บิ๊กโจ๊ก ยื่นฟ้องตำรวจยศ พล.ต.อ. กูรูด้านกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น ให้ความเห็นชี้นำ ทำสังคมเชื่อว่าตนรับเงินพนันออนไลน์จริง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อยื่นฟ้องคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ท่านหนึ่ง ยศ พล.ต.อ. และเป็นกูรูด้านกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อเท็จจริงให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์หลังศาลอนุมัติหมายจับในคดีดังกล่าว
บิ๊กโจ๊ก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า แม้ว่าศาลจะออกหมายจับตนในคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่เป็นเพราะตนเองไม่ไปตามหมายเรียกไม่ใช่เพราะตนกระทำความผิด แต่การที่กูรูท่านนั้นซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งก็มีหน้าที่เพียงตรวจสอบและรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้มีหน้าที่ออกมาพูดวินิจฉัยเรื่องคดีหรือพิพากษาคดีเองแทนศาล รวมถึงต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ฟังความและพยานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคดีถึงที่สุดก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการที่กูรูให้ความเห็นคดีชี้นำสังคม ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่าตนรับเงินเว็บพนันจริงหรือมีความผิดฐานฟอกเงิน จึงเข้าข่ายหมิ่นประมาท
กูรูสามารถให้ความรู้ทางกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกหมายจับหรือหมายเรียก แต่ไม่ใช่ชี้นำสังคมให้เข้าใจว่าบุคคลใดมีความผิด แต่กูรูท่านนี้อาจเกษียณจากราชการตำรวจไปนานจนลืมข้อกฎหมายและละเมิดสิทธิ์ทางอาญา
ส่วนการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ให้เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการ ตนไม่ขอแทรกแซง แต่กระบวนการต้องถูกต้อง ชอบธรรม และเคารพสิทธิ์ตนด้วย ซึ่งตนไม่กังวลว่าจะถูกครหาที่วันนี้ออกมายื่นฟ้องหนึ่งใน ก.ตร. ยืนยันว่า ตนมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่หรือฟ้องปิดปากเพียงออกมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ใครไม่โดนแบบตนก็คงไม่รู้ ส่วนผลการประชุม ก.ตร. หากออกมาเป็นลบ ตนก็ยังมีช่องทางที่จะเรียกร้องสิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อได้ ตอนนี้เพียงรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
อย่างไรก็ตามวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. ตนเตรียมยื่นฟ้องกูรูอีก 1 คนด้วย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นเดียวกันและสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย ส่วนที่ตนถูกดำเนินคดีเรื่องพนันออนไลน์ หากตนผิดก็น้อมรับ ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่จะไม่ขอพูดชี้นำสังคมและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ก็เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ถ้าตนเป็นผู้รักษากฎหมายเองแต่ไปรับเงินเว็บพนันเอง คงไม่มียางอายที่จะมารับใช้ประชาชน และหากตนผิดชัดเจนก็ถือว่าเกมโอเวอร์
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง โดยเป็นความขัดแย้งหลายระดับตามที่ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าวจริง
ส่วนที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำรถส่วนตัวไปจอดที่จอดรถประจำตำแหน่งของตนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่าคุยกับสำนักงานของตนแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่อง เพราะไม่มีการประสานมา ส่วนตนก็ไม่มีที่จอดรถในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และไม่ได้ดีลอะไรกับทนายตั้ม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘เศรษฐา’ ขอให้ยึดตามกฎหมาย หลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ บุกฟ้องรูดนายก-สามบิ๊กตำรวจ
- ‘บิ๊กโจ๊ก’ จ่อฟ้อง ‘นายก’ บวกสาม ‘บิ๊ก ต.’ หากไม่เปลี่ยนคำสั่ง
- ตั้ม แฉหลังไมค์ “บิ๊กโจ๊ก” ได้กลับแน่-มีดีลแล้ว เชื่อ “บิ๊กต่าย” เจอทั้งขึ้นทั้งล่อง
