ช็อก นักแสดงนำ X-Men ตาบอด ถ่ายหนังจนสุขภาพแย่ลง แถมเมินสัญญาณเตือน

หนึ่งในนักแสดงนำของภาพยนตร์ดังอย่าง X-Men Apocalypse และ Dark Phoenix ตาบอด สูญเสียการมองเห็น 1 ข้าง หลังเมินสัญญาณเตือนจากร่างกาย
มีการเปิดเผยออกมาว่า โคดี สมิท-แม็คฟี (Kodi Smit-McPhee) นักแสดงหนุ่มชาวออสเตรเลีย สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรไปแล้ว 1 ข้าง หลังจากที่เป็นต้อกระจก ซึ่งเจ้าตัวก็ผัดผ่อนการเข้าพบแพทย์มาโดยตลอด
ดาราอนาคตไกลวัย 28 ปีถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรงแองไคโอซิง สปอนดิไลติส (Ankylosing Spondylitis) ซึ่งโรคนี้ทำให้เขามีอาการอักเสบ เหนื่อยล้า และมีอาการเกร็งมาตั้งแต่อายุ 18 ปี
เขาเริ่มมีปัญหากับตาข้างซ้าย แต่ตารางการถ่ายทำภาพยนตร์ที่แน่นมาก รวมถึงบทบาทใน ‘X-Men’ และ ‘Alpha’ ทำให้เขาเลื่อนการนัดพบแพทย์ออกไปจนสายเกินกว่าจะรักษาสายตาไว้ได้
เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นเรื่องตลกร้ายที่ผมกำลังเล่นเป็นซูเปอร์ฮีโร่ใน X-Men และกำลังถ่ายหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นอย่าง Alpha ด้วย ผมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในงานเหล่านั้น ผมแค่ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ (ต้อกระจก) คือผมคิดมากเกินไปและไม่สามารถกลับไปหาหมอได้ สุดท้ายต้อกระจกก็ทำความเสียหายไปมากแล้ว มันเกิดภาวะฝ่อ ตอนนี้ตาข้างนั้นผมมองไม่เห็นอะไรเลย”
โคดีให้เหตุผลว่าปัญหาสุขภาพของเขาเกิดจากบาดแผลทางใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่เขากลายเป็นนักแสดงเด็กที่ประสบความสำเร็จและการที่ได้เห็นพ่อแม่หย่าร้างตอนเขาเป็นวัยรุ่น
เขาเล่าต่อว่า “การดูแลครอบครัวและฉายภาพความคิดเหล่านี้ให้ตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่มีคนคาดหวังจากผม แต่ในขณะที่ผมมอง ว่าเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ผมก็มองว่ามันเป็นแบบ ‘โอ้ นี่คือสิ่งที่ผมสามารถทำเพื่อช่วยทุกคนได้'”
“ทุกคนกำลังแยกทาง และพี่สาวของผมย้ายออกไป พ่อผมอยู่บ้าน แล้วผมก็คิดว่า ‘แย่แล้ว ผมไม่ได้ช่วยทุกคน’ ผมทำได้แค่เพื่อตัวเอง และมันรู้สึกเห็นแก่ตัวมาก เหมือนกับอาการคนที่รู้สึกว่าตัวเองหลอกลวง”
โคดีมีอาชีพการแสดงที่โดดเด่นมาตั้งแต่แสดงร่วมกับ วิกโก้ มอร์เทนเซ่น ในภาพยนตร์ The Road ในปี 2009 ตามด้วยบทบาทในภาพยนตร์อย่าง Let Me In และ Dawn of the Planet of the Apes นอกจากนี้เขายังเป็นที่จดจำของผู้ชมจากการรับบทไนท์ครอว์เลอร์ในภาพยนตร์ X-Men ภาค Apocalypse และ Dark Phoenix
สำหรับอาการทั่วไปของโรคต้อกระจกมีดังนี้
- การมองเห็นพร่ามั่ว รู้สึกเหมือนมีหมอก – สายตาอาจดูมัว ราวกับมองผ่านหน้าต่างที่มีฝ้า
- มีปัญหาในการองเห็นตอนกลางคืน – การมองเห็นแย่ลงในสภาพแสงน้อย
- ไวต่อแสง – แสงจ้า เช่น ไฟหน้ารถหรือแสงแดด อาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือแสบตา
- เห็นวงแสงรอบไฟ – อาจเห็นวงกลมหรือวงแสงล้อมรอบแสงไฟสว่าง
- สีซีดจาง หรือมองเป็นสีโทนเหลือง
- เห็นภาพซ้อนในตาข้างเดียว – การเห็นภาพหลายภาพในตาข้างเดียว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของต้อกระจกที่กำลังลุกลาม
- ต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อย – สายตาของคุณเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยขึ้น
- มีปัญหาในการอ่าน หรือมองอะไรที่มีความละเอียด – คุณอาจมีปัญหาในการอ่านตัวหนังสือเล็กๆ หรือจำใบหน้าคน
โรคต้อกระจกนั้นมักจะเกิดขึ้นอย่างช้า ส่วนมากจะพบในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดจากสาเหตุอื่นได้ เช่น โรคเบาหวาน การใช้ยาที่ผมสเตียรอยด์เป็นเวลานาน หรือปัจจัยทางพันธุกรรม หากสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคต้อกระตก วรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์
อ้างอิง : www.mirror.co.uk
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผวา เครื่องดื่มยอดฮิตคนไทย เสี่ยงปนเปื้อนไมโครพลาสติก ต่อซองอนุภาคมหาศาล
- เล่นกล้าม ช่วงถือศีลอด รอมฎอน กินอย่างไรให้กล้ามไม่หาย มีแรงยกเวท
- หมอโอ๊ค เตือน ดื่มน้ำอัดลมทุกวัน โรคเพียบ เสี่ยงร่างพัง-ซึมเศร้า