ข่าว

ปานเทพ เผยสเปคคนรับบท “แตงโม-แซน” นัดจำลอง 16 ม.ค.

ปานเทพ เผยสเปคคนรับบท แตงโม-แซน ต้องมีน้ำหนักและส่วนสูงใกล้เคียงตัวจริง นัดจำลองในวันที่ 16 ม.ค. ตรวจสอบทุกกรณีที่เกิดขึ้น

จากกรณีที่ เฟซบุ๊กของ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาโพสต์ข้อความประกาศหาอาสาสมัครที่มีรูปร่างเหมือนกับ แตงโม นิดา อดีตนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ และ แซน วิศาพัช 1 ใน 5 คนที่อยู่บนเรือสปีดโบตในคืนวันเกิดเหตุ แตงโมตกเรือ โดยย้ำว่า ขอคนที่ว่ายน้ำแข็งเท่านั้น เพื่อมาจำลองนั่งท้ายเรือ และตกเรือจากทางกาบซ้าย ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

Advertisements

ล่าสุด นาย ปานเทพ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงประเด็นดังกล่าวว่า จากกรณีที่เราได้ติดตามการทดสอบการตกน้ำของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง ของสื่อมวลชนจำนวนมาก แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐได้พยายามจำลอง ที่ผ่านมาเฉพาะตามที่ปรากฏเป็นข่าว เรายังมีความเห็นว่าไม่เหมือนกับสภาพข้อเท็จจริง แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างมากจากสื่อมวลชนหลายแห่ง ซึ่งผู้ที่ตกเรือหรือนั่งท้ายเรือจะต้องมีลักษณะเพศตรงกันหรือใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะความสูงและน้ำหนัก รวมถึงต้องแต่งชุดเหมือนกัน หรือคล้ายกันมาก ทั้งสภาพการใส่เสื้อคลุม การใส่ชุดบอดี้สูท รวมถึงความเร็วจะต้องสอดรับกับสภาพข้อเท็จจริง

เพื่อทำให้เห็นว่าความเป็นจริงแล้ว สิ่งแวดล้อมและพยานที่ทดสอบนั้นจะต้องเหมือนจริงที่สุด เราจึงจะต้องทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ให้เราคิดว่าเราควรทำการทดสอบที่มีความใกล้เคียงที่สุด ทั้งความเร็ว การแต่งกาย ความสูงและน้ำหนักของบุคคลที่มาทดสอบ จึงได้ตัดสินใจเปิดรับอาสาสมัครของคนที่มีความคล้าย แตงโม นิดา และ แซน วิศาพัช โดยเฉพาะต้องมีความสูง และมีน้ำหนักที่คล้ายกัน เพื่อทำการทดลองอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นเราก็รับอาสาสมัครคนที่คล้าย แตงโม นิดา ต้องมีความสูงประมาณ 167-168 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ส่วน แซน วิศาพัช สูง 165 -170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม เพื่อให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด

เบื้องต้นนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นัดหมายให้วันที่ 16 ม.ค. นี้ จะทำการทดสอบพร้อมหน้าสื่อมวลชน เพื่อให้ได้เห็นการตรวจสอบทุกกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งความเร็ว บริเวณท่าที่เกิดขึ้นนอกจากนั้นอาจจะทดสอบเรื่องอื่นด้วยเท่าที่จะหารือกันต่อไป

นาย ปานเทพ กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่มาสมัคร สาระสำคัญที่สุดต้องมีความกล้า เพราะจะต้องมีการทดสอบการตกน้ำจริง เนื่องจากอยากให้สภาพใกล้เคียงความเป็นจริงบนพื้นฐานของความปลอดภัย โดยมีคนดูแลด้วย ดังนั้นบุคคลที่จะเข้าเกณฑ์ในการทดสอบครั้งนี้จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็น และว่ายน้ำได้ค่อนข้างดี ในช่วงเวลานี้เรายังเปิดรับอาสาสมัครอยู่ ใครก็ตามที่อยากทำให้ความจริงนี้ปรากฏขึ้นก็มาร่วมกับเราในการทำคดีประวัติศาสตร์ ถือเป็นการเปิดเวทีการมีส่วนร่วมของประชาชนที่จะเข้ามาร่วมทดสอบกับเราในครั้งนี้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้หวังว่าจะมีผู้สมัครมาเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้เริ่มเข้ามาสมัครแล้ว สามารถติดต่อได้ที่อินบ็อกซ์แฟนเพจของตน หรือที่นายอัจฉริยะ หรือจะส่งไปรษณีย์มาที่บ้านพระอาทิตย์ก็ได้ โดยเราจะทดสอบให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด และเชื่อว่าถ้าได้มีการทดสอบตามสภาพข้อเท็จจริง เราน่าจะเห็นปัญหาอะไรบางอย่าง

ตั้งแต่การเดินมาของแตงโม นิดา ที่ใส่ชุดแบบนั้นไปยังที่ท้ายเรือ ไม่ได้หมายความว่าแตงโมใส่ชุดบอดี้สูทอย่างเดียว เพราะเครื่องแต่งกายยังมีชุดยาวสีน้ำ ซึ่งต้องใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริง และเราเชื่อว่าด้วยความเร็วที่ 8 น็อต ท้ายเรือจะจมน้ำ ไม่เอื้ออำนวยที่จะทำการปัสสาวะได้ในชุดแบบนั้น และเชื่อว่าชุดจะเปียกน้ำและถ้าจะทำให้ไม่เปียกน้ำ ต้องลั้งผ้าด้วยมือข้างไหน และมือข้างไหนจับ เพื่อยึดเหนี่ยวให้ตัวเองไม่ให้ตกน้ำ และมือข้างใดทำหน้าที่แหวกชุดบอดี้สูท เพื่อทำการปัสสาวะ เราจะจำลองสภาพความเป็นจริงว่ามันเป็นไปได้จริงหรือไม่ที่มันมีการปัสสาวะท้ายเรือ นี่คือข้อพิสูจน์ข้อแรก

Advertisements

นาย ปานเทพ กล่าวว่า ส่วนข้อที่สองที่จำเป็นต้องมีการทดสอบคือเรื่องการตกน้ำ โดยที่แซนให้การมาตลอดว่ามีการจับขาแซน และเอียงด้านซ้ายที่กราบด้านซ้ายเรือ และตกไปด้านซ้าย เราจำเป็นต้องมีการจำลองการตกน้ำเกิดขึ้นในความเร็วที่แตกต่างกัน เพื่อจะดูสภาพว่าคนที่ตกด้านกราบซ้ายเรือเช่นนี้จะสามารถมีบาดแผลใบพัดเรือได้หรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าเราไม่ได้พาผู้อาสาสมัครไปสู่ความเสี่ยง เรื่องการบาดใบพัด เพราะเราไม่เชื่อว่ามีการบาดได้ หรือมีการปั่นใบพัดได้ ทั้งจากสภาพศพ และตำแหน่งการตก เราคิดว่าน่าจะเป็นการดำเนินการที่เราจะเห็นความจริงในวันนั้นมากขึ้น

นอกจากนี้ขอฝากสื่อมวลชนช่วยกันแสวงหาข้อเท็จจริงเรื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโม ตนได้ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วมกับ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ นายอัจฉริยะ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับ GPS ทั้งหมด เพื่อมาเทียบเคียงระหว่างตำแหน่งเรือ GPS กับโทรศัพท์มือถือ ที่เชื่อว่าน่าจะมาจากของแตงโม เพราะเมื่อ 2 ปี 10 เดือนที่แล้ว ช่วงนั้นจะมีข่าวว่าบังแจ็คได้รับโทรศัพท์แตงโมจากคุณแม่แตงโม และทำการ กู้ข้อมูลกลับมา ไม่ว่าหลายคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม แต่หนึ่งในข้อมูลนั้นก็คือกรณีการแสดงพิกัดของแตงโม

นาย ปานเทพ กล่าวว่า ซึ่งเราตรวจสอบย้อนหลังว่า สอดรับกับตำแหน่ง GPS ของเรือหรือไม่ โดยสรุปคือใกล้เคียงกันมาก จึงเป็นข้อมูลที่น่าสนใจและมีน้ำหนักอยู่ จากข้อมูลตรงนี้ทำให้เราเห็นว่านับตั้งแต่แตงโมได้ปรากฎตัวที่ร้านอาหารบ้านตานิดหลังจากนั้นก็ได้ลงเรือกลับชัดเจน แต่โทรศัพท์ไม่ขึ้นสัญญาณมือถือเป็นเวลา 3 ชั่วโมงกว่า เรื่องที่เราตั้งข้อสังเกตได้มากที่สุดคือ กรณีการอ้างว่าแตงโม เริ่มตกน้ำแล้วประมาณ 20.34 น. และสัญญาณโทรศัพท์มือถือของแตงโมถูกเปิดอีกครั้งนึงที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ในวลา 23.19 น. ซึ่งอาจจะหมายความว่าแตงโม และมือถือไม่ได้อยู่บนเรือนี้มาสักพักใหญ่แล้วก็ได้

จากนั้นเหลือดังกล่าวออกไปหาแตงโมอีกนานคือเวลา 23.23 -23.49 น. ประมาณ 26 นาทีที่ออกไปแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เป็นที่น่าสนใจว่า เรือที่ออกไปแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งนี้ แต่โทรศัพท์มือถือของแตงโมแสดงพิกัดอยู่บนบกในท่าเรือพิบูลสงคราม 1 น่าสนใจว่าคงไม่ใช่โทรศัพท์วางไว้ที่ท่าเรือ แต่น่าจะมีคนรับโทรศัพท์มือถือของแตงโมไว้บนท่าเรือพิบูลสงคราม 1 และรออยู่ตรงนั้น และการจอดเรือครั้งที่สอง เนื่องจากเรือวนอยู่สักพักหนึ่งก็มีอาสาสมัครและตำรวจได้เรียกเรือลำนี้กลับมาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 เพื่อตามหาแตงโม

และพบพิกัดของโทรศัพท์แตงโมอีกครั้งที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 3 ทั้งที่ทุกคนบนเรือไปอู่เรือเอ็นบีซีหมดแล้ว ซึ่งต้องมีใครเป็นคนนำโทรศัพท์เครื่องนี้ไป แม้ว่า น.ส.กระติกบอกว่าโทรศัพท์แตงโมอยู่กับกระติกในระหว่างที่อยู่บนเรือนั้นจริงหรือไม่ และกระติกมอบให้ใครบนท่าเรือพิบูลสงคราม 1 รวมถึงโทรศัพท์มือถือของแตงโมถูกลบข้อมูลจากใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งข้อาสังเกตทั้งหมด และยังเป็นพิรุธ

และประเด็นถัดไปคือกรณีอู่เอ็นบีซี หลังจากจอดที่นั้นแล้ว หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 01.58 น. เรือลำนี้ได้ออกจากอู่ฯ เพื่อขึ้นไปทางทิศเหนือด้วยความเร็ว 11 – 36 นอต ด้วยความเร่งรีบ จากนั้นพบว่าประมาณ 02.06 น. GPS เรือวิ่งเลยจุด และมาหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไร เหมือนจะไปรับใครสักคนหนึ่ง เพราะใช้เวลา 14 นาที เราพบประเด็นว่ามีการอยู่บริเวณวัดค้างคาวอีกเป็นเวลาชั่วโมง และทำไมไม่มีใครกลับไปหาศพแตงโมที่ท่าเรือพิบูลสงคราม1 ทำไมถึงไปไหนมาไหนในช่วงเวลาวิกฤต มีการช่วยเหลือแตงโมอย่างเต็มที่หรือไม่ ทั้งนี้ รมว.ยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้รับเรื่องต่อแล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

นอกจากนี้เป็นน่าสงสัยว่า กระติกอ้างว่านำโทรศัพท์มือถือของแตงโมไปแขวนไว้ที่หน้าบ้านแตงโม โดยเอาไปให้ทันทีในคืนเดียวกันนั้น ก็ไม่รู้ว่าผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง เพราะครอบครัวของแตงโมเปิดโทรศัพท์มือถือดูแล้วพบว่ามีข้อมูลลบไปหมดแล้ว รวมถึงระหว่างที่ข้อมูลอยู่กับตำรวจก็มีการลบระหว่างทางได้ด้วยหมายความว่าต้องมีคนเข้าถึงบัญชีของแตงโมที่เรายังไม่รู้ว่าหมายถึงใคร และเราไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงให้เจอ เพราะความจริงวันนี้ไม่เหมือนกับ 3 ปีที่แล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button