ครม. เห็นชอบให้อนุมัติงบกลางฯ จำนวน 1,214 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนเด็กแรกเกิด เดือน ก.ย. 67 จำนวน 2.28 ล้านคน
ล่าสุด 3 กันยายน 2567 นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ครม. อนุมัติงบกลางฯ ฉุกเฉินวงเงิน 1,214 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี หรือเงินอุดหนุนบุตร ตามข้อเสนอของกระทรวงพม. หลังงบประมาณเดิมไม่เพียงพอ
สำหรับวงเงินจำนวน 1,214 ล้านบาท จะครอบคลุมการจ่ายเงินในโครงการอุดหนุนบุตร ในรอบเดือนกันยายน ซึ่งสาเหตุที่ต้องยื่นขอใช้งบฯ กลาง เนื่องจากงบประมาณที่กระทรวงพม.ขอรับการจัดสรรไว้เดิมไม่เพียงพอ โดยในแต่ละปีหรือแต่ละเดือน จำนวนเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ ฉะนั้นจำนวนของผู้ได้รับสิทธิ์จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และอัปเดตจำนวนกันทุกเดือน ทำให้สำนักงบประมาณไม่สามารถกำหนดจำนวนเงินที่ต้องใช้ได้ ในแต่ละปีก็จะให้งบประมาณเอาไว้ในช่วงสุดท้ายของปีงบประมาณ ถือเป็นเรื่องปกติที่กระทรวง พม. จะต้องสรุปตัวเลขล่าสุดเพื่อนำเสนอขอเงินงบประมาณ
กรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด นั้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางสังคม เช่น แม่เลี้ยงเดี่ยว แม่วัยใส และครอบครัวที่มีผู้สูงอายุเลี้ยงดูเด็ก
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ของเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า มียอดผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ทั้งหมด 3,727,946 คน โดยมีผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนแล้ว 2,283,030 คน คิดเป็นจำนวนเงินรวม 1,443,844,200 บาท
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่ามีแม่เลี้ยงเดี่ยวจำนวน 130,550 คน คิดเป็น 3.50% ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด และมีแม่วัยใส 360,973 คน หรือ 9.68% นอกจากนี้ยังพบว่ามีเด็กข้ามรุ่นที่อยู่กับปู่ย่าตายาย จำนวน 1,264,231 คน
ในด้านการลงทะเบียน มีมารดาลงทะเบียนขอรับสิทธิ์มากที่สุดถึง 2,779,305 คน คิดเป็น 74.55% ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด ตามด้วยบิดาที่ลงทะเบียน 329,514 คน และผู้ปกครองอื่น ๆ 619,127 คน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 1,372,684 คน ตามด้วยภาคกลาง 899,078 คน ภาคใต้ 791,849 คน และภาคเหนือ 664,335 คน
ทั้งนี้ การจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในปี 2567 กระทรวงพม. มั่นใจว่าจะไม่มีการจ่ายเงินล่าช้าอย่างแน่นอน เพราะในปี 2566 เกิดปัญหาการจ่ายเงินล่าช้าจากรอยต่อของรัฐบาล แต่ในปีนี้มีการกำชับเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ในการดำเนินงานไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งในช่วงการเปลี่ยนผ่านของคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ ไม่น่ามีปัญหา เพราะรัฐมนตรีท่านใหม่ที่จะเข้ามานั้นเปลี่ยนแปลงคนละส่วนกัน โดยข้าราชการและกลไกในการทำงานนั้นยังเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามที่ประชุมครม. เห็นชอบตามที่กระทรวง พม. ของบฯ เพิ่มเติมของโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อไปจะเสนอเรื่องให้ทางสำนักงบประมาณใช้งบกลางมาสนับสนุนในส่วนที่ขาดหายไปได้
ข้อมูลจาก : รัฐบาลไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง