เรื่องเล่าเช้านี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปาดน้ำตา ตอบสรยุทธ ยังไม่ได้เล่าเรื่องถูกยุบพรรคให้ลูกสาว พิพิม ฟัง ตอบฉะฉานมาตลอดตั้งแต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดวันเลือกตั้ง คนไม่มั่นใจจะมาแทนธนาธร เข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น ทั้งที่ไฟเผาหัวอยู่ แต่ก็ผ่านมาได้ กระทั่งวันนี้ที่ต้องมาออก กรรมกรข่าว คุยนอกจอ
“มีแต่คนบอกว่าแย่แน่” ประโยคจั่วหัวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่วันนี้ ได้เชิญ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำทีมมาเปิดใจ หลัง ก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง พร้อมตัดสิทธิการเมือง 10 ปี
“คุณพิธาตอนนั้นขึ้นมาใหม่ จำได้ใช่ไหมที่เดินมากับธนาธร แล้วก็มานำพรรคก้าวไกล ในเวลา 4 ปีเกือบ ๆ แล้วก็มานำการเลือกตั้ง ถูกไหม แล้วสุดท้ายอยู่หลังการเลือกตั้งได้ปีเดียว ระหว่างนั้นถูกเว้นวรรคไปหลายเดือนด้วย”
ในรายการได้มีการร่ายถึงเส้นทางของพิธา และอดีตพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ตอนที่ขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ท่ามกลางกระแสที่ถูกจับตาในการก้าวขึ้นมาแทน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ก็ถูกยุบเช่นเดียวกัน
“จากที่เคยขึ้นสู่จุดวันที่ประกาศชัยชนะ วันที่ชนะเลือกตั้งเลยอ่ะ ผมกำลังเข้าใจความรู้สึกคุณ คือความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง”
หลังพยายามจับประเด็นคำถามจากผู้ประกาศข่าวคนดัง พิธา ก็เริ่มค่อย ๆ ร่ายเรียงเส้นทางที่ผ่านมาอีกครั้ง ยอมรับตนเองรู้สึกภูมิใจแม้ที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหลายเรื่อง มีการต่อสู้ที่ตนสู้คนเดียวที่อยู่ข้างใน ที่ต้องเก็บเอาไว้ บริหารจัดการทุกวัน และรู้ตัวเองดีว่าต้องแสดงความเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่นทั้งที่ไฟเผาหัวเราอยู่ แต่ก็ผ่านมาได้ จึงภูมิใจกับตัวเองสิ่งที่ได้ผ่านมา
“เพราะว่าของผมนี่ก็คือว่า ตามรอยคุณธนาธร พรรคที่อ่า โดนกล่าวหาว่าหัวรุนแรงมากที่สุด ผมเองก็ต้องมาต่อ ลูกก็ยังเล็ก ผมเองนี่ผ่าคอก่อนคุณทักษิณนะ หมอนรองคอกระดูกเคลื่อนปี 44-45 ก็เกิดอุบัติเหตุตอนที่ขึ้นมาใหม่ ๆ คนก็ไม่มั่นใจคนจะมาแทน ธนาธรได้หรือเปล่า”
กล่าวมาถึงตรงนี้ พิธายอมรับว่าก็ต้องสู้มาตั้งแต่ขึ้นมาเป็นตัวชูโรง แถมต่อมาก็ยังเจอโควิดเล่นงาน พี่น้องจำนวนมากได้รับผลกระทบ สู้ศึกเลือกตั้งเกมที่เขาดีไซน์มาให้แพ้ ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ ว่าจะชนะ แต่พิธาก็ย้ำชัดเจน “ไม่เคยถอดใจข้างใน” เพราะเสียงที่คุยกับตัวเอง มันสำคัญมากกว่าเสียงที่คนอื่นพุดกับผม เป็นบทเรียนที่ค่อย ๆ สะสมมาเรื่อย
นาทีสรยุทธ จี้ถาม เรื่องที่ยากที่สุดตอนนี้
“สรยุทธ” ถามกับพิธาช่วงหนึ่ง ถึงสิ่งยากที่สุดตอนนี้คืออะไร ? ซึ่งแขกรับเชิญที่ตอนนี้ต้องทำงานการเมืองในฐานะพลเมืองก็กล่าวว่า ปัจจุบันก็มีสิ่งท้าทายมาเรื่อย ๆ แต่ที่บริหารจัดการได้ก็เพราะเอาสิ่งที่ท็อกซิก (Toxic) เป็นพิษออกไปได้ มีอะไรก็ปรึกษา ศิริกัญญา ตันสกุล บ่อยหน
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกถามว่า “บอกลูกยังไง ?” ซึ่งพอสิ้นเสียงคำถามดังกล่าว จู่ ๆ พิธาก็เกิดอาการผิดแปลกทันที สีหน้าเปลี่ยนจากมั่นใจ สบาย ๆ มาเป็นหน้าถอดสี ก่อนยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา แล้วตอบกับสรยุทธ ผู้ดำเนินรายการว่า ยังไม่ได้บอกเรื่องการเมืองล่าสุดให้ น้องพิพิม ลูกสาวฟังเลยตั้งต่เกิดเรื่องย พรรคก้าวไกลที่ตนเองเป็นหัวเรือใหญ่ถูกยุบ
“วันที่ต้องเดินออกจากสภา ที่..ที่ ศาลรัฐธรรมนูญมาบอกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เขาร้องไห้ ผมก็ไม่รู้ว่าทราบได้ยังไง แต่กลับบ้านเขาร้องไห้กับพ่อ
“วันอาทิตย์ที่ไปราชบุรีด้วยกัน เขาก็ถาม พรุ่งนี้ พ่อต้องไปศาลใช่ไหม แต่ว่าเขาก็เหมือนกับแค่ถามว่าต้องไปศาลแต่เขาก็ไม่รู้คงจะเกิดอะไร”
“แต่ว่านี่ก็ยังไม่ได้เจอกัน เขาอยู่กับแม่อยู่ วันศุกร์นี้ถึงจะได้เจอกัน แต่ว่าผมก็คิดถึงสิทธิเด็ก ไม่อยากให้ลูกต้องมารู้อะไรมากเกิน”. พิธา ให้สัมภาษณ์กับสรยุทธ ในรายการกรรมกรข่าวฯ เมื่อช่วงสาย ๆ ที่ผ่านมา.
“พิธา” ร้องไห้ปาดน้ำตา ยังไม่ได้เล่าให้ลูกสาวฟังหลังถูกยุบพรรคก้าวไกล ด้าน “ศิริกัญญา-ชัยธวัช” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ตามด้วย#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวการเมือง #กรรมกรข่าวคุยนอกจอ #พิธา ##ก้าวต่อไป pic.twitter.com/jT7MlyVbZJ
— เรื่องเล่าเช้านี้ (@MorningNewsTV3) August 8, 2024
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชัชชาติ ให้กำลัง ก้าวไกล-พิธา โพสต์เนื้อเพลงดัง อดทนเวลาฝนพรำ
- พิธา โพสต์อำลา เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ชาติ-ปชช. สัญญาจะกลับมา
- ก้าวไกล แถลงย้ำจุดยืน เก็บความแค้นใจ ระเบิดที่คูหา อุบ 9 ส.ค. ย้ายไปบ้านใหม่
