หนุ่มโพสต์เตือน เจอเศษแก้วในสปาเก็ตตี้ร้านพิซซ่าดัง บาดปาก-มือเลือดซิบ
หนุ่มรายหนึ่งโพสต์เตือน เจอเศษแก้วในสปาเก็ตตี้ ร้านพิซซ่าดังในห้าง บาดทั้งปากทั้งมือ ทางร้านแจ้งพร้อมจ่ายค่ารักษาทั้งหมด
กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอีกแล้ว เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พฤศจิกายน) มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพจานอาหารที่มีเศษไก่ทอดที่กินเสร็จแล้ววางไว้บนจาน แต่ข้างๆกลับมากระดาษทิชชู่ที่มีเลือดวางอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้พิมพ์ข้อความไว้ว่า “เจอเศษแก้วในสปาเก็ตตี้”
“ตอนแรกเคี้ยวๆอยู่คิดว่าเป็นเบค่อนกรอบแต่นานๆไปรู้สึกว่าไม่ใช่แน่ๆ ก็เลยหยิบออกมาดูสรุปเป็นเศษแก้วเล็กๆ ขนาดประมาณเมล็ดข้าวตอนหยิบออกมาก็บาดทั้งมือและปาก แถมยังกลืนลงไปด้วยอีก”
“แต่สำหรับเหตุการ์ณนี้ไม่ได้อยากจะเอาเรื่องมากกว่านี้ ( แต่ ) คิดว่าควรดูแลความสะอาดและสิ่งแปลกปลอมให้มากกว่านี้ อันตรายมากถ้ามันลงไปบาดภายใน ตอนนี้ดูอาการต่อไป”
“ทางร้านได้รับผิดชอบโดยจ่ายค่าอาหารในมื้อนี้และหากเป็นอะไรขึ้นมาจะจ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมด”
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกโพสต์ลงไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลก์มากกว่า 5 พันครั้ง พร้อมด้วยการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ต้องการให้เจ้าของโพสต์เอาผิดร้านพิซซ่าให้ถึงที่สุด และนี่คือส่วนหนึ่งของคอมเมนต์ในประเด็นนี้
“ร้านควรจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้ด้วยนะ”
“อันนี้ร้ายแรงมากนะครับไม่เอาเรื่องไม่ได้หรอกขนาดนี้”
“ไปโรงบาลก่อนค่ะ กลืนลงไปด้วยมันจะไปบาดไส้บาดกระเพาะหรือเปล่า เอาเรื่องเถอะค่ะเลือดสาดขนาดนี้แล้ว”
“โห แต่การกินอาหารในร้านพิซซ่าหลังจากวันนี้ก็คงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
“ไม่ได้ค่ะ ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแบบนี้ มันไม่ควรมาอยู่ในอาหาร ไม่ใช่แค่จ่ายค่ารักษาแต่ต้องเยียวยาด้วย เกิดคุณเป็นไรขึ้นมาจะรับผิดชอบยังไง แค่นี้ไม่พอ มันสะเพร่าเกิน เป็นถึงร้านดัง นี่เศษแก้วเลยนะ ไม่ใช่กระดาษ อันตรายมาก แนะนำให้ฟ้อง ถ้าไม่ยอมจ่ายค่าเยียวยา”
สุดท้ายทางเจ้าของโพสต์ได้เปิดเผยภาพแชทที่เขาได้แจ้งกับทางบริษัท โดยทางต้นสังกัดเผยว่าในเวลานั้นสาขาดังกล่าวปิดให้บริการแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดต่อไปยังสาขาได้ และจะมีการติดต่อกลับไปที่สาขาดังกล่าวอีกครั้งในวันนี้ (29 พฤศจิกายน)
อ้างอิง : 1
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ประกาศข่าวคนดัง บอกลาช่อง 3 หลังทำงาน 19 ปี เผยผลงานชิ้นสุดท้าย
- ทนายอาคม ยื่น 5 แสน ขอปล่อยตัวชั่วคราว เดือน เมียทนายตั้ม
- ดับแล้ว 5 ราย คานถล่มพระราม 2 ทล.แจงสาเหตุ-เปิดเส้นทางเลี่ยง