ประกาศขายพระตำหนัก “เวน คอร์ต” ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ที่ทรงประทับหลังสละราชสมบัติช่วง 2480-2482
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เว็บไซต์ขายบ้านอังกฤษได้ประกาศขายพระตำหนักเวน คอร์ต (Vane Court) ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงประทับหลังการสละราชสมบัติช่วงปี พ.ศ. 2480-2482 ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบิ้ดเด็นเด็น (Biddenden) ใกล้เมืองแอชฟอร์ด (Ashford) ในจังหวัดเคนท์ (Kent) ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 200 ไมล์ ในราคา 3,950,000 ปอนด์ หรือ 173,618,300 บาท
เจ้าของบ้านคนปัจจุบัน ระบุ ได้ทำการรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ แบบคงเอกลักษณ์แบบเดิมเหมือนสมัยพระองค์ท่านทรงประทับอยู่ พร้อมสอดแทรกความโมเดิร์นสมัยใหม่อย่างลงตัว และถึงแม้ตัวบ้านจะมีอายุกว่า 605 ปี แต่ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 6,500 ตารางฟุต ห้องนอน 7 ห้อง พื้นที่รับแขก-ห้องทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย จึงสามารถรองรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนที่ชอบพักผ่อนชิล ๆ ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ตัวบ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5.36 เอเคอร์ ล้อมรอบไปด้วยสวน, สระน้ำ, สนามเทนนิส รวมถึงมีโรงรถที่จอดรถที่สามารถจอดได้ถึง 4 คัน ทำให้สามารถรับแขกจากแดนไกลได้อย่างอบอุ่น และหากใครเป็นสายท่องเที่ยวก็สามารถขับรถไปกรุงลอนดอนได้ในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งบริเวณนั้นยังมีสถานีรถไฟ Staplehurst ที่เชื่อมไปสถานีลอนดอนบริดจ์ วอเตอร์ลู และ London Charning Cross ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ได้ระบุเรื่องราวในอดีตว่าพระองค์ท่าน และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงสำราญกับกิจกรรมทำสวน ปลูกต้นคาร์เนชั่นเป็นพระจริยวัตรปันโปรดปราน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงตัดดอกไม้มาปักแจกันไว้ตามห้องต่าง ๆ ในพระตำหนักทุกวัน และสองพระองค์ยังโปรดที่จะเสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรดอกไม้ในสวน ที่มีสะพานเล็ก ๆ ตั้งอยู่ และบ่อน้ำที่ทรงเลี้ยงเป็ดเทศไว้หลายพันธุ์
ชาวบ้านในพื้นที่จึงเข้าเฝ้าพระองค์อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากพระองค์ท่านทรงจักรยานตามถนนเล็ก เพื่อทรงจับจ่ายร้านค้าในหมู่บ้าน สัปดาห์หนึ่งซื้อที่หนึ่ง อีกสัปดาห์ก็ทรงซื้ออีกร้านหนึ่ง และยังทรงทำหน้าที่เป็น มูลนาย ประจำหมู่บ้าน, องค์ประธานพระราชทานถ้วยรางวัลการประกวดดอกไม้ และชาวบ้านมักเห็นพระองค์ทรงพระดำเนินไปตามถนนในหมู่บ้านกับสุนัขพันธุ์แอร์เดลที่ชื่อว่า แซม อีกด้วย
ด้านเหตุผลที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติและไปประทับที่พระตำหนักข้างต้นนั้น เพราะพระองค์ทรงมีจุดมุ่งหมายให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยให้อำนาจปกครองตนเองแก่ประชาชนมากขึ้น แต่หลังจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองก็เกิดความวุ่นวายภายในประเทศกอปรกับพระสุขภาพอนามัยมิได้แข็งแรง ประชวรพระโรคต้อกระจก จึงตัดสินพระราชหฤทัย เสด็จฯ ประพาสยุโรปเพื่อทอดพระเนตรการพัฒนาด้านต่าง ๆ และทรงรับการผ่าตัดพระเนตรที่ประเทศอังกฤษ
ด้วยพระราชดำริที่ไม่ตรงกันกับรัฐบาลคณะราษฎรหลายประการและทรงพิจารณาแล้วว่าไม่สามารถประสานกับรัฐบาลเพื่อให้บรรลุประโยชน์แก่ปวงชนส่วนรวมได้ จึงทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ขณะประทับพักฟื้นพระวรกายที่พระตำหนักโนล เมืองแครนลี มณฑลเซอร์เรย์ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2477 เวลา 13.45 น.
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2484 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตด้วยโรคพระหทัยวาย ขณะมีพระชนมายุ 48 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงจัดพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพขึ้น ณ ฌาปนสถานโกลเดอร์สกรีน (Golders Green) ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ถอดยศ “พ่อบ้านประจำพระตำหนักพัชราภิรมย์” ให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหาผลประโยชน์ ผิดวินัยร้ายแรง
- รู้จัก ลูกจ้างท้ายที่นั่ง ตำแหน่ง พ่อบ้านประจำพระตำหนัก คืออะไร
- สมเด็จพระพันปีหลวง หายประชวร เสด็จฯกลับ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
- ในหลวง โปรดเกล้าฯ พลตรีหญิง ท่านผู้หญิงอรอนงค์ เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีสมโภชพระนอน วัดใหญ่ชัยมงคล
