เด็กวัยกำลังห้าว มุดดูห้องน้ำหญิง แม่เข้าข้างผิดๆ จนชาวเน็ตห่วงอนาคต
กลายเป็นกระแสวัลไรในโลกออนไลน์จีน เมื่อภาพจากกล้องวงจรปิดในร้ายอาหารแห่งหนึ่ง หลุดภาพวินาที เด็กชายทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมในห้องน้ำหญิงเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 สร้างความไม่พอใจในหมู่ชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแม่ของเด็กแทนที่จะสั่งสอนลูก กลับปกป้องและแก้ตัวให้กับความผิดนั้น
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อชายคนหนึ่งโพสต์วิดีโอลงโซเชียลมีเดีย กล่าวหาว่าเด็กชายแอบดูแฟนสาวของเขาในห้องน้ำหญิงที่ร้านอาหาร เมื่อเขาไปพูดคุยกับแม่ของเด็ก ไม่ต้องการอะไรนอกจากคำขอโทษ แม่ของเด็กกลับไม่สำนึกผิด แถมยังพูดเสียงดังปกป้องลูกชายของเธอว่า “เขาไปจับตัวแฟนเธอหรือไง?”
เด็กชายในวิดีโอมีอายุเพียง 10 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับการศึกษาเกี่ยวกับเพศอย่างเหมาะสม การที่แม่ปกป้องและยอมรับพฤติกรรมที่ผิดของลูกชาย ทำให้หลายคนกังวลว่าพฤติกรรมของแม่จะทำให้เด็กไม่ตระหนักถึงความผิดของตน และอาจทำผิดซ้ำอีกในอนาคต
ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความคิดเห็นด้วยความโกรธ เช่น “ลูกฉันอายุหกขวบยังรู้เลยว่าห้ามเข้าห้องน้ำผู้หญิง เรื่องพวกนี้สอนกันตั้งแต่อนุบาลแล้ว” และ “เป็นห่วงอนาคตเด็กคนนี้จัง”
เด็ก ๆ จำเป็นต้องได้รับการสอนและปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็กเพื่อสร้างบุคลิกภาพที่ดี พ่อแม่เป็นแบบอย่างและครูคนแรกที่หล่อหลอมคุณค่าชีวิตให้กับลูก การปกป้องลูกจากความผิดก็ไม่ต่างอะไรกับการ “ผลัก” พวกเขาไปสู่ความผิดพลาดและทำให้พวกเขากลายเป็น “เหยื่อ” ของตัวเอง
การศึกษาเรื่องเพศเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการของเด็ก ดังนั้นการให้ความรู้พื้นฐานแก่พ่อแม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น การศึกษาเรื่องเพศสำหรับเด็กควรช่วยให้เด็กรู้จักและยอมรับเพศของตน เข้าใจพฤติกรรมที่เหมาะสมและการตอบสนองทางอารมณ์
ข้อควรจำในการให้ความรู้เรื่องเพศแก่เด็ก
พ่อแม่ไม่ควรคอยเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเรื่องเพศกับลูก ควรคว้าโอกาสทุกเมื่อและเริ่มพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับหัวข้อนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและนักจิตวิทยาส่วนใหญ่สนับสนุนให้พ่อแม่เริ่มสอนเด็กเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างเพศตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ เพราะตามกฎของพัฒนาการทางจิตวิทยาของเด็ก เด็กจะค่อยๆ สร้างความตระหนักทางเพศเมื่ออายุ 2-3 ขวบ และจะใช้คำว่า “เด็กชาย” หรือ “เด็กหญิง” ได้อย่างถูกต้องเมื่ออายุ 3 ขวบ ในช่วงเวลานี้ พ่อแม่ควรแสดงให้ลูกเห็นถึงความแตกต่างพื้นฐานทางเพศ
สอนให้เด็กรู้จักความเป็นส่วนตัว
พ่อแม่หลายคนรู้สึกว่าลูกยังเด็กและเรื่องความเป็นส่วนตัวยังไม่จำเป็น ความจริงแล้วคุณต้องสอนลูกเรื่องความเป็นส่วนตัวโดยเร็วที่สุดและต้องเป็นตัวอย่างให้พวกเขาด้วย เช่น เมื่ออยู่บ้านไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่โป๊เกินไป เมื่อออกไปข้างนอกไม่ควรสัมผัสร่างกายของใครโดยพลการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิเสธคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลของผู้อื่น
เมื่อเด็กรู้ว่าความเป็นส่วนตัวคืออะไร เขาจะค่อยๆ เรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากการถูกผู้อื่นละเมิด ในขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นวิธีที่เด็กเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง
ช่วยให้เด็กเข้าใจความแตกต่างระหว่างเพศ เด็กขาดความเข้าใจเรื่องเพศเมื่อยังเล็ก ดังนั้นพวกเขาอาจทำพฤติกรรมที่ไม่สุภาพกับเพื่อนต่างเพศโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ควรสอนให้เด็กรู้จักความตระหนักทางเพศโดยเร็วที่สุด และสอนให้เด็กเคารพเพศตรงข้ามและเคารพตนเอง ตัวอย่างเช่น สอนลูกที่บ้านให้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไม่แอบดูพ่อแม่ ไม่ให้เด็กแม้จะอายุน้อยเข้าห้องน้ำสาธารณะของเพศตรงข้าม…