ผจก. สมุทรปราการ ซิตี้ ประกาศยุบทีม หลังถูกแฟนบอลด่ากราดกลางสนามหลังจบเกม
แฟนบอลช็อก ผู้จัดการทีม “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ประกาศยุบทีมฟ้าผ่า หลังถูกแฟนบอลอัลตร้า พัทยา ด่าบุพการีกราดขณะเดินขอบคุณ
เกิดอีกหนึ่งตำนานเดือดลูกหนังไทย หลัง “ปาย” ลกากรณ์ จันทรมณี ผู้จัดการทีม “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์หลังจบศึกแข่งกับพัทยา ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 0-0 ณ สนามศุลกากร ลาดกระบัง 54 ว่า ขอยุบทีมเขี้ยวสมุทร หลังถูกแฟนบอลอัลตร้า (ฝั่งพัทยา) ก่นด่าบุพการีของตนและนักเตะเขียวสมุทรขณะเดินไปขอบคุณแฟน ๆ พร้อมจวก สันดานไม่ดี-สถุล
อีกทั้งพูดถึง “พี่อ๊อด” ผู้อ้างตัวว่าเป็นประธานเชียร์ของสมุทรปราการซิตี้ ไม่ควรจะมาอบรมหรือด่านักบอล และทีมสต๊าฟของสมุทรปราการ เพราะทุกอย่างประจักษ์ให้เห็นล้วว่า คนที่ทำไม่ดี คนที่ด่าเรา ที่ยั่วยุทุกสิ่งทุกอย่าง คือแฟนบอลสถุนพวกพัทยา ไอ้อุลตร้าพัทยาทั้งหลาย และกล่าวทิ้งท้ายว่าทางสโมสรจะไม่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันทุกรายการ หากสมาคมหรือใครมีปัญหา แฟนบอลที่คอมเมนต์ในโซเชียลว่าเราไม่มีเงินขอให้ติดต่อตนมาโดยตรง เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง
ขณะเดียวกัน พี่อ๊อด ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pathomchai Buppharoj ขอยุติบทบาท พร้อมขอบคุณและขอโทษทุกคน พร้อมแนบตรสมาชิกสโมสร หมายเลข 001
“ผมเชื่อว่าในเมืองไทยนี้ ผมไม่เป็นสองรองใครในเรื่องความรักต่อสโมสรฯ และในทุกเรื่อง ผมเชื่อว่าผมมีสติทุกครั้งในการตัดสินใจทำอะไร และในทุกเรื่องที่ผมตัดสินใจ ผมไม่ได้มีวิธีคิดในการตัดสินใจเพื่อตนเอง แต่ผมคิดว่า ผมมองไปไกลกว่านั้น เพื่อทุก ๆ คน
1. ในสนาม ถ้าไม่ถามผม ผมก็จะไม่ขอตอบ เพราะในสนามเป็นหน้าที่ของฝ่ายปฎิบัติการ ซึ่งผมมีความเชื่อว่า มันมีขั้นตอน เพื่อการควบคุมดูแล แต่ถ้าถามผม ผมก็ยังเชื่อว่า ถ้าเป็นผม ผมจะเดินถอยออกมาแล้วให้ทีมควบคุมดูแลจัดการต่อไป
2. นอกสนาม ผมยังยืนว่า ความอดทนในฐานะเจ้าบ้าน ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร คุณมาในสนามฐานะกองเชียร์ ไม่ใช่นักรบ ถ้าอยากจะชนะ ต้องชนะในวิถีเชียร์ 90 นาที
สุดท้าย ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ถ้าเรามาเชียร์ฟุตบอล และมองว่าผู้คนรอบกายเรา คือ เพื่อนพี่น้องที่เราต้องรักษาไว้ ให้เขามีความสุขในเกมส์ฟุตบอล ให้กลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัย และให้พวกเขาเอาความสุขที่เขาได้ กลับไปเชื้อเชิญเพื่อน ญาติ พี่น้อง ให้กลับมาสนับสนุนทีมฟุตบอลต่อไป ไม่ใช่การที่พวกเขาเข้ามาในสนาม พาลูกหลานมาเห็นแต่เสียงด่าทอ เห็นแต่ความรุนแรง สุดท้ายอาจได้รับอันตราย จากสิ่งที่ไม่คาดคิด แล้วคิดว่าพวกเขาอยากจะกลับมาอีกหรือ ?
ไม่รวมถึงการเดินทางไปเยือนในสถานที่ต่าง ๆ หากทุกคนสร้างแต่ความบาดหมางเอาไว้ แล้วผู้คนที่เขาชอบชมเกมส์ฟุตบอลในสนาม มีความจงรักภักดีต่อสโมสรฯ ติดตามไปเชียร์ทุกสนาม จะหาความสบายใจและความปลอดภัยได้จากใหน ?
ผมเดินทางในสายนี้มายาวนาน ผมรักษาวินัยในการเชียร์มาอย่างสม่ำเสมอ ผูกมิตรกับทีมเชียร์ทุกทีมเท่าที่ทำได้ เพื่อผลให้สโมสรฯ มีมุมมองที่ดีจากคนภายนอก การเชียร์ไม่หยุด การมีวินัยในการเชียร์ การให้เกียรติคู่แข่ง ที่ทำต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน ก็เคยได้รับคำชมเชยจากพี่น้องกองเชียร์อื่น ๆ มาตลอด
ผมจึงไม่เข้าใจว่า วันนี้พวกเราจะทำลายมันไปด้วยอารมณ์ เพื่ออะไร ? ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่เดินทางร่วมทางกันมาอย่างยาวนาน ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติผมเสมอ ทั้งที่ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรต่อกัน ขอให้ทุกคนรักษาวัฒนธรรมที่ดีของ ฅนปราการ ที่ลงมือทำมันมาอย่างยาวนานเอาไว้ครับ นับถือ / ขอโทษ และ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ”
อย่างไรก็ตาม จุดชนวนความขัดแย้งระหว่างสองทีมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน เนื่องจากสมัยก่อนที่จะกลายเป็นทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ชื่อเดิมคือสโมสรพัทยา ยูไนเต็ด กระทั่งปี 2561 ผู้บริหารสโมสรเปลี่ยนชื่อ เป็นสมุทรปราการ ซิตี้ แทน ทำให้แฟนบอลพัทยา ยูไนเต็ด ไม่พอใจ และกลายเป็นประเด็นอยู่พักใหญ่
ส่วนทีมพัทยา ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกหนึ่งที่ไต่เต้าจากไทยลีก 3 ด้วยชื่อ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด จนต่อมาได้เล่นไทยลีก 2 ฤดูกาล 66-67 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น พัทยา ยูไนเต็ด ทำให้เรื่องการชิงสิทธิ์ความเป็นพัทยาต่าง ๆ กลายเป็นปมฝังใจผู้เล่นยาวนานและปะทุจนกลายเป็นเหตุใหญ่โตตามรายงานข้างต้นนั่นเอง
ทั้งนี้ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ ปัจจุบันมีชื่อ สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา เป็นประธานสโมสร ซึ่งเป็นทีมที่นำ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชทีมชาติไทยคนปัจจุบัน มาเริ่มต้นทำงานในไทยอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โลกลูกหนังอาลัย “อับเดลาซิซ บาร์ราดา” อดีตกลางมาร์กเซย เสียชีวิตในวัยแค่ 35 ปี
- แฟนสาว ‘กรีลิช’ จัดทริปหวาน ควงพ่อแข้งทองอวดหุ่นฉ่ำที่ดูไบ
- เปิดภาพ “ปาอิม” แข้งที่โรนัลโด้ยกว่าเก่งเหนือตน เมินโลกลูกหนัง ผันตัวเล่นหนังผู้ใหญ่