รู้จัก ราชตฤณมัยสมาคมฯ “สนามม้าเลิ้ง” หลังครบรอบ 108 ปี เป็นมาอย่างไร
เปิดประวัติ ราชตฤณมัยสมาคมฯ “สนามม้าเลิ้ง” ตำนานการก่อสร้างครั้งแรกเพราะอะไร หลังมีข่าวทุ่ม 2 แสนล้านบาท เปิดตัวโครงการ “Entertainment Complex”
จากกรณีข่าวเปิดตัวโครงการ Entertainment Complex “สถานบันเทิงครบวงจร” ทุนสร้าง 2 แสนล้านบาท จากที่ประชุม งานสังสรรค์ระหว่างมวลสมาชิกของราชตฤณมัยสมาคม ครบรอบ 108 ปี ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ “สนามม้านางเลิ้ง” เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา
ทำให้ชื่อของสนามม้านางเลิ้งกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในโซเชียล ว่า สถานที่จัดแข่งขันม้าฯดังกล่าวเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงให้ความสำคัญกับการจัดธุรกิจบันเทิง กาสิโน สนามกอล์ฟ ฯลฯ ดังนั้นในบทความนี้ ทางเราจึงขอพาทุกท่านย้อนอ่านจุดเริ่มต้นของสถานที่ในตำนานแห่งนี้
จากการประพาสต่างแดน สู่ “สนามม้าไทย”
เดิมทีหลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จกลับจากประพาสยุโรปในปี พ.ศ. 2440 สโมสรน้ำเค็มศึกษา สมาคมของข้าราชการและนักเรียนที่เคยไปทำงาน ศึกษา หรือเดินทางไปยุโรป ได้ร่วมกับเจ้าของคอกม้าต่าง ๆ จัดแข่งม้าเทียมรถ เพื่อเป็นการต้อนรับและถวายความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 โดยปรับให้ท้องสนามหลวงกลายเป็นสนามแข่งม้าชั่วคราว
นับเป็นการจัดกีฬาแข่งม้าแบบตะวันตกครั้งแรกของประเทศไทย ในปี 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งราชกรีฑาสโมสร หรือที่เรียกกว่าว่า “สนามฝรั่ง” เพื่อเป็นทั้งแหล่งบันเทิงจำกัดวงสำหรับคนต่างชาติ
กระทั่งต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 6 พระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตตั้งสโมสรสนามม้า “สนามไทย” แข่งเพื่อให้บริการแข่งม้าสำหรับคนไทยและนำรายได้มาใช้บำรุงพันธุ์ม้าจากประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ ทรงมีพระบรมราชานุญาตพร้อมทั้งได้พระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม”
อีกทั้ง ทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2459 และพระราชทานนามว่า ราชตฤณมัยสมาคม รวมไปถึงยังทรงส่งม้าในคอกของพระองค์เข้าร่วมแข่งอีกด้วย โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ที่ 183 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ด้านสมาคมฯ ทำหน้าที่ในการดำเนินกิจการแข่งม้า จัดทำทะเบียนประวัติม้า เจ้าของและผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ สลับกันกับราชกรีฑาสโมสร และยังมีการให้บริการอื่น ๆ เช่น สนามเทนนิส, สระว่ายน้ำ, ห้องอาหาร จัดเลี้ยงต่าง ๆ
ภาวะจำเป็นกับปัญหาสัญญาเช่า “การแข่งขันม้านัดอำลา”
ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เช่าอาคารและที่ดินบริเวณสนามม้านางเลิ้งจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตามสัญญาที่ได้ลงนามจำนวน 3 ฉบับ ฉบับที่ 2976/2542 , 2977/2542 และ 2978/2542 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2542 นั้น โดยทั้ง 3 ฉบับ มีกำหนดอายุสัญญาเช่า 6 เดือน นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2542 เป็นต้นไป ในอัตราเช่าเดือนละ 30,000 บาท, 10,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ สัญญาเช่าทั้ง 3 ฉบับได้ครบกำหนดอายุสัญญาเช่ามานานแล้ว และสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จำเป็นต้องใช้ที่ดินและอาคารดังกล่าว จึงไม่สามารถให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ เป็นผู้เช่าได้อีกต่อไป ซึ่งสำนักงานฯ ได้ประสานและแจ้งให้ราชตฤณมัยสมาคมฯ ทราบในเบื้องต้นแล้ว สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จึงบอกเลิกสัญญาเช่าสนามม้านางเลิ้งและขอให้ส่งมอบสถานที่เช่าภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561 ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ตุลาคม
หลังจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า ราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้จัดการแข่งม้าวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561 และได้ส่งมอบพื้นที่คืนตามกำหนดคือก่อนวันที่ 4 ตุลาคม จากนั้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 จึงได้ทำการรื้อถอนสนามม้า
หลังจากนี้ อดีตสนามม้านางเลิ้ง จะถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานคร ซึ่งภายในโครงการนี้มีดังนี้
- สวนสาธารณะประมาณ 216 ไร่
- อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
- จอดรถใต้ดิน 3 ชั้น รองรับรถยนต์ 700 คัน
- ร้านค้าของชุมชนนางเลิ้ง
- อาคารจอดรถโรงพยาบาลรามาธิบดี
อีกทั้งในแง่มุมอื่นนอกจากการแข่งขันม้า ราชตฤณมัยสมาคมฯ ยังเป็นสถานที่ที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์การเมืองไทยอีกด้วย เช่น รัฐบาลในสมัย สัญญา ธรรมศักดิ์ ได้ใช้ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นสถานที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติ ที่มีจำนวน 2,347 คน เป็นที่มาของฉายา “สภาสนามม้า”
ก่อนที่ต่อมาในวันที่ 28 ตุลาคม 2555 ยังใช้เป็นสถานที่จัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘เศรษฐา’ โพสต์หนุนสถานบันเทิงครบวงจร ย้ำไม่ได้ส่งเสริมการพนัน
- ‘พิพัฒน์’ หนุน กาสิโนถูกกฎหมาย ชี้สร้างงาน เพิ่มนักท่องเที่ยว
- บ่อนย่านปิ่นเกล้า สุดไฮเทค มีปุ่มถ้าตำรวจมา กดแล้วระบบปิดหมดทันที