สรุปข่าวปี 2567 เหตุการณ์เด่น คดีดัง สะเทือนคนไทย
รวบรวม 10 เหตุการณ์เด่น-คดีดังสำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2567 ส่งผลต่อผู้คนจำนวนมาก และได้รับความสนใจทั่วประเทศ
ปี 2567 นับเป็นอีกปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญ คดีดัง และเรื่องราวสะเทือนใจที่สร้างผลกระทบต่อสังคมไทยในวงกว้าง ทั้งในด้านความรู้สึก ความสูญเสีย รวมถึงการตั้งคำถามถึงความยุติธรรม และความปลอดภัยในสังคม วันนี้ทีมงาน The Thaiger ขอรวบรวมเหตุการณ์เด่น จำนวน 10 เรื่องราาวที่เกิดขึ้นตลอดปี
1. ‘หมูเด้ง’ ฟีเวอร์ ฮิปโปแคระดังทั่วโลก ขึ้นแท่นซอฟต์พาวเวอร์ไทย
สำหรับปี 2567 หากไม่พูดถึง ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปโปเตมัสแคระจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี สร้างปรากฏการณ์ดังไกล ฟีเวอร์ทั่วโลก จากมีมสุดน่ารักสู่ซอฟต์พาวเวอร์ที่ทุกวงการจับตามอง สร้างทั้งรอยยิ้ม รายได้ และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่ามหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้าน และร้านค้าใน จ.ชลบุรี คึกคักไปตามกัน มีเม็ดเงินเข้าสู่จังหวัดเป็นจำนววนมาก
ด้วยความน่ารัก น่าเอ็นดู และนิสัยที่ชอบเด้ง ทำให้เจ้าฮิปโปแคระครองใจคนทั่วโลกได้ง่าย ความโด่งดังของหมูเด้งนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกออนไลน์ แต่ยังลามไปถึงวงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง ทั้งศิลปิน ดารา ทั้งไทยและต่างชาติพร้อมใจกันแชร์คลิป และรูปภาพของหมูเด้งจนกลายเป็นไวรัล และสร้างกระแสความฟีเวอร์ไปทั่วโลก
นอกจากนี้ วงการโฆษณา สินค้า และแบรนด์ดัง ต่างคว้าตัวหมูเด้งไปเป็นพรีเซนเตอร์ สร้างสีสันและความน่ารักให้กับโฆษณา รวมทั้งวงการวงการศิลปะ เหล่าศิลปินและนักออกแบบต่างสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีแรงบันดาลใจจากหมูเด้ง ทั้งภาพวาด ประติมากรรมและสินค้าที่ระลึก
สำหรับ ‘หมูเด้ง’ เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นลูกฮิปโปแคระเพศเมีย เกิดจากแม่ชื่อโจนาอายุ 25 ปี และพ่อชื่อโทนี่ อายุ 24 ปี มีพี่ 1 ตัวคือ ‘หมูตุ๋น’
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 หมูเด้งยังดังแบบฉุดไม่อยู่ เมื่อ “วิทาลิก บูเทอริน” (Vitalik Buterin) มหาเศรษฐีคริปโต ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และเจ้าของเหรียญ บริจาคเงินกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่า และสร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้งโดยเฉพาะ
2. สมรสเท่าเทียมไทย ก้าวสำคัญสู่ความเท่าเทียม ประเทศแรกในอาเซียน
ปี 2567 นับเป็นหมุดหมายสำคัญ และเป็นปีแห่งความหวัง ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ในประเทศไทย เมื่อสมรสเท่าเทียมใกล้เป็นจริง หลังจากต่อสู้ เรียกร้อง และผลักดันมายาวนาน ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ด้วยคะแนน 130 ต่อ 4 รอประกาศใช้เป็นกฎหมาย นับเป็นก้าวสำคัญสู่ความเท่าเทียม และการรับรองสิทธิของคู่รัก LGBTQ+
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยสาระสำคัญกล่าวถึงบุคคล 2 คน ไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จาก กม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า ‘ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง’ แก้ไขเป็น ‘ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น’ หรือ ‘เพศ’
หลังจดทะเบียนสมรส จาก ‘สามีภริยา/คู่สมรส’ แก้เป็น ‘คู่สมรส/คู่สมรส’ รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
สำหรับกม. นี้ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมายความว่า หากมีผู้ประสงค์จะจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายใหม่ จะยังไม่สามารถทำได้ทันทีระหว่างที่กฎหมายเพิ่งประกาศใช้ ต้องรอให้พ้น 120 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 68 เป็นต้นไป จึงจะสามารถไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งใหม่ที่รับรองสิทธิสมรสเท่าเทียม
3. ปิดฉากมหากาพย์นักต้ม กระชากหน้ากาก ‘บอสดิไอคอนกรุ๊ป’
หนึ่งในคดีฉ้อโกงที่สร้างความฮือฮาให้กับสังคมไทย เมื่อบริษัทขายตรงชื่อดัง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ถูกแฉว่ามีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน โดยใช้ดารานักแสดงชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์ แต่กลับไม่ดำเนินการตามที่ตกลงไว้ 1 นำไปสู่การออกหมายจับ “บอสพอล” นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล พร้อมพวกอีก 18 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือ “แชร์ลูกโซ่” ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูงกว่าหมื่นล้านบาท 2 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อบุคคลสาธารณะ และธุรกิจขายตรง
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ตำรวจได้ออกหมายจับดาราดังที่เอี่ยวในคดีนี้ ได้แก่ บอสกันต์ หรือ กันต์ กันตถาวร, บอสแซม หรือ แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี และบอสมิน หรือพีชญา วัฒนามนตรี
4. ไฟไหม้รถบัสนักเรียนคร่า 23 ศพ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เกิดเหตุสุดสลดเมื่อรถบัสนักเรียนของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดไฟไหม้ ขณะพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ กฟผ.บางกรวย เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 23 ราย จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ มาจากแก๊สเอ็นจีวีรั่วไหล เนื่องจากสายต่อชำรุด และรถคันดังกล่าว ยังได้ติดตั้งถังแก๊สเกินมาตรฐานถึง 11 ถัง ทั้ง ๆ ที่จดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง
เหตุการณ์ความสูญเสียดังกล่าวทำให้เกิดคำถามถึงมาตรฐานความปลอดภัย และการกำกับดูแลรถโรงเรียน ซึ่งจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอยอีก ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ทางโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ได้จัดพิธีพระราชเพลิงศพครูและนักเรียนทั้ง 23 ศพ โดยมีประชาชนกว่าหมื่นคนมาร่วมไว้อาลัย
5. หมอบุญฉ้อโกงลวงลงทุนเกือบหมื่นล้าน
นพ. บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ถูกกล่าวหาว่า ฉ้อโกงเงินร่วมลงทุนด้านการแพทย์ จากผู้เสียหายกว่า 247 ราย เป็นเงินกว่า 7,500 ล้านบาท โดยใช้วิธีการระดมทุนผ่านนายหน้าและโบรกเกอร์ อ้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของโรงพยาบาลธนบุรี ในการชักชวนผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนมีฐานะ และคนในแวดวงการแพทย์
ต่อมา นพ. บุญ ได้หลบหนีคดีไปยังประเทศจีน 9 เหตุการณ์นี้ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของวงการแพทย์ และบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน เนื่องจาก นพ. บุญ เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับ และมีความน่าเชื่อถือในสังคม แต่กลับใช้ตำแหน่งหน้าที่ และชื่อเสียงของตนเอง ในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
6. ‘ก้าวไกล’ ถูกยุบพรรค
สำหรับ พรรคก้าวไกล ต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งยุบพรรค พร้อมกับเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากศาลฯ เห็นว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4 ส่งผลให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน สองแกนนำสำคัญของพรรค ต้องยุติบทบาททางการเมือง 4 เหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมทางการเมือง และสมดุล
7. สจ. โต้ง ถูกยิงดับคาบ้านใหญ่ผู้กว้างขวางปราจีนบุรี ชนวนแตกหักอิทธิพลท้องถิ่น
คดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในบ้านของนักการเมือง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร พ่อของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชนวนเหตุเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองที่นำไปสู่การทะเลาะวิวาท และลงเอยด้วยการยิงกันเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่น ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง และการใช้กำลังในการแก้ปัญหา
8. มหันตภัยน้ำท่วมถล่มทั้งเหนือ-ใต้
ปี 2567 ประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ เริ่มต้นจากฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลให้แม่น้ำสายต่างๆ เอ่อล้น เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร และย่านเศรษฐกิจ
สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี เช่น ที่จังหวัดเชียงราย น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ถนนหลายสายถูกตัดขาด ชาวบ้านติดค้างอยู่ในบ้าน รอการช่วยเหลือ ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่น้ำปิงเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ทะลักเข้าท่วมตัวเมือง สร้างความเสียหายอย่างหนัก
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ หลายจังหวัดต้องเผชิญกับน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เนื่องจากฝนตกหนัก และการระบายน้ำลงสู่ทะเลล่าช้า ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และย่านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
สำหรับสถานกาณ์น้ำท่วมในปีนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายชีวิต และความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงระบบการจัดการน้ำ การวางผังเมือง และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
9. ศึกนายพลสีกากีเชือด ‘แม่ทัพ’ เข้ากรุง
เมื่อช่วงต้นปี 2567 เกิดความร้อนระอุในกองทัพ เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ลงนามคำสั่งฟ้าผ่า ย้าย พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมกับแต่งตั้ง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. แทน
เบื้องหลังการโยกย้ายตำแหน่งในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ กับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่เริ่มต้นจากกรณีเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และถูกให้ออกจากราชการ ส่งผลให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หมดสิทธิ์ในการขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. นั่นเอง
10. ศาลอาญาพิพากษา ประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต ‘แอม สรารัตน์’ ใช้สารพิษไซยาไนด์ฆ่าเหยื่อ 14 ศพ และรอดชีวิต 1 ราย นอกจากนี้ ยังตัดสินจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และจำคุก น.ส.ธัญนิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช เป็นเวลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
สำหรับปี 2567 นับเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมายส่งผลกระทบต่อสังคมไทย ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความรุนแรง ที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน
นอกจากนี้ ปี 2567 ยังเป็นปีที่คนไทยต้องเผชิญกับความผันผวนทางการเมือง ทั้งการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ และการยุบพรรคการเมืองที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง และความเชื่อมั่นของประชาชน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ ก็ยังมีเรื่องราวดี ๆ ให้คนไทยได้ยิ้มกัน ไม่ว่าจะเป็นคสามน่ารักของหมูเด้ง ฮิปโปแคระ หรือ ความสำเร็จของกฏหมายเท่าเทียมนั่นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดราม่า ยายแบงค์ เลสเตอร์ โดนถล่ม ห่วงสมบัติมากกว่าหลาน เพจดังวอนอย่าด่วนตัดสิน
- เผยรายชื่อ 14 สำนวน คดีแอมไซยาไนด์ อัยการสั่งฟ้องเพิ่ม มั่นใจเอาผิดได้
- ลือสะพัด ศาลอนุมัติประกันตัว บอสมิน ดิไอคอน หลักประกัน 5 แสน