เปิดโปง ตึกปอยเปต 18 ชั้น ไม่ถึงปีคนไทยดับแล้ว 3 อีกกว่า 7 พันชีวิตขอสถานทูตช่วย
วอนเร่งลงมือ ช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา เปิดโปงตึกแฝด 18 กับ 25 ชั้นที่ปอยเปต ตึกที่เกิดเหตุไม่ถึงปีคนไทยดับแล้ว 3 กว่า 7 พันชีวิตขอสถานทูตช่วย แม่วัย 64 หนุ่มกาญจนบุรีที่เสียชีวิตตกตึก 14 ชั้น เล่าหนึ่งวันก่อนเหตุสลด ลูกบอกแค่ไปทำงานที่ราชบุรีกับเพื่อนไม่คิดได้เจอหน้าครั้งสุดท้าย
ความคืบหน้ากรณีนายอลงกรณ์ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ตกลงมาจากอาคารชั้น 14 เสียชีวิต ในเมืองปอยเปตของกัมพูชา หลักฐานซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตอนแรกมีการตั้งข้อสงสัยจะถูกจับโยนลงมาหรือไม่ กระทั่งมีรายงานยืนยันตรงกันว่า คนตายเกิดอาการเครียด โดยเข้าไปทำงานกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ไม่สามารถทำยอดได้ จึงอาจถูกกดดันหลายอย่างกระทั่งตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ไปสัมภาษณ์ นางปิ่นนภา อายุ 64 ปี แม่ของนายอลงกรณ์ ผู้เสียชีวิต โดยแม่คนตายได้เล่าเหตุการณ์ตอนที่ลูกมาแจ้งว่าจะไปทำงานที่จ.ราชบุรี แต่ไม่ระบุว่าเป็นงานอะไร ออกเดินนทางเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ ลูกบอกจะไปทำงานกับเพื่อนบอกจะกลับมาวันพุธ ตอนกลางคืนมีผู้ชายมารับ โดยไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน
ส่วนเรื่องพิธีศพแม่แจ้งว่าให้ฝั่งปอยเปตเผาแล้วส่งกระดูกมาที่บ้านกาญจนบุรีโดยส่งทางไปรษณีย์และจะทำบุญอีกครั้งหนึ่ง
ยิ่งชำแหละ ยิ่งฉาว คนไทยร่วม 7000 ชีวิต ขอความช่วยเหลือสถานทูตไทยในกัมพูชา
นับตั้งแต่เกิดเรื่องสลดขึ้นนั้น อาคาร 18 ชั้นซึ่งเป็นตึกที่เกิดเหตุในปอตเปต ประเทศกัมพูชา ก็มีประเด็นตามมาในหลายๆ แง่มุมโดยเฉพาะการถูกเปิดโปงว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกาสิโน ตลอดจนบขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ และอยู่ใกล้กับตึก 25 ชั้นที่ถูกนายทักษิณ ชินวัตร ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ว่าอาจถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของ “กลุ่มสแกมเมอร์” ซึ่งมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานเป็นจำนวนมาก
หากนับเฉพาะอาคารที่เกิดเหตุมีเบาะแสแจ้งว่าไม่ถึง 1 ปี คนไทยตกตึกเดียวกันนี้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 3 ราย และยังมีคนไทยกว่า 1,000 คน เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ถูกหลอกทำงานและทำร้ายร่างกายไปจนกักขังหน่วงเหนี่ยว ในจำนวนนี้กว่า 200 คน “ไทยพีบีเอส” ระบุจะถูกขังในห้องลับ ทำหน้าที่ “ม้าสแกนหน้าโอนเงิน”
นอกจากนี้พบว่ามีคนไทยสูญหายอีกนับ 100 ราย ส่วนใหญ่ลักลอบเข้าไปทำงานสีเทา ทำให้การช่วยเหลือหรือเรียกร้องขอความเป็นธรรมเป็นเรื่องยาก นับเฉพาะในรอบปีที่ผ่านมามีรายงานคนไทยขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชาเกือบ 7,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.พระสีหนุ บันเตียเมียนเจย และ ซวายเรียง
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ในฐานะผบช.สอท. ยืนยันเจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลเชิงลึก ตึกทั้ง 2 แห่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดน จ.สระแก้ว เนื่องจาก ที่ผ่านมาได้มีการบุกเข้าไปจับกุม ช่วยเหลือผู้ต้องหาและผู้เสียหาย รวมไปถึงการออกหมายจับกลุ่มขบวนการคอลเซนเตอร์ ที่อยู่ในตึก ทั้ง 2 แห่งมาแล้ว ซึ่งการกวาดล้างจับกุมก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทางการประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตทำไมตำรวจมีข้อมูลกระบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์อยู่แล้ว เหตุใดจึงไม่เข้าไปช่วยเหลือและดำเนินการ จับกุมหรือช่วยเหลือบางคนตามที่เป็นข่าว ซึ่งเรื่องนี้ทาง ผบช.สอท. ชี้แจงว่าแม้ตำรวจไซเบอร์มีข้อมูลอยู่ แต่การช่วยเหลือต้องดูเป็นกรณีไปเพราะบางคนเต็มใจที่จะเข้าไปทำ บางคนก็ถูกหลอก พร้อมยกตัวอย่างที่ทางการเมียนมาปล่อยตัวคนไทย 150 คนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 150 คน ล้วนเต็มใจเข้าไปทำงานกับขบวนการคอลเซนเตอร์.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คนไทยตกตึกชั้น 14 ปอยเปต รู้ตัวแล้ว หลักฐานใหม่ไขปริศนาโดดเองหรือจับโยน
- เปิดเงื่อนงำ คนไทยตกตึก 18 ชั้นที่ปอยเปต สลด ถูกหลอกมาดับคล้ายกันนับ 10 ราย
- ทักษิณเคยแฉ ตึก 25 ชั้นปอยเปต แหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เดียวคนไทยตกตึก