ข่าว

PETA ประท้วง อ้างไทยทารุณลิงเก็บมะพร้าว บุกสถานทูต เอาน้ำกะทิราดหัว

PETA ประท้วงเดือด บุกสถานทูตไทยในลอนดอน ราดนมกะทิปลอม เรียกร้องยุติทารุณกรรมลิงเก็บมะพร้าว

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 กลุ่มนักเคลื่อนไหว PETA แต่งกายเลียนแบบ ลิงในคุก พร้อมราด นมกะทิ จำนวนมากลงบนตัวเองบริเวณหน้าสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง PETA เอเชียเผยแพร่ภาพวิดีโอสุดสะเทือนใจ แฉโรงเรียนฝึก ลิงเก็บมะพร้าวในประเทศไทย ที่ล่ามโซ่ลูกลิงแสม (pig-tailed macaque) สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ไว้ในสภาพที่น่าเวทนา

Advertisements

กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สถานทูตดำเนินการยุติการใช้แรงงานลิงที่ถูกทารุณกรรมในอุตสาหกรรมมะพร้าวของไทย พร้อมป้ายข้อความโจมตี เช่น “ประเทศไทยเลิกใช้แรงงานลิง” และ ทรมานลิงแลกนมกะทิไทย”

ประเทศไทยเลิกใช้แรงงานลิง
ฝูงลิง PETA ในชุดนักโทษเทน้ำกะทิใส่ถังราดหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตยุติการแสวงหาประโยชน์จากลิงที่ใกล้สูญพันธุ์ในอุตสาหกรรมเก็บมะพร้าวของไทย (ภาพเอพี/คิน เชียง)

ภาพจากงานสืบสวนของ PETA เอเชีย เผยให้เห็น โรงเรียนฝึกลิงเก็บมะพร้าวในประเทศไทย และสภาพสุดหดหู่ของลูกลิงแสม สัตว์ป่าคุ้มครองใกล้สูญพันธุ์ ถูกล่ามโซ่ตรวนสั้นๆ แทบขยับตัวไม่ได้ ลิงแสนรู้เหล่านี้ถูกกักขังในพื้นที่สกปรก เต็มไปด้วยน้ำท่วมขังและกองขยะ จิตใจบอบช้ำจากการถูกกักบริเวณอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบังคับฝึกให้พวกมันปีนเก็บมะพร้าว

โรงเรียนฝึก ลิงในไทย กลายเป็นนรกบนดินสำหรับลูกลิงน้อยผู้น่าสงสาร พวกมันถูกพรากจากครอบครัวในป่า หรือถูกเพาะพันธุ์ในสถานที่เลี้ยงดูแล้วจับแยกจากแม่ ตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยเชือกและโซ่ตรวน พวกมันไม่มีที่หลบแดดหลบฝน ไร้ซึ่งความอบอุ่น ความสนุกสนาน หรือการเข้าสังคมที่เหมาะสม

ลูกลิงจำนวนมากถูกล่ามไว้กับกรงเล็ก ๆ ที่มีซี่กรงเป็นเหล็กบาดผิวหนังจนเป็นแผลเหวอะหวะ ลิงบางตัวเดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวาย บางตัววิ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งขณะถูกล่ามด้วยเชือก ทำให้พวกมันสำลักปลอกคอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทรมานลิงแลกนมกะทิไทย
ฝูงลิง PETA ในชุดนักโทษเทน้ำกะทิใส่ถังราดหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตยุติการแสวงหาประโยชน์จากลิงที่ใกล้สูญพันธุ์ในอุตสาหกรรมเก็บมะพร้าวของไทย (ภาพเอพี/คิน เชียง)

พิต้า ยังเปิดเผยว่า โรงเรียนเหล่านี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกโปรโมทบนเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเป็นการจัดฉากสาธิต การเก็บมะพร้าวหลอกนักท่องเที่ยว โดยใช้ลิงโตเต็มวัยที่ถูกทารุณกรรมและทำให้เชื่อง จนหมดสภาพ

Advertisements

PETA เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสั่งปิดโรงเรียนที่น่าอับอายเหล่านี้ และสั่งห้ามการใช้แรงงานลิงอย่างถาวร เราขอเรียกร้องให้คุณ เลิกซื้อนมกะทิกระป๋องจากประเทศไทย จนกว่าลิงทุกตัวจะเป็นอิสระ

พิต้า ประท้วง ไทยทารุณลิง หากะทิ
ภาพจาก : Drama-addict

ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ ดราม่า-แอดดิกท์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นการประท้วงของ PETA โดยระบุว่า “โรงงานกะทิที่ไหนใช้ลิงวะ ไอ้ที่เก็บจากสวนส่งโรงงานแม่งแรงงานคนกับเครื่องมือทั้งนั้น ไอ้พวกห่านี่หาเรื่องชงให้แม่งบอยคอตกะทิไทย”

พร้อมกับแชร์โพสต์จากเพจ จบข่าว ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกในเรื่องนีว่า “PETA UK บุกสถานทูตไทยในลอนดอนและราดน้ำกะทิ เพื่อประท้วงการใช้ลิงเก็บมะพร้าวในอุตสาหกรรมกะทิของไทย คว่ำบาตรกะทิที่มาจากการบังคับใช้แรงงานลิง”

“จากการตรวจสอบของ PETA พบว่าลิงถูกล่ามด้วยเชือกสั้นจนแทบขยับตัวไม่ได้ บางตัวถูกขังในกรงเล็กๆ ปล่อยให้เดินวนไปมาจนคลั่ง ลิงเหล่านี้ควรได้ใช้ชีวิตอิสระตามธรรมชาติ ไม่ใช่ถูกจับมาทรมานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ” เจ้าหน้าที่ PETA ASIA กล่าว”

หลังข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนไทยเข้ามาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวต่าง ๆ อาทิ

“อ่าว เราใช้ลิงในโรงงานทำกะทิเหรอครับ ผมพึ่งรู้นะเนี่ย แต่ก็ดีนะไม่ต้องเสียค่าแรงงานกับค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักร กำไรล้วนๆเลย เนี่ย ทุกวันนี้เราก็ใช้ม้ามายืนตากแดดตากฝนในสวนสาธารณะเอาไว้นั่งเล่น เอากระต่ายมาขูดมะพร้าวอีก นี่ยังไม่นับเอากบมาเป่าเล่นกันอีกนะ แล้วยังทำโทษกันด้วยการจับจิ้งหรีดมาปั่นอีก โหดร้ายมากๆเลย แย่ๆๆๆ”

“ไม่ใช่มันไม่รู้ มันรู้ แต่ตั้งใจกระพือข่าว จากนั้นให้หน่วยงานถัดไปรับลูก ออกบอยคอต ขึ้นภาษี อะไรก็ว่าไปอีกที”

ชาวเน็ตวิจารณ์ PETA
ภาพจาก : Drama-addict

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมกะทิไทยเคยต้องเผชิญวิกฤตหนัก หลังองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ยังคงเดินหน้าแคมเปญโจมตีการใช้ลิงเก็บมะพร้าวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในตลาดโลก จนยอดส่งออกสินค้ากะทิ ซึ่งเคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ส่อเค้าทรุดตัว

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ MGR ONLINE รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปัจจุบันกะทิไทยยังคงถูกกีดกันจากตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษ ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศเหล่านี้ยังคงคว่ำบาตรสินค้าไทย ด้วยการนำกะทิไทยออกจากชั้นวาง พร้อมป้ายเตือนผู้บริโภคให้ “เลิกซื้อกะทิจากไทย” บางรายถึงขั้นเจาะจงแบรนด์กะทิไทยที่ถูกแบน สถานการณ์ลุกลามไปยังตลาดยุโรป ที่หลายประเทศเริ่มลดปริมาณการนำเข้ากะทิจากไทยลงอย่างน่ากังวล

เว็บไซต์ PETA ในอังกฤษ ยังคงปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2566 เพิ่งออกมาประกาศความสำเร็จว่า บริษัทจัดจำหน่ายอาหารระดับโลกอย่าง HelloFresh ในอังกฤษ ได้ยกเลิกการใช้กะทิจากไทยแล้ว เช่นเดียวกับผู้จัดจำหน่ายอาหารรายใหญ่อื่นๆ ในยุโรปที่ทยอยถอยห่างจากสินค้าไทย

แม้รัฐบาลไทย ภาคเอกชน และทูตพาณิชย์ จะพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับนานาชาติมาตลอด ว่าอุตสาหกรรมกะทิไทยยุคใหม่ เลิกใช้ลิงเก็บมะพร้าวแล้ว หันมาใช้เครื่องจักรทันสมัยเก็บมะพร้าวพันธุ์เตี้ยแทน พร้อมทั้งออกใบรับรอง “Monkey Free Plus” เพื่อยืนยันว่ากระบวนการผลิตกะทิไทยปลอดจากการทารุณกรรมสัตว์ แต่ความพยายามเหล่านี้ยังไม่สามารถสยบกระแสโจมตีของ PETA ได้ ข้อมูลที่บิดเบือนเรื่องการใช้ลิงเก็บมะพร้าวยังคงถูกเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง

ผู้ผลิตกะทิไทยกังวลว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไทยอาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดกะทิโลกให้กับคู่แข่งสำคัญอย่างฟิลิปปินส์และศรีลังกา จากเดิมที่กะทิไทยครองส่วนแบ่งตลาดโลกกว่า 80% ภาคเอกชนจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหารือกับ PETA หรือว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์มืออาชีพ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และแก้ไขภาพลักษณ์สินค้าไทยในสายตาผู้บริโภคทั่วโลก หวังดึงความเชื่อมั่นและยอดขายกะทิไทยให้กลับมา

สำหรับภาพรวมการส่งออกกะทิของไทยในช่วงปี 2560-2564 มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 13,000 ล้านบาท โดยในปี 2564 ตัวเลขส่งออกสูงถึง 13,328 ล้านบาท ปัจจุบันไทยมีโรงงานแปรรูปมะพร้าว 15 แห่ง มีกำลังผลิตมะพร้าวรวมปีละประมาณ 788,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นกะทิสำเร็จรูป 113,000 ตัน โดย 70% ถูกใช้บริโภคภายในประเทศ ส่วนที่เหลือส่งออกไปสร้างรายได้ให้ประเทศ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button