ข่าว

เช็คระดับน้ำ เจ้าพระยา หลังน้ำเหนือจ่อมาเพิ่ม “อยุธยา-อ่างทอง” เจอผลกระทบบางแห่ง

น้ำเหนือจ่อมาเพิ่ม เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันได อัตราระหว่าง 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รองรับปริมาณน้ำจากทางตอนบนและฝนที่ตกเพิ่ม 3-9 ก.ย.นี้ ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงจากปัจจุบันอีก 25-40 ซม. เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่ม บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จ.อยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนบางแห่ง

วานนี้ (4 ก.ย.) สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน น้ำเหนือจ่อมาเพิ่ม เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันได เตรียมรับน้ำเพิ่มขึ้น โดยกรมชลประทานเปิดเผยว่าจากการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบในช่วงวันที่ 3-9 ก.ย. 67 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

Advertisements

ประกอบกับการคาดการณ์สถานการณ์น้ำท่าในช่วง 1-7 วันข้างหน้า แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และลำน้ำสาขา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำยกตัวสูงขึ้น

กรมชลประทาน ได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของลำน้ำ พร้อมปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำที่ไหลหลากจากทางตอนบนและฝนที่ตกในพื้นที่ คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 25 – 40 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนบางแห่ง

ติดตามสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 กันยายน 2567 เวลา 06.00 น.
ภาพ Facebook @SWOCRID

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัด ลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ

รวมไปถึงแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปแล้ว

ขณะเดียวกันอ้างอิงข้อมูลจากไทยพีบีเอส นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในภาคหนือเริ่มทรงตัว และมวลน้ำที่ลงมาถึงหน้าเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว เมื่อวานที่ผ่านมาได้พยายามให้มวลน้ำก้อนใหญ่ผ่านเข้าระบบชลประทาน ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตกเพิ่ม 300 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อไม่ให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำกระทบมาก ตอนนี้การบริหารจัดการน้ำ ระบบชลประทานยังรองรับได้

Advertisements

พยายามไม่ระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยามากจนเกิดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ โดยปรับการระบายเป็น 1,449 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ระดับน้ำจะเริ่มสูงใน จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา

ส่วนพายุโซนร้อนยางิ จากฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวช้าๆไปทิศตะวันตก คาบสมุทรอินโดจีน และจะเข้าจีนตอนใต้ และเวียดนามตอนบนช่วง 6-7 ก.ย.นี้ นายธเนศร์ระบุแม้พายุจะเข้าไทยโดยตรง แต่ปลายพายุที่เข้้าทางเวียดนาม ทำให้ภาคเหนือตอนบน อีสานตอนบน จะมีฝนจะมาเติมในเขตลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ดังนั้นจุดที่ต้องเร่งระบายน้ำคือ แพร่ สุโขทัย ต้องเร่งระบายมีเวลา 4-5 วัน.

เขือนเจ้าพระยา ชัยนาท
(แฟ้มภาพ) สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท วันที่ 31 สิงหาคม 2567
ภาพ Facebook @Kromchon

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button