Jannah Theme License is not validated, Go to the theme options page to validate the license, You need a single license for each domain name.
ข่าวต่างประเทศ

หมอผ่าตัดยังอึ้ง อายุแค่ 45 พบนิ่ว 3,000 เม็ด ในถุงน้ำดี เพราะพฤติกรรมใกล้ตัว

แพทย์ชื่อดังเล่าเคสสุดช็อก สาววัย 45 ปี ป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี รวมกว่า 3,000 เม็ด สืบสาวจนพบความจริง ที่แท้บ่อเกิดโรคเป็นเพราะพฤติกรรมการกิน

เว็บไซต์ต่างประเทศ Health Setn รายงานถึงเคสสุดช็อกที่เกิดขึ้นกับหญิงสาว วัย 45 ปี นามว่า คุณซู เธอเป็นวิศวกรหญิงแห่งบริษัทเทคโนโลยีในเขตอุตสาหกรรมซินจู โดยเรื่องราวอาการป่วยเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่หญิงสาวประสบปัญหาท้องไส้ปั่นป่วน เหตุเพราะกิจวัตรการทำงาน และมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อเนื่องมานาน ในช่วงแรกเธอแค่มีอาการปวดท้องและท้องอืดเรื้อรัง และแม้จะไปหาหมอหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น

จนกระทั่งล่าสุดปวดท้องหนักหลังกินอาหาร เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลนานาชาติเกาสง ป๋อเทียน เพื่อเข้ารับการรักษากับ ‘ศาสตราจารย์หลี่ จินเต๋อ’ รองผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน

หลังจากได้ตรวจอย่างละเอียดและอัลตราซาวด์ ผลการวินิจฉัยทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง เหตุเพราะในถุงน้ำดีของเธอเต็มไปด้วยนิ่ว เบื้องต้นประเมินว่ามีนิ่วขนาดต่าง ๆ สะสมอยู่มากมาย

นิ่วในถุงน้ำดี 33.6 กรัม
ภาพจาก : health.setn

อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์หลี่ จินเต๋อ ต่อสื่อท้องถิ่น ได้ระบุไว้ว่า คนไข้สาวรายนี้มีน้ำหนักเกินเล็กน้อย และมีอาการปวดท้องทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นอาการเรื้อรังที่เกิดขึ้นมา 3 เดือนแล้ว ส่งผลให้เธอกินน้อยลง และหลาย ๆ ครั้งก็พยายามเลือกทานแต่อาหารที่พอจะช่วยบรรเทาอาการหิวได้เท่านั้น แต่หลังจากไปหาหมอหลายที่ก็ยังไม่ดีขึ้น ในที่สุดจึงตัดสินใจมาหาเขา เมื่อทำการตรวจอัลตราซาวนด์ก็พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดี

“นิ่วในถุงน้ำดีสามารถหลุดไปยังท่อน้ำดีได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการดีซ่าน หรือรุนแรงถึงขั้นถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน เป็นอันตรายถึงชีวิต”

หลังจากที่ ศาสตราจารย์หลี่ จินเต๋อ ตรวจพบสาเหตุของอาการป่วยก็ได้ตัดสินใจผ่าตัดถุงน้ำดีออกทันที เมื่อผ่าถุงน้ำดีออกมาก็พบว่า ข้างในเต็มไปด้วยนิ่วที่มีขนาดเท่าลูกแพร์ โดยมีน้ำหนักรวม 33.6 กรัม และมีจำนวนกว่า 3,000 เม็ด

นิ่วในถุงน้ำดี 3000 เม็ด
ภาพจาก : health.setn

อย่างไรก็ดี ทางศาสตราจารย์เผยว่า จากข้อมูลทางการแพทย์นั้น ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าผู้ชาย สาเหตุหลักคาดว่ามาจากฮอร์โมนเพศหญิงหรือความแตกต่างทางพันธุกรรม นอกจากนี้ พฤติกรรมการกิน เช่น การทานอาหารทอด อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง การดื่มน้ำไม่เพียงพอ และการอดอาหารเป็นเวลานาน ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน

หากมีนิ่วในถุงน้ำดีและจำเป็นต้องตัดถุงน้ำดีออก แนะนำให้รับประทานอาหารไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง ทานบ่อย ๆ แต่ในปริมาณน้อย ลดน้ำตาล และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป พร้อมทั้งดื่มน้ำให้มาก ๆ ก็จะพอบรรเทาอาการได้

ทั้งนี้ จากสถิติผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดถุงน้ำดีออกมีอายุมากที่สุดถึง 81 ปี และอายุน้อยที่สุดเพียง 21 ปี ในอดีตนิ่วในถุงน้ำดีมักพบในคนวัยกลางคนอายุ 40 – 50 ปี แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการกินของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้พบผู้ป่วยในกลุ่มอายุ 30 – 40 ปีเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโรคนี้มีแนวโน้มเกิดในผู้ป่วยอายุน้อย

ศาสตราจารย์หลี่ จินเต๋อ
ภาพจาก : health.setn

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button