การเงินเศรษฐกิจ

ทำงานกรุงเทพ ค่าที่พัก ควรไม่เกินกี่ % ของเงินเดือน คำนวณสูตรเซฟรายได้

แนะนำคนต่างจังหวัดมาทำงานกรุงเทพ ค่าเช่าห้องควรเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เลือกทำเลใกล้ที่ทำงานหรือใกล้รถไฟฟ้า คิด “ค่าเช่า + ค่าเดินทาง” ยังไงให้ไม่ชักหน้าไม่ถึงหลัง

ตั้งใจมาหาเงิน อย่าให้ค่าห้องกินเกินครึ่งเงินเดือน

ค่าห้อง ต้องไม่กลายเป็นหลุมดำดูดเงินเดือน หลักคิดง่าย ๆ คือให้มอง ค่าที่พักกับค่าเดินทาง รวมกันเป็นก้อนเดียว ไม่ใช่ดูค่าห้องอย่างเดียวแล้วลืมค่ารถ ค่าน้ำมัน

กฎพื้นฐาน ค่าเช่าห้องไม่ควรเกิน 25–30% ของรายได้

  • ปลอดภัยสบายใจ ค่าเช่าไม่เกิน 25% ของรายได้สุทธิ
  • พอรับได้ในกรุงเทพ ไม่เกิน 30% ของรายได้สุทธิ
  • เกิน 30% ขึ้นไป เริ่มอึดอัด เหลือเงินกินใช้และเก็บออมยาก

รายได้สุทธิ = เงินเดือนหลังหักประกันสังคม + หนี้หักหน้าบ้านต่าง ๆ แล้ว

ตัวอย่าง

เงินเดือนสุทธิ 18,000 บาท

  • 25% = 4,500 บาท
  • 30% = 5,400 บาท
  • ค่าเช่าที่ควรเล็ง: 4,000–5,000 บาท/เดือน

เงินเดือนสุทธิ 25,000 บาท

  • 25% = 6,250 บาท
  • 30% = 7,500 บาท
  • ค่าเช่าที่เหมาะสม ราว 6,000–7,000 บาท/เดือน

ถ้าเช่าห้องเกินตัว เช่น เงินเดือน 18,000 แต่เช่า 7,000 ยังไม่รวมค่าน้ำไฟ ค่าเดินทาง โอกาสที่ปลายเดือนต้องรูดบัตร/ยืมเพื่อน มีสูงมาก

อย่าดูค่าเช่าอย่างเดียว ต้องคิดค่าเดินทางเผื่อไปด้วย

กรุงเทพไม่ใช่เมืองเล็ก ๆ ถ้าเลือกมุมเมืองผิด ชีวิตเปลี่ยนได้เลย ทั้งเวลา ทั้งเงิน แนวคิดง่าย ๆ ค่าเช่า + ค่าเดินทาง ไป–กลับทำงานต่อเดือน รวมกันไม่ควรเกิน 45–50% ของรายได้สุทธิ เช่น รายได้สุทธิ 20,000 ตั้งเพดาน ที่อยู่เดินทาง = 50% → 10,000 บาท

จากนั้นลองเปรียบเทียบ 2 แบบ

ห้องถูก แต่ไกล

  • ค่าเช่า 4,000
  • ค่าเดินทางวันละ 120 (ไป–กลับ) → เดือนละประมาณ 2,640–3,000 บาท

รวม = ราว 6,500–7,000 บาท

ยังถือว่าโอเค ถ้ารับได้กับเวลาที่เสียไปบนถนน

ห้องแพงขึ้น แต่ใกล้งาน

  • ค่าเช่า 6,500 (เดินถึง/ต่อรถเมล์แค่ช่วงสั้น ๆ)
  • ค่าเดินทางเหลือเดือนละ 800–1,000
  • รวม = ราว 7,500 บาท

ตรงนี้ต้องถามตัวเองว่า ส่วนต่างเงินประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน แลกกับ เวลานอนเพิ่ม ลดความเครียดตอนรถติด สุขภาพดีขึ้น เพราะเดินถึง/นั่งรถไม่นาน

ถ้ารวมแล้ว ค่าเช่าที่ใกล้งานค่าเดินทาง ไม่ได้แพงกว่าทางเลือกไกลมากแบบมีนัยยะ และคุณได้ “เวลา + สุขภาพ” กลับมา อันนี้ส่วนใหญ่จะคุ้มกว่าในระยะยาว

จะเลือกทำเลไหนดี ใกล้ที่ทำงานเสมอไปไหม ทำเลที่น่าเล็งสำหรับมนุษย์เงินเดือน

ใกล้ที่ทำงาน เดินถึงหรือรถต่อเดียว ดีสำหรับคนเลิกงานดึก ทำโอทีบ่อย ลดความเสี่ยงกลับบ้านดึก ๆ ไกล ๆ ยอมจ่ายค่าเช่าเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ได้ชีวิตที่เบาลง

ใกล้รถไฟฟ้า/ท่าเรือ/สายรถเมล์หลัก เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านกลางเมือง เช่น สีลม สาทร อโศก พระราม 9 อาจอยู่โซนรอบนอกหน่อย แต่เดินทางเข้าเมืองสะดวก เช่น ริมสายสีลม/สุขุมวิท โซนบางนา, พระโขนง, รามคำแหง, ห้วยขวาง ฯลฯ ดูค่ารถต่อเดือนให้ดี บางทีค่ารถไฟฟ้าทุกวันก็แรงเหมือนกัน

ทำเลที่ใกล้ทั้งที่ทำงานและแหล่งกินข้าวราคาคนทำงาน มีตลาด, แผงลอย, ร้านข้าวแกง ไม่ต้องกินห้างทุกมื้อ ซึ่งเปลือง

กรณีไม่ควรอยู่ไกลเกินไป

ทำงานกะดึก เลิกดึกเป็นประจำ สุขภาพไม่ค่อยดี นอนไม่พอแล้วมีผลกับร่างกาย งานใช้พลังเยอะ ถ้าต้องเสียเวลาเดินทางอีก 2–3 ชม. ต่อวัน จะหมดแรงง่าย แบบนี้ เน้นใกล้ที่ทำงานไว้ก่อน ถึงค่าเช่าจะแพงขึ้นบ้าง แต่ช่วยให้รักษาสุขภาพและทำงานได้นานกว่า

สูตรคิดง่าย ๆ 3 ขั้นตอน ก่อนตัดสินใจเช่าห้อง

ขั้นที่ 1 คิดรายได้สุทธิ

เอาเงินเดือนหลังหักประกันสังคม + รายได้ประจำอื่น ๆ
เช่น

  • เงินเดือน 20,000
  • หักประกันสังคม 750
  • หักผ่อนอะไรที่หักจากเงินเดือน 2,000
    → รายได้สุทธิจริง ๆ = 17,250 บาท

ขั้นที่ 2:ตั้งเพดาน

ค่าเช่า → ไม่เกิน 25–30%

ค่าเช่า + ค่าเดินทาง → ไม่เกิน 45–50%

จากตัวอย่าง 17,250 บาท ค่าเช่าที่เหมาะสม: ไม่เกิน 4,000–5,000 ที่พัก + เดินทางรวม: ไม่เกิน 8,000–8,500

ขั้นที่ 3 เทียบ 2–3 ทำเลด้วยตัวเลขจริง

ก่อนจองห้อง ลองทำตารางเล็ก ๆ เทียบแบบนี้

ตัวเลือก ค่าเช่า/เดือน ค่าเดินทาง/เดือน (ประมาณ) รวมต่อเดือน เวลาเดินทาง/วัน
A ใกล้งาน 6,000 800 6,800 ไป–กลับ 40 นาที
B ถูกแต่ไกล 4,000 2,800 6,800 ไป–กลับ 2 ชม.
C กลาง ๆ 5,000 1,800 6,800 ไป–กลับ 1.5 ชม.

ตัวเลขรวมอาจเท่ากัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ เวลา และ ความเหนื่อย ตรงนี้แหละที่ต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง

ค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องถามให้ชัดก่อนเซ็นสัญญา

เวลาถามห้องเช่า อย่าดูแต่ค่าเช่าหน้าป้าย ต้องถามเพิ่มด้วยว่า

  • ค่าน้ำหน่วยละเท่าไหร่ (บางที่คิดเหมาแพงมาก)

  • ค่าไฟหน่วยละเท่าไหร่ (หอที่คิดหน่วยละ 8–10 บาท บางทีแพงกว่าอยู่คอนโดคิดตามหลวง)

  • ค่าส่วนกลางลิฟต์/รักษาความปลอดภัย/ที่จอดรถ มีไหม เดือนละเท่าไหร่

  • มี ค่าอินเทอร์เน็ตส่วนกลาง หรือเราต้องติดเอง

  • มัดจำกี่เดือน ล่วงหน้าเท่าไหร่ ต้องเตรียมเงินก้อนเท่าไหร่วันย้ายเข้า

ถ้าค่าน้ำไฟแพงมาก ต่อให้ค่าเช่าถูกก็อาจไม่คุ้ม

ทริคเล็ก ๆ สำหรับคนต่างจังหวัดเพิ่งมาเริ่มชีวิตในกรุงเทพ

  1. ช่วงแรกอาจเริ่มจากหอราคาไม่แรงก่อน

    • รอดูว่างานมั่นคงไหม

    • ดูว่าจริง ๆ แล้วเราชอบย่านไหน ใช้ชีวิตแถวไหน

  2. แชร์ห้อง/แชร์บ้านกับเพื่อนร่วมงาน

    • ทำให้ค่าเช่าต่อคนต่ำลง

    • แต่ต้องเลือกคนที่นิสัยอยู่ร่วมกันได้ ไม่งั้นเครียดกว่าเดิม

  3. เตรียมเงินสำรองอย่างน้อย 2–3 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน

    • เผื่อเปลี่ยนงาน ย้ายหอ เกิดเหตุฉุกเฉิน

  4. อย่าลืมเผื่องบสุขภาพและเงินเก็บ

    • หลังหัก “ที่พัก + เดินทาง + กินอยู่พื้นฐาน” แล้ว

    • พยายามให้ยังเหลือเงินเก็บอย่างน้อย 10–15% ของรายได้

ตัวอย่างการคำนวณค่าที่พัก

สมมติว่าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท มีค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ 15,000 บาท และอยากเก็บเงิน 5,000 บาทต่อเดือน คุณจะเหลือเงินสำหรับค่าเช่าห้อง 10,000 บาท คิดเป็น 33.33% ของเงินเดือน ซึ่งเกินกฎ 30% ไปเล็กน้อย แต่ถ้าห้องนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ และไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว

การเลือกที่พักที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของเรา จะช่วยให้เรามีชีวิตที่สมดุล ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ลองนำปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นไปพิจารณาดูนะครับ แล้วคุณจะพบว่าค่าเช่าห้องเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับคุณ

ค่าที่พัก ควรเช่าห้องไม่เกิน 1 ใน 3 ของเงิ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button