‘นัท เลอทาน่า’ เจ้าของโรงแรมดัง โดนฟ้องลิขสิทธิ์เพลง ‘ทนได้ทนไป’ หลังเคยจ่ายค่าละเมิด 5 หมื่นให้ ‘ไบร์ท’ เจ้าของเพลง ‘ถอนตัว’ พร้อมเผยถูก ‘ไบร์ท’ บันทึกคลิปเล่นเพลงอื่น ๆ ไว้ฟ้องร้องภายหลัง รวม 11 เพลง เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท
เมื่อไม่นานนี้ “นัท เลอทาน่า” หรือ “กิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย” นักร้องเจ้าของโรงแรมและร้านอาหารชื่อดังย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ Letana Hotel & Restaurant โพสต์คลิปผ่านบัญชี TikTok แชร์ประสบการณ์ถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ทนได้ทนไป” ของ “นก วงเฉลียง” ซึ่งขับร้องโดยวงออโต้บาห์น พร้อมเพลงอื่น ๆ อีก 9 เพลง รวม 11 เพลง เป็นเงินค่าปรับจำนวน 1 ล้านบาท โดยมี “ไบร์ท วงเฉลียง” เป็นผู้รับมอบอำนาจฟ้องร้อง
เรื่องราวเริ่มต้นจากที่ “นัท เลอทาน่า” ถูกแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ถอนตัว” ของเบิร์ดกะฮาร์ท ซึ่งเป็นเพลงที่ทางร้านนำมาเล่นสดและเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงค่าเสียหายกันที่ 50,000 บาท และ นัทได้ลบคลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์ออกทั้งหมด พร้อมทั้งพยายามศึกษาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
หลังจากนั้นผ่านไปเพียง 1 เดือนให้หลัง นายวรวิทย์ นิมมานศิริกุล หรือ ไบร์ท ก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์อีก 10 เพลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงของ “นก วงเฉลียง” เช่น “ใจนักเลง”, “ใจบางบาง”, “ละลาย”, “ถอยดีกว่า” โดยเรียกค่าเสียหายเพลงละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับ “นัท เลอทาน่า” เป็นอย่างมาก เพราะเขาได้ลบคลิปเพลงเหล่านั้นออกไปแล้วหลังจากถูกแจ้งครั้งแรก
“นัท เลอทาน่า” ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ไบร์ท” น่าจะบันทึกคลิปเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์เอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาแจ้งเรื่องเพลง “ถอนตัว” แต่กลับไม่แจ้งทั้งหมดในคราวเดียว รอจนจัดการเรื่องเพลงของตัวเองเรียบร้อยแล้วค่อยนำเพลงของ “นก วงเฉลียง” มาเรียกค่าเสียหายเพิ่ม
@letana_24hrs ถ้าการเผยแพร่ความจริง ที่เป็นประโยชน์แก่คนที่ได้ฟังเรื่องนี้ จะทำให้ผมต้องจ่ายแพงขึ้น ผมยอมเพราะมันคุ้ม วันนี้ผมจะมาแชร์ถึงเหตุผลที่ได้อัดวิดีโอโพสต์เรื่องโดนฟ้องลิขสิทธิ์เมื่อวาน การละเมิดลิขสิทธิ์ โดยตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจ ยังไงก็ผิดอยู่แล้วครับ แต่ไหนๆจะผิดแล้ว ผมอยากให้ “ความผิดพลาด” ของผม เป็นตัวอย่าง! ให้กับคนที่ต้องเจอเรื่องนี้ในอนาคต หรือคนที่กำลังเผลอ จะทำผิด ให้เค้าฉุกคิดได้ ไม่มากก็น้อย เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นได้บ้าง ส่วนค่าเสียหายมันจะเท่าไหร่ ขอให้เป็นดุลพินิจ ของศาล ว่าศาลจะให้จ่ายเท่าไหร่ ผมยินดีจะทำให้ถูกต้อง ตรงนี้ผมอยากรู้จริงๆ ว่าค่าเสียหายมันจะเท่าไหร่กันนะ ตัสผมไม่ได้ ต้องการสู้ให้ชนะ เพราะ ผมรู้ดีว่า สินค้า(เพลง) เค้าก็มีต้นทุน อันนี้เข้าใจดีมาก แต่ถ้าผมจ่ายตามที่ ผู้ได้รับอำนาจมานั้น เรียกทันที ผมจะไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง และ ผมจะไม่ได้ประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง และไม่ได้ความรู้ ให้ตัวเอง องค์กร และ มาบอกต่อให้พี่ๆน้องได้ เรียนรู้ไปด้วยกัน ว่าเคสเเบบนี้มันจะจบกันได้อย่างไร แพงกว่าเรียก พอๆกับที่เรียก หรือ น้อยกว่าที่เรียก เพราะเรื่องลิขสิทธิ์ เป็นเรื่องซับซ้อนมาก เป็นสินค้าที่มีรายละเอียดอ่อนสูง ทุกความคืบหน้า ของคดีนี้ ผมจะมาคอยอัพเดท แบบทุกฝีก้าว แบบเรียวไทม์ แบบชัดเจน แบบไม่หมกเม็ด และเล่าให้พี่น้องทุกคนฟังเรื่อยเรื่อย แบบนี้ครับ ครับ มีผู้หวังดีมากมายนะครับ ที่หลังไมค์มาบอกว่า คุณ นัดเอาเรื่องนี้มาเผยแพร่แบบนี้ บอกชื่อบุคคล ระวังจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทนะ คือเค้าก็เตือนด้วยความเป็นห่วง นั่นแหละ อันนี้ผมก็เข้าใจดี ครับ แต่ผมกลับคิดอีกแบบ ว่า ถ้าผมไม่เปิดเผยชื่อ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเพลงชื่อผู้แต่งชื่อเจ้าของเพลงเหล่านั้น หรือชื่อ ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจมา คนที่มาเรียกเก็บค่าเสียหาย ทั้งทั้งที่มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แล้วมันมีประโยชน์อะไรเล่า กับคนที่จะได้ฟังเรื่องนี้ ผมคิดว่า ทุกคนควร จะได้รู้ว่า สินค้าเหล่านี้ มันมีราคาเท่าไหร่ เป็นของใคร จ่ายยังไง จ่ายที่ใคร แล้วถ้าไม่จ่ายใครจะมาเรียกเก็บ ถ้า ผม ไม่บอก ไม่เล่า ความจริงทั้งหมดทั้งหมด ก็ไม่ต้องเล่าไปเลยเสียดีกว่า เพราะในไหนจะเล่า ก็ต้องเล่าความจริงทั้งหมดทั้งหมด รายละเอียดทั้งหมด เพื่อ เรื่องนี้ จะเป็น ประโยชน์สูงสุด แก่มวลมนุษยชาติ ที่ ยังคง ต้องข้องเกี่ยว กับเรื่อง ลิขสิทธิ์
จากเหตุการณ์นี้ “นัท เลอทาน่า” ได้เรียนรู้บทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับความสำคัญของลิขสิทธิ์เพลง และความเข้าใจผิดที่ว่าการมีสิทธิ์เล่นเพลงในร้านจะสามารถนำไปเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์ได้
@letana_24hrs 🙏 ด้วยความเคารพ 🙏 และ ขอบคุณ พี่ ฉัตรชัย ดุริยปราณีต ที่ ออกมาตอบคอมเม้นต์ ของคนที่อยากรู้เรื่องลิขสิทธิ์ (มีคนแคปส่งมาให้ดู ไม่รู้ว่าเม้นท์ของใครนะครับ) พี่ ฉัตรชัย ตอบว่า “ค่าลิขสิทธิ์ แบบถูกต้อง ก็แค่หลักพันหลักหมื่นครับ” “ส่วนที่เป็นหลักล้าน พวกนั้นเค้าเอาไปใช้ ทางช่องทีวีได้ทั้งปีครับ” อันนี้ดีมากเลยนะครับ ที่เจ้าของเพลง อย่างพี่ฉัตรชั ยดุริยประณีต ที่มีเพลงดังมากมาย และ เป็นศิลปินเป็นไอดอลของใครหลายๆคน ออกมาพูดถึงค่าลิขสิทธิ์แบบถูกต้อง ให้พวกเรา คนธรรมดา คนที่ไม่ได้รู้ลึกซึ้ง ได้ ทราบว่ามันไม่ได้แพง อย่างที่เราคิด อันนี้ขอบคุณมากๆ จากใจเลยครับ 🙏🙏 แต่ด้วยความเคารพนะครับ🙏 ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากเลยครับ ความสงสัยเกี่ยวกับค่าละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อถูกละเมิดไปแล้ว ที่ไม่ได้ตั้งใจ ว่าทำไมค่าละเมิด มันถึงไม่จำกัด และ แพงกว่า ค่าลิขสิทธิ์แบบถูกต้องไป มาก หลายคนไม่ได้อยาก จะไม่จ่าย แต่เพราะว่ามันสูงจนจ่ายไม่ไหว อ้างอิงจาก ตามที่ผม ได้รับ ตัวเลขค่าละเมิด เพลงละแสน 10เพลง ก็1ล้าน จากผู้รับมอบอำนาจ จากพี่ฉัตรชัย อีกที คือพี่ไบรท์ วรวิทย์ อันนี้เป็นคำถามแบบที่ คนธรรมดา คนไม่รู้คนหนึ่งตั้งคำถาม ผมอยากให้ เจ้าของเพลง หรือ คนที่มีมีความรู้ลึกซึ้ง ได้ออกมาอธิบาย ในค่าละเมิดด้วย ถือว่าเป็นวิทยาทาน และเป็นคำเตือน เป็นความรู้ให้แก่คนทั่วไป ผมมองว่า โดยส่วนใหญ่ ย้ำนะครับว่าโดยส่วนใหญ่ ในการละเมิด เนี่ย มันมัก เป็นอุบัติเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีอีกโพสต์นึงนะครับ ที่พี่ฉัตรชัยดุริยปราณีตโพสต์ไว้ ใน Facebook : Chatchai Duriyapraneet (มีคนแคปส่งมาให้อ่าน) พี่ฉัตรชัยโพสต์ว่า “ทำไมเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ถึงต้องฟ้องร้องการละเมิดลิขสิทธิ์ มันก็เหมือนโดนขโมยขึ้นบ้านถ้ารู้ตัวขโมย ก็ต้องแจ้งความให้ตำรวจไปจับ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงมีคนเข้าตามตรอกออกตามประตู ขอใช้อย่างถูกต้องตามกฏหมายอยู่ตลอดเวลา ถ้าปล่อยให้โจรขโมยใช้ฟรีฟรี ก็คือไม่ยุติธรรมกับคนที่เคารพกติกาด้วย บางคนละเมิดลิขสิทธิ์เตลิดเปิดเปิง เกินกว่าคำว่าร้องเล่นในร้านอาหารไปไกลโข คนทำผิดสมัยนี้เค้าต่อสู้ดิ้นรน ไม่ยอมรับความผิดกันง่ายง่าย มีให้เห็นทุกวงการ ในสังคมไทยทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมายบ้านเมือง“ อันนี้ผมเห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยมากๆนะครับ สำหรับ ความยุติธรรม กับคนที่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ถูกต้อง เพราะผมเองก็จ่ายค่าลิขสิทธิ์เหมือนกัน ผมจ่าย ให้บริษัท แกรมมี่ 1,002,000 บาท แต่ใช้เพลงเค้าได้ทั้งค่าย รวมออนไลน์ อาร์เอส 62,100 บาท แต่ใช้เพลงเค้าได้ทั้งค่าย รวมออนไลน์ และ เอ็มพีซี 128,400 บาท ซึ่งมีเพลงของพี่ฉัตรชัยดุริยประณีต อยู่ในนั้นด้วย แต่เผอิญ!!!! ไม่ได้รวมลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้ใครใครก็เล่นออนไลน์ทั้งนั้น แล้วถ้าลงออนไลน์ไม่ได้จะไปโฆษณาที่ไหนได้ นั่นหมายความว่า ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นขโมยปล้นบ้านครับ ผมคิดว่า คนอื่นๆส่วนมาก ก็เหมือนกัน เราต้องการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงตัว และองค์กร ผมไม่ได้มีเจตนาจะขโมย และไม่ได้มีเจตนาจะไม่จ่าย ถ้าค่าใช้จ่ายนั้นมันสมเหตุสมผล ผมยินดี และผมก็รักเพลงของพี่มาก ผมยินดีจะซื้อ ลิขสิทธิ์ เพลงเหล่านี้ เพื่อมาร้องมาเล่น ถ้ามันเป็นไปตามราคาลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง เหมือนเหมือนกับที่พี่ได้ให้ความรู้เอาไว้ ว่าค่าลิขสิทธิ์แบบถูกต้องจริงๆแล้วมันแค่หลักพันถึง หมื่น ด้วยความเคารพจากแฟนรุ่นน้องรุ่นหลาน อย่างผม คนหนึ่ง ที่เป็นแฟนตัวยง ของ พี่ฉัตรชัย ดุริยปราณีต ที่รักและชื่นชอบ ผลงานของพี่มากๆ ขอความเห็นใจจากพี่ ด้วยความเคารพจากผม นัท เลอทาน่า ครับ 🙏🙏🙏
นอกจากนี้ เขายังได้เปิดเผยว่าทางร้านได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับค่ายเพลงต่างๆ เช่น แกรมมี่, อาร์เอส และ MPC เป็นจำนวนเงินรวมกว่าล้านบาท เพื่อให้สามารถใช้เพลงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
@letana_24hrs สิบเอ็ดเพลงที่โดนเรียกเก็บมาเพลงละแสน กับการละเมิดโดยไม่ได้ตั้งใจ เก้าเพลง ในสิบเอ็ดเพลงนี้ เราซื้อลิขสิทธิ์ผ่านบริษัทเอ็มซีที แต่ดัน ไม่ได้รวมลิขสิทธิ์ทางออนไลน์
แม้ว่า “นัท เลอทาน่า” จะยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เขาก็ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของค่าเสียหายที่เรียกเก็บ และอยากให้เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงพิจารณาค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร
อย่างไรก็ตามทางด้านของไบร์ท ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Bright Worawit Nimmansirikul กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา คือความถูกต้องชอบธรรม ความในใจ ของผู้ประพันธ์เพลง พี่นก ฉัตรชัย ดุริยประณีต วงเฉลียง ไบรท์ ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่นก ด้วยความเคารพรักนับถือเสมอ ครับ”
โพสต์ดังกล่าวได้ยกข้อความจากบนเฟซบุ๊กของ พี่นก ฉัตรชัย (Xhatchai Duriyaparaneet) ซึ่งระบุว่า
“ทำไมเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาถึงต้องฟ้องร้องเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์ มันก็เหมือนโดนขโมยขึ้นบ้าน ถ้ารู้ตัวขโมย ก็ต้องแจ้งความให้ตำรวจไปจับ เรื่องลิขสิทธิ์เพลง มีคนเข้าตามตรอก ออกตามประตู ขออนุญาตใช้ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ตลอดเวลาถ้าปล่อยให้โจร ขโมย ใช้ฟรี ๆ ก็คือไม่ยุติธรรมกับคนที่เคารพกติกาด้วย
บางคนละเมิดลิขสิทธิ์เตลิดเปิดเปิง เกินกว่าคำว่าร้องเล่นในร้านอาหารไปไกลโข คนทำผิดสมัยนี้เขาต่อสู้ดิ้นรน ไม่ยอมรับความผิดกันง่าย ๆ มีให้เห็นทุกวงการในสังคมไทย ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง
ถ้ามีใครเออออห่อหมกกับอีกฝ่าย ถึงขั้นมาด่าผม ถ้าเข้าข่ายหมิ่นประมาท ผมจะฟ้องร้องทันที ไม่รับกระเช้า แล้วก็ไม่ต้องแชร์อะไรมาให้ผมดู ผมขี้เกียจอารมณ์เสีย ตามนั้น”
อ้างอิง : TikTok Letana