาร่า พลสิทธิ์ นางแบบในตำนาน วัย 58 ปี สวยอมตะ แถมหุ่นเฟิร์ม
- สิ้นแล้ว ชายออสเตรเลีย นักบริจาคพลาสม่าเลือดคนดัง ช่วยชีวิตทารก 2 ล้านคน