สุขภาพและการแพทย์

ซาวน่า อันตรายจริงหรือ? หลังคนผวาข่าว “ซาวน่ามรณะ” กลุ่มเสี่ยงต้องระวัง

สืบเนื่องจากข่าว ซาวน่ามรณะ หญิงอายุ 68 ปี ใช้บริการซาวน่าในฟิตเนสแห่งหนึ่งย่าน นนทบุรี แล้วเกิดเสียชีวิต ไม่มีใครทราบ เวลาผ่านไปนานกว่า 5-6 ชั่วโมง จนสภาพหนังเปื่อยยุ่ย แม้ว่ายังไม่ทราบสาเหตุเสียชีวิตที่แท้จริง แต่ก็ทำให้ประชาชนหลายคนแพนิคไปแล้วว่า ความร้อนจากอบซาวน่าทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่

วันนี้ Thaiger จะพาไปสรุปข้อมูลประโยชน์ของการเข้าห้องอบไอน้ำ และใครบ้างที่ควรระวัง

ห้องซาวน่า หรือที่เรียกว่า ‘ห้องอบไอน้ำ’ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในหลายประเทศ โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก เช่น ตุรกี รัสเซีย ในประเทศฟินแลนด์ ถือว่าซาวน่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันเลยทีเดียว มีห้องซาวน่าในประเทศมากถึง 2 ล้านห้อง ในขณะที่ประชากรมีเพียง 5 ล้านคน

ห้องซาวน่าโดยทั่วไปจะทำจากไม้ และมีการทำความร้อนให้มีอุณหภูมิสูงประมาณ 80-100 องศาเซลเซียส เราสามารถเพิ่มความชื้นได้โดยการราดน้ำบนหินร้อนภายในห้อง แต่โดยปกติแล้ว ซาวน่าจะเป็นแบบ ‘ความร้อนแห้ง’ ซึ่งแตกต่างจากห้องอบไอน้ำแบบทั่วไป

หากคุณเคยใช้บริการห้องซาวน่า จะทราบดีว่าภายในห้องนั้นร้อนจนเหงื่อไหลออกมาเยอะมาก หัวใจเต้นแรงขึ้น ผิวหนังก็เหนียวเหนอะหนะ รู้สึกเหมือนได้ออกกำลังกายโดยที่ไม่ได้ขยับตัวเลย และเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย มีงานวิจัยมากมายที่บ่งชี้ว่าการใช้ห้องซาวน่าเป็นประจำมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว

ประโยชน์ของซาน่า

การใช้ห้องซาวน่ามีความปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ และมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยให้สุขภาพหัวใจและจิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยผ่อนคลาย เราจะมาเจาะลึกถึงประโยชน์ของการใช้ห้องซาวน่าเป็นประจำกัน

1. สุขภาพหัวใจดีขึ้น

งานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่าการอบซาวน่าเป็นประจำสามารถช่วยบำรุงหัวใจและระบบหลอดเลือดได้ เนื่องจากซาวน่าส่งผลต่อเซลล์ หลอดเลือดแดง และระบบประสาท ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพหัวใจ การศึกษาในผู้ชายชาวฟินแลนด์พบว่าผู้ที่ใช้ซาวน่ามีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเฉียบพลันจากโรคหัวใจลดลงถึง 63% โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้ซาวน่าบ่อยครั้ง ครั้งละมากกว่า 20 นาที อย่างน้อยสี่ครั้งต่อสัปดาห์

2. ลดความดันโลหิต

ถึงแม้ว่าการอบซาวน่าจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตในระยะสั้น (คล้ายกับตอนออกกำลังกาย) แต่งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์ในระยะยาวต่อการลดความดันโลหิต ซาวน่าสามารถช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูงในอนาคตสำหรับผู้ที่ยังไม่มีภาวะนี้

3. ลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

การใช้ซาวน่าเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้ การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่ใช้ซาวน่า 4-7 ครั้งต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ลดลงมากกว่าครึ่ง

4. ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

ความร้อนจากซาวน่าช่วยปล่อยสารที่เรียกว่า brain-derived neurotrophic factor (BDNF) ซึ่งช่วยในการรักษากล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ความร้อนยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยในการฟื้นฟู

5. บรรเทาอาการปวดข้อและเพิ่มการเคลื่อนไหว

ซาวน่าไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ แต่ยังช่วยผู้ที่มีอาการปวดและข้อติด ผู้ป่วยโรครูมาตอยด์และโรคข้ออักเสบชนิด ankylosing spondylitis มีอาการปวดลดลงและการเคลื่อนไหวดีขึ้น ผู้ป่วยโรคไฟโบรมัยอัลเจียและปวดหลังส่วนล่างก็มีอาการปวดเรื้อรังลดลง นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการปวดยังรายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นหลังจากใช้ซาวน่า แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีอาการปวดเรื้อรัง การใช้ซาวน่าก็อาจช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยและความเหนื่อยล้าทั่วไปได้

6. ปรับปรุงการหายใจสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและ COPD

การใช้ซาวน่าช่วยปรับปรุงการทำงานของปอดและการหายใจในเกือบทุกคน ผู้ป่วยโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รายงานว่าพวกเขารู้สึกหายใจได้ดีขึ้นหลังจากใช้ซาวน่า และการศึกษาแสดงให้เห็นว่าปอดของพวกเขาทำงานได้ดีขึ้นหลังจากการใช้ซาวน่า แม้ว่าการปรับปรุงจะเล็กน้อย แต่ความรู้สึกที่ดีขึ้นของพวกเขานั้นเป็นที่น่าสังเกต

7. ผิวหนังสุขภาพดีขึ้นในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน

ในคนส่วนใหญ่ การใช้ซาวน่าเป็นประจำไม่มีผลต่อผิวหนังมากนัก แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน การใช้ซาวน่าช่วยลดจำนวนของคราบและสะเก็ดบนผิวหนังได้

8. ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า

การใช้ซาวน่าช่วยลดความเครียดโดยรวม และมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามันสามารถลดระดับฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลได้ ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าและใช้ซาวน่าเป็นประจำอาจสังเกตเห็นว่าความอยากอาหารเพิ่มขึ้นและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

9. ขับสารพิษและโลหะหนัก

บางคนใช้ซาวน่าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมล้างพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาวน่ามีประโยชน์ในการขับสารพิษที่สะสมอยู่ในไขมัน เช่น โลหะหนัก บางคนยังใช้ซาวน่าเพื่อช่วยล้างพิษยาเสพติดออกจากร่างกาย เนื่องจากยามักจะสะสมอยู่ในไขมันเช่นกัน เป็นไปได้ว่าซาวน่าอาจช่วยกำจัดสารเคมีเหล่านี้ผ่านเหงื่อ แต่ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าสิ่งนี้ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของผู้คนอย่างไร ถึงกระนั้นก็ตาม บางคนรายงานว่ารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากเข้าร่วมโปรแกรมล้างพิษด้วยซาวน่า

10. ลดไข้หวัดและการติดเชื้อไวรัส

การใช้ซาวน่าสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งอาจช่วยลดจำนวนครั้งที่คุณเป็นหวัดและติดเชื้อไวรัส ผู้ที่ใช้ซาวน่าเป็นประจำรายงานว่ามีจำนวนครั้งที่เป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่เคยใช้ซาวน่าประมาณครึ่งหนึ่ง

11. นอนหลับดีขึ้น

เป็นไปได้ว่าการเพิ่มอุณหภูมิร่างกายหลังจากอยู่ในซาวน่าช่วยฟื้นฟูจังหวะ circadian rhythm ตามธรรมชาติ ผู้คนรายงานว่านอนหลับได้ดีขึ้นในคืนหลังจากทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน รวมถึงซาวน่า แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบของซาวน่าต่อรูปแบบการนอนหลับก็ตาม

ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า?

คนส่วนใหญ่สามารถใช้ซาวน่าได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ แต่บางคนอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น โรคกลัวที่แคบหรือไม่ทนต่อความร้อน แต่อาการเหล่านี้อาจดีขึ้นเมื่อใช้ซาวน่าบ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม มีข้อห้ามและเหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ซาวน่าอย่างชัดเจน ได้แก่:

  • ผู้ที่เพิ่งมีอาการหัวใจวาย หรือเพิ่งเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
  • ผู้ที่มีโรคหัวใจที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก (โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ)
  • ผู้ที่มีภาวะลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรง (ลิ้นหัวใจใหญ่ตีบ)
  • ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรง หรือควบคุมไม่ได้
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนท่า (Orthostatic hypotension)
  • สตรีมีครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์
  • เด็ก

นอกจากนี้ บุคคลเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ซาวน่า เช่น:

1. ผู้ที่กังวลเรื่องภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย เพราะมีหลักฐานแสดงว่าการใช้ซาวน่าเป็นประจำอาจลดการผลิตสเปิร์ม แต่โชคดีที่ผลกระทบนี้จะกลับคืนสู่สภาพเดิมเมื่อหยุดใช้ซาวน่า

2. ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หัวใจล้มเหลว หรือความดันโลหิตสูง บางคนที่มีภาวะเหล่านี้อาจมีอาการความดันโลหิตสูงหรือต่ำ ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกหรือวิงเวียนศีรษะได้ และมีการศึกษาขนาดเล็กแสดงให้เห็นความเสี่ยงต่อปัญหาหัวใจที่รุนแรงมากขึ้นในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แม้ว่านักวิจัยจะระบุว่าผลกระทบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้ใช้ซาวน่าที่ดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

3. ทุกคน รวมถึงผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างการอบซาวน่า

โดยรวมแล้ว การอบซาวน่าถือว่าปลอดภัย แม้แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เมื่อเริ่มใช้ซาวน่าครั้งแรก ควรเริ่มต้นด้วยการอบครั้งละ 5-10 นาที และค่อยๆ เพิ่มเวลาเป็น 20-30 นาที แต่ไม่ควรเกินกว่านั้น ขอแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ ก่อนและหลังการใช้ซาวน่า เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำจากการสัมผัสความร้อน

อ้างอิงจาก : goodrx

อ่านข่าวที่เกียวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button