หุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ยังคงเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงจากจุดสูงสุดอย่างน่าตกใจถึง 75 เปอร์เซ็นต์
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 หุ้น อาร์เอส (BKK : RS) เปิดตลาดที่ราคา 1.70 บาท ท่ามกลางแรงซื้อและแรงขายที่คึกคัก ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1.81 บาทในช่วงเช้า แต่ในเวลาไม่นานราคาก็ ร่วงลงหนัก โดยช่วงใกล้ปิดตลาดรอบเช้าราคาทรุดตัวลงสู่จุดต่ำสุดที่ 1.27 บาท และฟื้นตัวมาอยู่ที่ 1.34 บาท ลดลง 27.07% จากราคาปิดวันก่อน
ไม่เพียงแต่ RS ที่ประสบปัญหาราคาหุ้นร่วง หุ้นในกลุ่มเดียวกัน บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) หรือ RSXYZ ก็ประสบภาวะราคาหุ้นตกต่ำเช่นกัน โดยเปิดตลาดที่ 0.90 บาท ก่อนร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของวัน ที่ 0.68 บาท และปิดตลาดรอบเช้าที่ 0.73 บาท หรือลดลง 23.96%
แม้จะมีแรงซื้อ (BID) เข้ามาช่วยพยุงราคาหุ้นในระหว่างการซื้อขาย แต่แรงขายยังคงกดดันให้ราคาหุ้น RS และ RSXYZ ปรับลดลงต่อเนื่องในภาวะตลาดที่ผันผวน
นักลงทุนยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดถึงแนวโน้มราคาหุ้นในกลุ่ม RS ในช่วงถัดไปว่าจะสามารถฟื้นตัวจากแรงขายที่หนักหน่วงนี้ได้หรือไม่
หุ้น RS ร่วงหนัก ควรถือต่อไหม
ราคาหุ้น RS ที่ร่วงหนักถึง 75% ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อาจไม่ได้บ่งบอกถึงปัญหาเฉพาะตัวของบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่เชื่อมโยงกับความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม โดยปัญหานี้สามารถส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ดังนี้
1. ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
การร่วงของหุ้น RS อาจทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของตลาดทุนไทย ส่งผลให้มีการชะลอการลงทุนในหุ้นไทยหรือโยกย้ายเงินลงทุนไปยังตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า
2. ผลกระทบต่อการบริโภคภาคครัวเรือน
หากผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในหุ้น RS ขาดทุนหนัก อาจทำให้กำลังซื้อในภาคครัวเรือนลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและบันเทิงที่ RS ดำเนินธุรกิจ
3. ภาคบันเทิงและสื่อมวลชนได้รับผลกระทบ
RS เป็นบริษัทสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ การลดลงของราคาหุ้นอาจกระทบต่อการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ หรือขยายธุรกิจ ส่งผลให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ลดลง และอาจกระทบถึงความหลากหลายของเนื้อหาที่ผู้บริโภคได้รับ
4. ผลกระทบต่อการจ้างงาน
หาก RS ต้องปรับลดต้นทุนเพื่อฟื้นฟูสถานะทางการเงิน อาจนำไปสู่การลดพนักงานหรือชะลอโครงการต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลต่อแรงงานในอุตสาหกรรมบันเทิงและกลุ่มงานสนับสนุน
5. ภาพรวมเศรษฐกิจไทย
การที่หุ้นร่วงหนักในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว อาจทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงแย่ลง เนื่องจากผู้ลงทุนหรือผู้เกี่ยวข้องกับ RS อาจมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น หากหุ้นยังคงปรับลดลงต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินใจว่าควร “ถือ” หุ้น RS ต่อหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งในแง่ของ พื้นฐานธุรกิจ, แนวโน้มอุตสาหกรรม, ผลประกอบการ, ราคาหุ้น, กลยุทธ์การลงทุนของคุณเอง, และมุมมองต่อความเสี่ยง
อ้างอิง : ตลากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย