พิพากษาจำคุก 51 ปี หนุ่มไทยเยอรมัน อัดคลิปย่ำยีลูกสาว ขายเว็บ ตปท.
ศาลพิพากษาจำคุก 51 ปี หนุ่มไทยเยอรมัน อัดคลิปย่ำยีลูกสาว อายุต่ำกว่า 13 ปี ก่อนขายเว็บต่างประเทศ ก่อนลดโทษเหลือ 25 ปี 6 เดือน
ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษา คดีละเมิดทางเพศผู้สืบสันดาน หมายดำที่ อ 1111/2567 หมายเลขแดงที่ อ 2173/2567ที่พนักงานอัยการคดีอาญา เป็นโจทก์ฟ้องนายโทนี่ (สงวนนามสกุล) หนุ่มสัญชาติไทย -เยอรมัน เป็นจำเลย กระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ที่เป็นผู้สืบสันดาน อนาจารเด็กต่ำกว่า 13 ปี และบันทึกภาพหรือเสียงของการกระทำชำเรา หรือการกระทำอนาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 มาตรา 285 มาตรา 280/1 มาตรา 287/1 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (9) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 14 (4)
สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายโทนี่ ที่บ้านหลังดังกล่าวโดยพบของกลางเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก บรรจุไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็ก รวมทั้งมีภาพของผู้เสียหาย เมื่อช่วงมกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการบรรจุเก็บภาพมากกว่า 10,000 ภาพนั้น
โดยปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Bundeskriminalamt : BKA) ส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานภาพถ่ายและวิดีโอ มาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีบุคคลผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจกระทำที่มีลักษณะล่วงละเมิดทางเพศเด็กอย่างต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทย และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ลงในดาร์กเว็บแห่งหนึ่งและเผยแพร่ไปในประเทศเยอรมัน
โดยข้อมูลการสืบสวนพบว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย-เยอรมัน ปัจจุบันอาศัยอยู่จังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้ล่วงละเมิดบุตรสาวของตนเองด้วย
ต่อมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมนี สืบสวนข้อมูลเชิงลึกทั้งทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ในดาร์กเว็บต่าง ๆ ประกอบข้อมูลอื่น ๆ ที่ยากต่อการเข้าถึงของบุคคลทั่วไป รวมทั้ง จากดาร์กเว็บเป้าหมาย
พบว่า จำเลยปัจจุบันอาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบุตรสาว 1 คน ที่เกิดกับหญิงไทย เป็นเด็กหญิงที่ถูกล่วงละเมิด กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (Operation Underground Railroad : O.U.R)
เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสืบสวนประกอบการวิเคราะห์และเปรียบเทียบพยานหลักฐานต่าง ๆ ทางข้อมูลอินเทอร์เน็ตและข้อมูลภาพนิ่งและวิดีโอการกระทำล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Abuse Material – CSAM)
มีหลายจุดบ่งชี้ว่า จำเลยได้กระทำล่วงละเมิดบุตรสาวจริง ความผิดฐาน กระทําชําเราเด็กอายุยังไม่เกิน13ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทําอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำชำเราแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมสายโลหิตฯ
ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก) และ (ข) เป็นคดีพิเศษที่ 123/2566 และได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาออกหมายจับนายโทนี่ พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก บรรจุไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็กหญิงผู้เสียหายได้ที่บ้านพักแจ้งข้อหาดำเนินคดี
จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตาม ฟ้องจริงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม จำคุกจำเลย รวม 51 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยรวมทั้งสิ้น 25 ปี 6 เดือน และริบของกลาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง